ออนไลน์กลายเป็นช่องทางหลักที่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ทําให้เกิดการเเข่งขันทางการตลาดสูงมากขึ้น ดังนั้น โพสต์นี้จะมาบอกกลยุทธ์วิธีสร้างความแตกต่างสําหรับธุรกิจ SME ที่ต้องการเติบโตพร้อมทั้งสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์หรือสินค้าของตัวเอง เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าและสร้างโอกาสทางธุรกิจ
1. การอัพเดทคอนเทนต์อยู่เสมอ
คอนเทนต์ที่มีการอัพเดทข้อมูลอยู่เสมอเป็นสิ่งสําคัญอันดับต้นๆ ของธุรกิจ SME พยายามปรับปรุงอัพเดทเนื้อหาบนช่องทางหลักของแบรนด์อยู่เสมอทั้งรูปแบบของบทความ วิดีโอ Infographic หรือ Email Marketing เอง
เนื่องจาก Search Engine ชอบเนื้อหาที่อัพเดทใหม่และมีความเกี่ยวข้อง ทําให้เราต้องหันกลับมาอัพเดทคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นโพสต์บล็อก บทความ หรือในหน้า Sale page เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา นอกจากนี้ให้ตรวจสอบคอนเทนต์ที่เขียนและปรับแต่งโครงสร้างของคอนเทนต์หากเป็นคอนเทนต์บนเว็บไซต์ให้ตรวจสอบ Internal link เพื่อสร้าง experience ลูกค้าเชื่อมโยงคอนเทนต์ไปหน้าต่างๆ โลดแล่นบนหน้าเว็บไซต์ได้อย่างไม่รู้จบ ซึ่งสิ่งนี้เป็นตัวช่วยในการทํา SEO Performance อย่างหนึ่ง
2. การใช้ Google Ads เข้าถึงลูกค้าในแต่ละพื้นที่
72% ของผู้บริโภคที่ทำการค้นหาในแต่ละพื้นที่มักจะเยี่ยมชมร้านค้าภายในระยะ 5 ไมล์ โดยสถิตินี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคจำนวนมากกำลังมองหาร้านค้าหรือธุรกิจที่ใกล้เคียงบนอินเทอร์เน็ต
ความจริงแล้ว Google Ads เรียกว่าเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยให้ธุรกิจ SME เข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยก็ว่าได้ เพราะด้วย Google Ads สามารถแสดงโฆษณาของให้กับผู้ใช้ที่ค้นหาคำหลักที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจในพื้นที่นั้นๆ
เข้าถึงลูกค้าในโลเคชั่นนั้นๆ ได้ง่ายๆ ด้วยวิธีการใช้ Google ads ต่อไปนี้
- กำหนดเป้าหมายโฆษณาของคุณอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญคือต้องกำหนดเป้าหมายโฆษณาให้ถูกต้องเพื่อให้แน่ใจว่าโฆษณาจะถูกแสดงให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม โดยสามารถกำหนดเป้าหมายโฆษณาของคุณตามปัจจัยต่างๆ เช่น สถานที่ตั้ง ความสนใจ หรือพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้
- ใช้ local keywords หรือคําหลักในท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นคำหลักที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของและสถานที่ตั้ง โดยใช้การรีเสิร์ชจะช่วยให้ระบุคำหลักที่ผู้คนใช้เมื่อค้นหาธุรกิจในพื้นที่เราได้แม่นยําขึ้น
- เพิ่มคําอธิบายหรือรีวิวในข้อความโฆษณา เพราะสิ่งนี้คือสิ่งที่เรียกความเชื่อมั่นในธุรกิจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ตัวอย่าง
สมมติว่าเราเป็นเจ้าของร้านกาแฟในกรุงเทพฯ และจะใช้ Google Ads เพื่อโปรโมทร้านกาแฟให้กับผู้ใช้ที่ค้นหาคำหลัก เช่น “ร้านกาแฟในกรุงเทพฯ”
“กาแฟสดในกรุงเทพฯ” หรือ
“ร้านกาแฟใกล้ฉัน”
ซึ่งเราก็สามารถกำหนดโลเคชั่นเป้าหมายเพื่อให้โฆษณาแสดงไปถึงผู้ใช้ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และสนใจในกาแฟสด และก็เพิ่มคํารีวิวหรือคําอธิบายเข้าไปเพิ่ม เช่น
“กาแฟที่นี่อร่อยมาก พนักงานก็บริการดี”
ทีนี้ร้านของเราก็จะเป็นเป้าหมายใหม่ให้ลูกค้าที่ต้องการหาร้านกาแฟในขณะนั้นแล้ว
3. การเล่าเรื่อง Storytelling สําคัญกับธุรกิจอย่างไม่น่าเชื่อ
ทุกวันนี้แบรนด์ควรหันมาให้ความสนใจการเล่าเรื่อง storytelling มากขึ้น เพราะเป็นการสร้างการเชื่อมต่อของข้อมูลและความรู้สึกที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ
อีกทั้งการเล่าเรื่องราวที่ดี ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบแบบการเล่าเรื่องผ่านตัวอักษรหรือการเล่าผ่านวิดีโอที่ดีเป็นตัวช่วยให้เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นลูกค้าได้ ทําให้ตัวของลูกค้าเองเกิดความเชื่อมโยงการเดินทาง ค่านิยม หรือความเชื่ออะไรบางอย่างที่อาจจะเชื่อมโยงกันระหว่างแบรนด์และลูกค้าเอง
ส่งผลให้เกิดความไว้วางใจ เชื่อใจใหม่ในกลุ่มลูกค้าที่ไม่เพียงแต่สนับสนุนอุดหนุนซื้อสินค้าเท่านั้น แต่ยังคงสนับสนุนเรื่องราวของแบรนด์ได้อีกด้วย ซึ่งจะนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นและลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ
ทุกธุรกิจสามารถใช้การเล่าเรื่องเพื่อประโยชน์ได้ สิ่งสำคัญคือต้องสร้างเรื่องราวที่ดึงดูดใจและเกี่ยวข้องซึ่งสะท้อนถึงคุณค่าและจุดประสงค์ของแบรนด์
บทสรุป
ธุรกิจ SME ควรให้ความสําคัญกับ 3 สิ่ง ที่จะช่วยให้ธุรกิจแตกต่างจากคู่แข่งได้
- การอัพเดทคอนเทนต์อยู่เสมอ
- การใช้ Google ads เพื่อเข้าถึงลูกค้าในแต่ละพื้นที่
- การใช้ Storytelling หรือการเล่าเรื่อง นํามาเล่าเกี่ยวกับโปรดัคหรือธุรกิจเอง
3 กลยุทธ์ง่ายๆ ที่คิดว่าทุกธุรกิจสามารถนําไปปรับใช้ตามกันได้ แล้วมาสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจในปีนี้กันค่ะ