อัปเดต! 6 การทำ Google Ads สำหรับธุรกิจ SME ปี 2023 

อัปเดตการทำ Google Ads สำหรับธุรกิจ SME ปี 2023

หนึ่งในช่องทางการทำโฆษณาออนไลน์ที่เป็นที่นิยมและได้ผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพคือการยิงแอดผ่าน Google Adwords โดยการทำ Google Ads เป็นช่องทางในการทำการตลาดที่ครอบคลุมหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง Search, YouTube, Gmail หรือ Google Shopping อีกทั้งยังช่วยผู้ประกอบการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่กลับได้ผลลัพธ์ และ ยอดขายเพิ่มขึ้น จึงไม่แปลกใจที่นักการตลาด และ ธุรกิจมักเลือกใช้ Google Ads ในการยิงแอดเป็นอันดับต้น ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งในบทความนี้จะพาคุณผู้อ่านไปดูเทรนด์การทำ Google Ads สำหรับธุรกิจ SME ในปี 2023 กันค่ะ

หากคุณต้องการพัฒนาการทำโฆษณาโดยเน้นไปที่แพลตฟอร์ม Google ทาง STEPS Academy มีหลักสูตรวางแผน และ พัฒนาการทำโฆษณามาฝาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์การทำการตลาดที่วางไว้ และตอบโจทย์เป้าหมายธุรกิจมากขึ้นค่ะ

หากสนใจ ท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://stepstraining.co/ads-optimization-101

 

1. อัปเดต Landing Page สำหรับยิงแอดให้ตรงกับเนื้อหา และ เกิดประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ใช้งาน 

แม้ว่าแบรนด์ของเราจะเป็นธุรกิจ SME ก็สามารถสร้างโฆษณาให้เกิดผลลัพธ์ได้ดีเช่นเดียวกับแบรนด์ขนาดใหญ่ โดยหน้า Landing Page เปรียบเสมือนหน้าต่างบานสำคัญที่จะนำลูกค้ามายังหน้าร้านค้าออนไลน์ และ เชื่อมมายังหน้าเนื้อหาหลักของแบรนด์ เนื่องจาก Google Ads คำนึงถึงประการณ์ของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มเป็นหลัก ดังนั้นทาง Google จึงกำหนดนโยบาย ที่นักกการตลาดควรปฏิบัติตามเพื่อให้ URL ของเราสามารถทำงานได้จริง มีคุณภาพ และ เกิด Conversion ซึ่งข้อกำหนดที่ทาง Google ได้ระบุเอาไว้นั้นมีดังนี้

  • ปลายทาง (Landing Page) ของโฆษณาจะต้องใช้งานสะดวก อัปโหลดหน้าเว็บได้ไว ทำให้การใช้งานไม่สะดุด
  • ลิงก์ URL ที่ใช้ควรเชื่อมต่อไปยังหน้าเว็บที่ตั้งใจวางไว้ ไม่เปลี่ยนเส้นทางหน้าเว็บอื่นโดยอัตโนมัติ
  • ควรปรับปรุง Landing Page โดยทันที หากพบว่าหน้าเว็บไซต์ไม่สามารถใช้งานได้
  • สร้าง URL ให้สอดคล้องกับโครงสร้างทางไวยากรณ์ โดยตัวอย่าง URL ที่แสดงที่ใช้อักขระที่ไม่ยอมรับ เช่น !, *, #, _, @

เครื่องมือไหนสามารถใช้ตรวจสอบ URL ได้บ้าง

ตัวอย่างเครื่องมือ Localiq ใช้สำหรับทดสอบคุณภาพของ URL
ตัวอย่างเครื่องมือ Localiq ใช้สำหรับทดสอบคุณภาพของ URL

หากนักการตลาดกำลังมองหาเครื่องมือวัดคุณภาพเว็บไซต์ อาจลองใช้เครื่องมือฟรีอย่าง Localiq        เพื่อทดสอบคุณภาพของ URL หรือลองใช้ Google PageSpeed Insights สำหรับการเช็กองค์ประกอบโดยรวมของเว็บไซต์ในการแสดงผลบนมือถือและบนเครื่องคอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังเสนอแนวทางในการแก้ไขเพื่อให้ตัวเว็บมีความเร็วมากขึ้น

หน้าตา Google PageSpeed Insights สำหรับวัดความเร็วในการแสดงผลของเว็บไซต์
หน้าตา Google PageSpeed Insights สำหรับวัดความเร็วในการแสดงผลของเว็บไซต์

 

2. ยิงแอดให้ได้ผลลัพธ์ด้วยแคมเปญ Performance Max 

ในปี 2021 ช่วงปลายปี Google ได้แนะนำแคมเปญประเภทใหม่ที่สามารถทำโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงทุกพื้นที่โฆษณาของ Google Ads โดยแคมเปญนี้มีชื่อว่าแคมเปญ Performance Max โดยจุดประสงค์ของการใช้แคมเปญ Performance Max นั้นก็เพื่อการสร้าง Conversion ในช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • ช่องทางการค้นหา (Google Search)
  • ยูทูป (YouTube)
  • แผนที่ (Google Map)
  • Gmail
  • Google Display
  • Google Discover

