สำหรับใครที่เป็น Content Marketer การนำเสนอคอนเทนต์ต่าง ๆ ให้ดึงดูดความสนใจกลุ่มเป้าหมายนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งแน่นอนว่านอกจากเนื้อหาที่อยากนำเสนอแล้ว กราฟิกที่ดีก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้กระตุ้นความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
ในครั้งนี้ ทาง STEPS Academy จึงขออาสาพามาดูกันว่าในปี 2023 นี้มีเทรนด์กราฟิกอะไรที่น่านำไปปรับใช้บ้าง เพื่อให้การนำเสนอคอนเทนต์ในปีใหม่ได้ผลลัพธ์ดีกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา
9 เทรนด์กราฟิกดีไซน์น่าปรับใช้ในปี 2023
1.3D design
หากเปรียบเทียบกับกราฟิกเรียบ ๆ ทั่วไป กราฟิกแบบ 3 มิติจะช่วยให้คอนเทนต์ดึงดูดสายตาคนได้มากขึ้น ซึ่งในสมัยนี้ก็มีหลายโปรแกรมที่ช่วยให้ออกแบบกราฟิกแบบ 3 มิติได้ เช่น โปรแกรมยอดนิยมยาวนานอย่าง Adobe ค่ะ
ธุรกิจทุกประเภทสามารถนำเทคนิคกราฟิกแบบ 3D ไปประยุกต์ใช้ได้นะคะ อย่างในตัวอย่างก็เป็นทั้งภาพโปรโมตธุรกิจร้านขนม และธุรกิจทั่วไปที่นำเสนอ Data ให้เข้าใจง่าย เป็นต้นค่ะ
Source: Eslam Mhd
Source: Victoria Arseni,
2.Branded illustrations
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือทาง Google ที่มักจะเปลี่ยนรูปแบบโลโก้ตามเทศกาลต่าง ๆ (Google Doodles) เพื่อให้ดูเป็นแบรนด์ที่มีชีวิตจิตใจ มีสีสัน และเข้าถึงได้ง่าย
ถึงแม้ว่าธุรกิจของเราจะไม่ได้ใหญ่ขนาด Google แต่เราก็สามารถนำโลโก้แบรนด์มาปรับเป็นลูกเล่นต่าง ๆ ให้เข้ากับเทศกาลได้เช่นเดียวกัน เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นมิตรให้กับผู้ติดตาม
Source: Angelica McKinley
3.Motion
Motion หรือภาพวิดีโอเคลื่อนไหวมักจะกระตุ้นความสนใจของคนได้ไวกว่าภาพนิ่ง ยิ่งถ้าสามารถดึงดูดให้คนหยุดดูได้ตั้งแต่ไม่กี่วินาทีแรก โอกาสที่กลุ่มเป้าหมายจะจดจำแบรนด์ของเราได้ดีกว่าคู่แข่งก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งการทำ Motion หรือ Gif ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ขอแค่มีไอเดียสร้างสรรค์และหาวิธีการทำที่เหมาะสมก็เพียงพอแล้วค่ะ
4.Utilitarian Design
คำว่า Utilitarian หมายถึงหลักการเกี่ยวกับประโยชน์นิยม ซึ่งจะเน้นใส่แค่เนื้อหาสาระที่จำเป็นในกราฟิกเท่านั้น
ในกราฟิกสไตล์ Utilitarian Design จึงจะเหลือพื้นที่ว่างสบายตา เพื่อช่วยให้กลุ่มเป้าหมายจดจำสิ่งสำคัญที่ต้องการสื่อสารได้ง่าย และไม่เสียเวลากับเนื้อหาที่ไม่จำเป็นค่ะ
Source: Novo.co
คลิกเพื่อดูรายละเอียดหลักสูตร Digital Content Marketing เพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ
https://stepstraining.co/digital-content-marketing
5.Flat Design
Flat Design เป็นสไตล์กราฟิกที่เล่นกับรูปร่าง 2 มิติ โดยการนำรูปร่างต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวงกลม วงรี สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม ฯลฯ มาผสมผสานให้ออกมาเป็นภาพที่ต้องการ
ทำให้ได้ภาพกราฟิกที่ได้ดูโดดเด่น แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร และสามารถประยุกต์ใช้ได้ในเว็บไซต์ โดยความมินิมอล เรียบง่าย รายละเอียดน้อยอย่างนี้ช่วยให้เว็บไซต์โหลดได้ไวและไม่สูญเสียความคมชัดของภาพด้วยนะคะ
Source: Anna Żołnierowicz
6.‘90s & Y2k Styles
ช่วงนี้หลาย ๆ คนคงได้ยินเกี่ยวกับเทรนด์ Y2k อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเทรนด์นี้หมายถึงสไตล์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างปี 1990-2000
ดีไซน์แบบ Y2k จึงช่วยให้ผู้ที่ได้พบเห็นหวนนึกถึงวันเวลาเก่า ๆ ดึงเอาช่วงเวลาดี ๆ กลับมา แม้ว่าช่วงเวลานี้จะเป็นปี 2023 แล้วก็ตามค่ะ
7.Minimal Vintage
วินเทจเป็นสไตล์การดีไซน์ที่หลายคนคงได้ยินกันมานาน เพราะนอกจากความสวยงามและลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ดีไซน์แบบวินเทจยังช่วยให้กราฟิกของเราดูโดดเด่นท่ามกลางกราฟิกอื่น ๆ ที่เป็นสไตล์ทันสมัยด้วย
ทั้งนี้ มีข้อจำกัดเล็ก ๆ น้อยคือก่อนเลือกใช้กราฟิกสไตล์วินเทจ เราต้องดูด้วยว่าเนื้อหาที่นำเสนอนั้นจะเหมาะสมไหมกับการทำ Storytelling ออกมาในสไตล์นี้ เพราะถ้าฝืนใช้โดยไม่ดูความสอดคล้องของเนื้อหา ผู้ที่พบเห็นอาจรู้สึกว่าขัดตาได้นะคะ
Source: Beth Mathews
8.Creative Gradients
การไล่สีกราเดียนท์ทำให้ภาพกราฟิกดูน่าสนใจ ทันสมัย ไม่น่าเบื่อ และช่วยให้คนหยุดอ่านคอนเทนต์ในกราฟิกได้นานขึ้น ข้อดีของการไล่สีกราเดียนท์คือเราสามารถผสมผสานหลายสีเข้าด้วยกัน ทำให้ได้ไอเดียและโทนสีใหม่ ๆ ไม่จำเจค่ะ
9.Warm & Optimistic Colors
กราฟิกที่แสดงถึงการมองโลกแง่ดีและโทนสีอบอุ่นช่วยให้ผู้ที่ได้พบเห็นคอนเทนต์เหล่านั้นเกิดความรู้สึกเชิงบวกกับแบรนด์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกสงบ สบายใจ เชื่อใจ ความรู้สึกผ่อนคลายหรืออื่น ๆ ขึ้นอยู่กับสินค้าบริการหรือเนื้อหาที่เรานำเสนอค่ะ
คลิกเพื่อดูรายละเอียดหลักสูตร Digital Content Marketing เพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ : https://stepstraining.co/digital-content-marketing
สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Inbox STEPS Academy
LINE OA: @STEPStraining https://lin.ee/jRRdsrN
โทร 065-494-6646 หรือ 02-096-4474