การทำธุรกิจแบบไม่วางกลยุทธ์ ไม่เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย หรือเน้นขายเพียงอย่างเดียว อาจทำให้คุณไม่สามารถสร้างคอนเทนต์ได้ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าให้กับแบรนด์
ซึ่งจะดีกว่าไหม หากคุณทำการตลาด และ สร้างคอนเทนต์ได้แบบ “รู้ใจ รู้ความต้องการ รู้ช่องทาง และมอบคุณค่าดี ๆ ” ให้กับผู้บริโภคได้ จะทำให้แบรนด์ของคุณกลายเป็นแบรนด์เลิฟ ที่ใคร ๆ ก็ให้ความสนใจ และซื้อสินค้าจากคุณ
สำหรับวันนี้ STEPS Academy มีบทความที่จะช่วยให้นักการตลาด และเจ้าของธุรกิจ Startup สามารถ ทำคอนเทนต์ให้ถูกใจ กลุ่มเป้าหมายได้ ซึ่งบทความนี้จะเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมาย Generation Z หรือ Zoomer กันด้วยการใช้เทคนิค SEO เพื่อสร้างคอนเทนต์ให้ถูกใจ เข้าถึงผู้อ่าน และ ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้กันค่ะ
ทำความรู้จักกับ Generation Z
Generation Z หรือที่บางคนรู้จักกันในชื่อ Zoomer เป็นผู้ที่เกิดระหว่างปี 1997-2012 ซึ่งหากเทียบสัดส่วนประชากรของคน Generation นี้ในประเทศสหรัฐอเมริกาจะอยู่ที่ 28.1% ซึ่งมากกว่ากลุ่ม Millennials (22%) และ กลุ่ม Baby Boomers (21.8%) (ข้อมูลจาก Pew Research)
เมื่อเราเห็นสัดส่วนประชากรของกลุ่มคน Gen Z เมื่อเทียบกับคนรุ่นอื่น ๆ แล้ว เราก็พอจะทราบว่า Gen Z เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีอิทธิพลต่อธุรกิจอุตสาหกรรมมากพอสมควรในหลาย ๆ ด้าน นอกจากนี้ สถิติจากเว็บไซต์ millennialmarketing.com ยังเผยอีกว่า ผู้บริโภคกลุ่ม Zoomer มีกำลังซื้อสินค้าในตลาดสูงถึง 1.54 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
เนื่องจากผู้บริโภคยุค Gen Z เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี และอินเทอร์เน็ตที่พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูล และสื่อต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ทำให้คนกลุ่มนี้มาความเชี่ยวชาญในด้านการใช้เครื่องมือดิจิทัล และ Gadget ที่ทันสมัยอย่างคอมพิวเตอร์ ไอแพด และสมาร์ทโฟน รวมทั้งยังชอบการสื่อสารผ่านพื้นที่โซเชียลมีเดียในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ทำให้กลุ่ม Gen Z มีสมาธิค่อนข้างสั้นกว่า Generation อื่น ๆ และไม่โฟกัสกับอะไรได้นาน ซึ่งนั่นทำให้กลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้เลือกที่จะรับสารที่เป็นประโยชน์ และสามารถสร้างคุณค่าให้กับพวกเขาได้จริง จึงไม่แปลกใจที่คนยุค Gen Z จะเปลี่ยนใจไปใช้แบรนด์ใหม่ ๆ หากแบรนด์เหล่านั้นตอบโจทย์ความต้องการได้มากกว่า และสามารถเข้าถึงกลุ่ม Gen Z ได้ง่ายกว่า
ทำไมแบรนด์ควรทำการตลาดที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่ม Generation Z ?
