การขึ้นมาเป็นผู้นำไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การฝึกฝนตัวเองให้เป็นผู้นำที่ดีได้นั้นยากยิ่งกว่า เพราะคำว่าหัวหน้าหรือผู้นำที่ดีนั้นต้องแลกกับคุณสมบัติหลาย ๆ อย่างที่จะสร้างความประทับใจให้กับคนอื่น ๆ ที่ได้ทำงานร่วมกันค่ะ
ในครั้งนี้ ทาง Upskill by STEPS Academy จึงขอมาเล่าถึง 4 คุณสมบัติสำคัญที่ผู้นำและหัวหน้าดี ๆ ควรมี ทักษะเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ
1.จัดการอารมณ์ได้ดี มี EQ สูง
คำว่า EQ (Emotional Intelligence) ในที่นี้หมายรวมทั้ง
- การจัดการควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ไม่ว่าความเครียดหรือความกดดันจากภาระงานจะมากมายแค่ไหนก็ตาม ไม่ลามไปโวยวายระเบิดอารมณ์ใส่ลูกน้องเมื่อพบเจอสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจ
- การพยายามทำความเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น ๆ ภายในทีมที่ต้องทำงานร่วมกัน ผ่านการไถ่ถาม และรับฟังความคิดเห็นอยู่เป็นประจำ
ซึ่งถ้าหัวหน้าสามารถรับมือกับอารมณ์ของตัวเองและอารมณ์ของคนในทีมได้ดีก็จะไม่ค่อยมีปัญหาจากอารมณ์ที่กระทบกับการทำงานค่ะ
ในทางกลับกัน ถ้าหัวหน้าบริหารอารมณ์ได้ไม่ดีเท่าไร คนรอบข้างที่ทำงานด้วยก็จะรู้สึกอึดอัด และถ้าเลือกได้ก็คงไม่อยากร่วมงานเท่าไรใช่ไหมล่ะคะ
สอดคล้องกับผลการศึกษาจาก TextMagic ที่ระบุว่า 65% ของพนักงานอยากได้หัวหน้าที่จัดการอารมณ์ได้ดีขึ้นมากกว่าการได้รับเงินเดือนเพิ่มเสียอีกค่ะ
2.เปิดใจรับฟังฟีดแบ็กและพร้อมนำไปปรับใช้
ปฏิกิริยาอัตโนมัติที่เรามักจะได้เห็นกันบ่อย ๆ คือเมื่อมีใครฟีดแบ็กอะไร อีกฝ่ายจะหาข้อแก้ตัวมาอ้างทันที ด้วยความที่คิดว่าตัวเองไม่ผิดบ้าง หรือคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูกที่สุดบ้าง ความคิดเห็นและคำแนะนำจากคนรอบข้างจึงถูกปัดตกไป ทำให้เสียโอกาสในการพัฒนาตัวเองค่ะ
เช่นเดียวกับผลการศึกษาจาก The Emotional Intelligence Institute ที่ระบุว่า หัวหน้าจำนวนมากยังเป็นผู้รับฟังที่ไม่ดีพอ ดังนั้น ถ้าอยากพัฒนาทักษะในส่วนนี้เพื่อเป็นที่รักก็ควรจะเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนในทีมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
อย่างที่มีคำกล่าวว่า “ฟีดแบ็กคืออาหารเช้าชั้นดีของผู้นำที่ยิ่งใหญ่” (แนวคิดของ Ken Blanchard เจ้าของผลงานหนังสือเกี่ยวกับทักษะความเป็นผู้นำกว่า 60 เล่ม)
แต่ถ้าจู่ ๆ จะให้พนักงานเข้ามาพูดฟีดแบ็กเลยก็คงไม่มีใครกล้าเท่าไรนัก หัวหน้าจึงควรเริ่มเปิดประเด็นด้วยตัวเอง เช่น ถามว่า “คิดว่าในฐานะหัวหน้าเรายังพัฒนาหรือแก้ไขเรื่องอะไรได้บ้าง” เป็นต้นค่ะ
3.ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนเท่าเทียมกัน
แน่นอนว่าคนเราย่อมมีลักษณะของคนที่ชอบและไม่ชอบ อยากร่วมงานหรือไม่ค่อยอยากร่วมงานด้วยอยู่แล้ว แต่ในฐานะหัวหน้า เราควรวางตัวเป็นกลางให้มากที่สุด เพราะถ้าพนักงานได้รับการปฏิบัติที่ดี พวกเขาย่อมเต็มใจที่จะทำงานให้สำเร็จลุล่วง
ในทางกลับกัน ถ้าหัวหน้าแสดงออกชัดเจนถึงอคติที่มีต่อบางคนแล้วเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าใครก็ย่อมสัมผัสได้ ทำให้บรรยากาศการทำงานไม่ดีเท่าไร และคนที่ถูกกระทำแบบนั้นก็จะทนอยู่ได้ไม่นาน
ดังนั้น เราจึงควรทำให้ทุกคนรู้สึกว่าได้รับการรับฟัง ได้รับโอกาสเช่นเดียวกัน และเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญขององค์กรนะคะ
4.แก้ไขความขัดแย้งและช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างคนในทีมได้ดี
ในการทำงานระหว่างทีมต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการทำงานภายในทีมย่อมมีความไม่เข้าใจเกิดขึ้นบ้างเป็นธรรมดา หัวหน้าที่ดีจึงควรวิเคราะห์ต้นตอของปัญหาให้ได้ เพื่อหาทางจัดการให้ถูกจุด ทั้งที่มาของปัญหาในเชิงตัวงาน และในด้านความสัมพันธ์ของคนค่ะ
ซึ่งการทำอย่างนี้ได้ต้องอาศัยความประนีประนอมอยู่พอสมควร เพื่อไม่ปล่อยให้ปัญหาเรื่องงานไปกระทบความสัมพันธ์ระหว่างคนในทีมค่ะ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นการงานร่วมงานกันในครั้งต่อ ๆ ไปจะไปต่อได้ยาก และงานอาจจะเดินช้ากว่าที่ควรจะเป็นด้วยค่ะ
ดังนั้น หัวหน้าที่ดีจึงควรรู้วิธีรับมือกับคนที่มีบุคลิกลักษณะนิสัยหลากหลายรูปแบบ ทั้งวิธีการสื่อสาร วิธีการให้ฟีดแบ็ก วิธีการให้คำแนะนำ วิธีการเตือนสติ เป็นต้นค่ะ เพราะเราไม่สามารถใช้วิธีการเดียวกันกับทุกคนได้นั่นเอง
ถอดรหัสความสำเร็จของผู้นำที่ดีผ่านคอร์สเรียน Leadership Skills จากแพลตฟอร์มคอร์สออนไลน์ Upskill by STEPS Academy คอร์สเรียนที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะความเป็นผู้นำผ่าน Framework ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ
อ่านรายละเอียดคอร์สเรียนเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้เลยค่ะ
https://upskill.in.th/courses/leadership-skill/