เหตุผลที่ แบรนด์ออนไลน์ควรโฟกัสกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่ม Generation Z นั่นก็เพราะ ผู้บริโภคกลุ่มนี้สามารถสร้างเม็ดเงินได้มหาศาลให้กับธุรกิจ E-Commerce และ อย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้นแล้วว่า สัดส่วนประชากรของคนกลุ่มนี้มีจำนวนมากกว่ากลุ่มเป้าหมาย Generation อื่น ๆ ซึ่งถึงแม้ว่านั่นจะเป็นแค่เพียงสถิติจากสหรัฐอเมริกา แต่กลุ่ม Zoomer ก็มีแนวโน้มการเข้าถึงช่องทาง Social Media มากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ซึ่ง 75% ของคนกลุ่มนี้ชอบใช้สมาร์ทโฟนเพื่อค้นหาข้อมูล และสื่อสาร (Institute of Business Management)
นอกจากนี้ คนกลุ่มนี้ยังมีการรวมตัวผ่าน Social Community เพื่อเป็น Safe Zone เพื่อสร้างตัวตน และเป็นที่ ๆ มอบความบันเทิงให้กับพวกเขาได้ ซึ่งผู้เขียนมีสถิติที่น่าสนใจมาฝากกันเกี่ยวกับการบริโภคสื่อคอนเทนต์ของคนกลุ่มนี้ค่ะ
- Generation Z เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ใช้เวลาบนโลกอินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงข้อมูล และเทรนด์ใหม่ ๆ ซึ่ง 73% ของ Gen Z มักใช้เวลาไปกับการส่งข้อความ และการแชท
- 59% ของกลุ่ม Gen Z ใช้เวลาบนโลกโซเชียลเพื่อหาความบันเทิง และ 58% ใช้เวลาไปกับการเล่นเกม
- ข้อมูลจาก review42.com เผยว่าลูกค้า Gen Z สมัครเป็น Loyalty Membership มากถึง 74.35% เพื่อการบริการแบบเฉพาะบุคคล และต้องการรับข่าวสาร โปรโมชั่นใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์กับตัวเอง
- 67% ของ Gen Z ให้ความสำคัญกับแฟชั่นมากกว่ากลุ่มผู้บริโภคอื่น ๆ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะซื้อง่ายกว่า (review42.com)
- 44% ของกลุ่มลูกค้า Gen Z จองโรงแรมและสถานที่เที่ยวผ่านเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน (review42.com)
จากสถิติที่ผู้เขียนได้หยิบยกมาให้ดูคร่าว ๆ จะเห็นได้ว่ากลุ่ม Generation Z จะใช้สมาร์ทโฟน และทำการซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้นักการตลาดสามารถทำคอนเทนต์ และ แคมเปญโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนี้ได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่น ๆ
แบรนด์สามารถทำคอนเทนต์ให้ถูกใจกลุ่ม Generation Z ได้อย่างไร
1 ทำความเข้าใจถึงตัวตน และความต้องการด้วยการวิเคราะห์ Customer Persona
อันดับแรก นักการตลาดควรคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายที่จะกลายมาเป็นลูกค้าของแบรนด์เราก่อน ว่ามีลักษณะอย่างไร ซึ่งนอกเหนือจากที่เราทราบแล้วว่า กลุ่ม Gen Z ชอบใช้เวลาอยู่บนโลกโซเชียล ชอบคอนเทนต์ที่หลากหลาย และมี Engagement กับคอนเทนต์วิดีโอเป็นพิเศษ เราควรทำความเข้าใจกับกลุ่ม Gen Z ให้ครบทุกด้านที่จำเป็นต่อการทำการตลาดออนไลน์ของธุรกิจคุณเอง ด้วยการทำ Customer Persona
คำถามหลัก สำหรับการทำ Customer persona มีอยู่ด้วยกัน 4 คำถามคือ
Who , What , Why , How
Who :
เขาเป็นใคร เช่น ชื่อ (เป็นชื่อสมมติขึ้นมาเพื่อให้ง่ายต่อการเรียก) อายุ เพศ การศึกษา ตำแหน่งงาน รายได้ ที่อยู่ ลักษณะครอบครัว บุคลิกภาพ เป็นต้น
What :
อะไรคือสิ่งที่เขาต้องการ เช่น เป้าหมายในชีวิต ความท้าทายในชีวิตเขาคืออะไร ความต้องการเขาคืออะไร ซึ่งกลุ่ม Gen Z โดยทั่วไปนั้นจะมีลักษณะ;
- ต้องการสิ่งใหม่ ๆ และแตกต่าง จะทำให้พวกเขารู้สึกได้ว่า สิ่งนี้เป็นความท้าทายในชีวิต และรู้สึกสนใจ อยากทดลอง
- ชอบความมีจุดยืนของแบรนด์ หรือทำอะไรเพื่อสังคม และ สิ่งแวดล้อม
- ให้ความสนใจแบรนด์ที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้
- ไม่ชอบโฆษณาที่ยัดเยียดเกินจริง
- มีความอดทนต่ำเมื่อเทียบกับ Generation อื่น โฟกัสอะไรได้ไม่นาน
Why :
ทำไมเขาถึงเลือกใช้บริการของคุณ พวกเขามีวัตถุประสงค์ใดที่คุณสามารถตอบโจทย์เขาได้ ซึ่งในจุดตรงนี้จะทำให้ทราบถึงความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มลูกค้า ซึ่งนักการตลาดจะต้องหาจุดแข็งของแคมเปญมานำเสนอให้ตอบโจทย์ มากกว่าที่จะบอกว่าสินค้าเรามีคุณภาพ
เช่น การทำคอนเทนต์วิดีโอฮาวทู หรือทำคอนเทนต์ที่มีการรีวิวผ่าน Influencer จะทำให้คน Gen Z สนใจเป็นพิเศษ
How :
วิธีการซื้อสินค้าหรือบริการ เขาเดินทางมาเจอคุณได้ยังไง ผ่านอะไรบ้าง พบเห็นคุณจากช่องทางไหนบ้าง ในร้านค้าออฟไลน์ หรือร้านค้าออนไลน์
ตัวอย่างช่องทางออนไลน์ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่ม Zoomers
- การทำวิดีโอคอนเทนต์ผ่าน TikTok, YouTube และ Facebook
- การทำคอนเทนต์เพื่อส่งต่อความรู้ดี ๆ ผ่านทางเว็บไซต์ และ Twitter
- โพสต์ข่าว และสาระสั้น ๆ ที่อยู่ในกระแสผ่าน Twitter เป็นต้น
2 นำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์ความต้องการ และพฤติกรรมการบริโภคของชาว Gen Z เพื่อทำ Personalization
คนรุ่นใหม่ในรุ่น Gen Z จะให้ความสำคัญกับการทำการตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเอง และอาจเปลี่ยนใจไปใช้บริการ หรือซื้อสินค้าจากแบรนด์คู่แข่งได้ หากคุณสมบัติ โปรโมชั่น และสิ่งจูงใจเหนือกว่าแบรนด์ของเรา ดังนั้น การนำข้อมูลที่แบรนด์มี มาวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า เพื่อทำความเข้าใจว่า ลูกค้ามีให้ความสนใจกับคอนเทนต์แบบไหน หรือมีปฏิสัมพันธ์ (Engagement) จากคอนเทนต์ประเภทใด จะช่วยให้การทำคอนเทนต์ครั้งต่อไปดีขึ้น ซึ่งเราสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ Data เช่น Google Analytics เพื่อหาคอนเทนต์ยอดนิยม และเจาะกลุ่มเป้าหมายในการทำการตลาดให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ การทำคอนเทนต์ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า แบรนด์เราเอาใจใส่ ให้ความรู้สึกพิเศษ
หรือได้รับคอนเทนต์ที่ตรงกับความสนใจ และทำให้เกิด Engagement ได้บนโลกโซเชียล จะทำให้คอนเทนต์ของเราเข้าถึงกลุ่ม Gen Z ได้ดีกว่าเดิม เนื่องจากกลยุทธ์ Personalization เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ ที่ต้องการซื้อสินค้าแบบเฉพาะเจาะจงตามความต้องการของตัวเอง ซึ่งแบรนด์สามารถทำ Email Marketing โดยเสนอคอนเทนต์ข่าวสาร และ สินค้าใหม่ ๆ ที่ลูกค้าคนนี้กำลังสนใจ ด้วยการใส่ชื่อจริงของลูกค้าทักทายไปยังอีเมลลูกค้า
3 ชาว Gen Z กับวิธีการค้นหาข้อมูล
การทำคอนเทนต์ในยุคดิจิทัลไม่ใช่แค่การจับกระแสมามานำเสนอ หรือทำคอนเทนต์แบบ Real-Time เท่านั้น แต่นักการตลาดจะต้องรู้จักการนำเทคนิค SEO มาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุดต่อการทำคอนเทนต์ ซึ่งหนึ่งในเทคนิค SEO ที่จะช่วยให้การทำ Content Marketing ประสบความสำเร็จคือ การวิเคราะห์การสืบค้นข้อมูลของกลุ่ม Gen Z ผ่าน Search Engine อย่าง Google
กลุ่มเป้าหมาย Zoomers โดยทั่วไปจะมีความคล่องแคล่วในการใช้สมาร์ทโฟน และเชี่ยวชาญเรื่องอินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีอยู่แล้ว ซึ่งวิธีการหาข้อมูลของชาว Zoomers นั้นจะมีลักษณะดังต่อไปนี้
- จะเลือกคลิกบทความ หรือเว็บไซต์ที่อยู่ในหน้าแรกของ SERP (Search Engine Results Pages) บน Google
- หาก Google นำเสนอ Featured Snippets หรือคอนเทนต์อันดับ 0 ที่มีเนื้อหาที่ผู้เสิร์ชกำลังค้นหา หรือเป็นคำตอบที่ต้องการ Gen Z ก็อาจจะไม่คลิกไปยังคอนเทนต์นั้น ๆ แล้ว
ตัวอย่าง Features Snippets ที่มักจะแสดงเนื้อหา ที่เป็นคำตอบจากการเสิร์ชหาข้อมูลต่าง ๆ
- 60% ของ Gen Z จะปิดหน้าเว็บไซต์ทันทีหากมีการดาวน์โหลดเนื้อหา หรือรูปภาพนานเกินไป
- คอนเทนต์วิดีโอ หรือรูปภาพแบบ Carousel ที่มีหลาย ๆ รูป จะดึงดูดความสนใจจากกลุ่ม Gen Z ได้ดีกว่าคอนเทนต์ที่มีเนื้อหายาว ๆ
- Gen Z นิยมใช้คำสั่งเสียงผ่านสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์เคลื่อนที่อื่น ๆ ดังนั้นการใช้ Long-Tail Keyword หรือ Keyword ที่เป็นวลี และ ประโยคในการทำ SEO จะช่วยให้คอนเทนต์ของเราถูกค้นเจอได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างการใช้คำค้นหาแบบ Long Tail Keyword
4 สร้างคอนเทนต์ให้ถูกใจ ด้วยการใช้หลัก SEO
ในหัวข้อนี้ ผู้เขียนจะขอสรุปเป็นหัวข้อสั้น ๆ เพื่อให้ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย Generation Z ว่าเป็นอย่างไร และแนะนำวิธีการทำคอนเทนต์ให้เหมาะสมด้วยการใช้หลัก SEO กันค่ะ
- คอนเทนต์ที่สร้างขึ้นจะต้องน่าเชื่อถือ รู้ลึก รู้จริง และตรวจสอบได้
- คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม และสถานการณ์ในปัจจุบันที่ใคร ๆ กำลังพูดถึง จะได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ
- คอนเทนต์วิดีโอได้รับความนิยมมาก ซึ่งใน 1 สัปดาห์ กลุ่ม Gen Z จะใช้เวลากับการดูวิดีโอมากถึง 23 ชั่วโมง (Criteo)
- นอกจากนี้คอนเทนต์วิดีโอที่กลุ่ม Gen Z นิยมคือ YouTube (60%) และให้ความสนใจกับคอนเทนต์เป็นรูปภาพบน Instagram สูงถึง 62% (Business Insider)
- เน้นการสร้างคอนเทนต์มากกว่า 1 แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้คอนเทนต์ที่สร้างขึ้น เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด และเมื่อคอนเทนต์ของเรามีการพูดถึง หรือมี Engagement มากขึ้น Google ก็จะทำการประมวลผลให้คอนเทนต์นั้น ๆ อยู่ในลำดับการค้นหาที่สูงขึ้น
- ใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ Keyword เพื่อสร้างคอนเทนต์ให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าของเรา โดยที่เราสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายให้เป็นกลุ่มคนในพื้นที่ในการทำธุรกิจ เลือกเพศ ภาษา และความนิยมของ Keyword ต่าง ๆ ในช่วงเวลาหนึ่งได้
สรุป
ข้อมูลจาก
https:// moz.com
https:// blog.hubspot.com
https:// review42.com