โดยทาง Google นั้นมี Bidding Performance Max เข้าช่วยในการทำโฆษณา ซึ่งช่วยเสนอราคาที่คุ้มค่า ทำให้แคมเปญได้ผลลัพธ์ที่ดี ตอบโจทย์กับเป้าหมายที่วางไว้

 

Google นั้นมี Bidding Performance Max เข้าช่วยในการทำโฆษณา ซึ่งช่วยเสนอราคาที่คุ้มค่า
ภาพจาก localiq

ประโยชน์ของแคมเปญ Performance Max

  • แบรนด์ต้องการยิงแอดแคมเปญเดียวไปยังหลาย ๆ แพลตฟอร์ม
  • แบรนด์มีเป้าหมายการยิงแอดและ มี Conversion ที่เฉพาะเจาะจง เช่น ต้องการสร้างฐานลูกค้า ต้องเพิ่มยอดขายออนไลน์
  • สามารถเก็บข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ ได้เนื่องจากการยิงแอดในหลายช่องทาง อาจได้ Data ที่น่าสนใจในช่องทางใหม่

ตัวอย่างจาก support.google แสดงหน้าตัวอย่างที่เราสามารถเลือกจุดประสงค์ของแคมเปญได้แบบเจาะจง

ภาพจาก support.google
ภาพจาก support.google

หากนักการตลาดกำลังมองหารูปแบบแคมเปญที่ช่วยประหยัดงบประมาณแต่ได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ควรลองศึกษา และ ปรับใช้แคมเปญ Performance Max กับสินค้า และ บริการในปี 2023 ดูนะคะ

 

3. บอกลา Third-Party Cookie 

คุกกี้ของบุคคลที่สาม หรือ Third-Party Cookies นั้นเป็นข้อมูลที่มาจากหน่วยองค์กร หน่วยงาน และบุคคลภายนอกที่เราใช้บริการอยู่ เช่น YouTube ซึ่งมีจำนวนมาก ซึ่งทาง Google ได้ประกาศเกี่ยวกับการยกเลิกการเก็บข้อมูล Third-Party Cookie ออกมาสักพัก เนื่องจากทาง Google คำนึงถึงความปลอดภัย และ ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม โดยทาง Google นั้นได้วางแผนยกเลิกใช้คุ้กกี้บุคคลของที่สามในปลายปี 2023 ที่จะถึงนี้

ธุรกิจควรทำอย่างไรหากไม่มี Third-Party Cookie อีกต่อไป

ธุรกิจ SME ของเราควรคำนึงถึงช่องทางการทำการตลาดโดยการใช้ข้อมูลจากช่องทางอื่น ๆ เช่น ข้อมูลจาก First-Party Cookie ที่มาจากเว็บไซต์ของเราเอง รวมทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ เพื่อวิเคราะห์หาความต้องการของลูกค้า และ ทำความเข้าใจทำการตลาดแบบ Personalization ได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น

types of data sharing
ภาพจาก localiq

 

4. Google Shopping ค่อย ๆ เข้ามาแทนที่หน้าร้านค้าปลีก

ความแตกต่างระหว่างหน้า Google Search กับ Google Shopping คือรูปแบบการมองเห็นซึ่ง Google Shopping นั้น เว็บไซต์ storegrowers ระบุว่า นักการตลาดเน้นการยิงแอดผ่าน Google Shopping เพิ่มขึ้น 38% ในปี 2019 และยังมีแนวโน้มการลงงบประมาณในปีต่อไปเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ Google ยังเผยว่าในปี 2022 นี้เองมีผู้ใช้งานผ่าน Google Shopping มากกว่าหนึ่งพันล้านครั้งในหนึ่งวันเลยทีเดียว

Google Shopping ค่อย ๆ เข้ามาแทนที่หน้าร้านค้าปลีก
ภาพจาก storegrowers

 

ตัวอย่างหน้าตา Google Shopping ที่นอกจากการแสดงผลลัพธ์ที่เป็นรูปภาพแล้วยังแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับ ราคา รูปแบบการส่งสินค้า คะแนนจากการรีวิว และ ชื่อแบรนด์ทำให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจคลิกไปยังหน้าแอดได้ง่ายขึ้น

 

5. เน้น Smart Bidding 

เทรนด์ที่สำคัญ และ น่าสนใจอีกเทรนด์หนึ่งคือ Smart Bidding ที่ Google ได้พัฒนาอัลกอริทึมของ Machine Learning เข้าช่วยผู้ใช้งาน หรือผู้ที่ยิงแอดให้เกิดการใช้ Conversion Rate ที่เพิ่มขึ้น แต่สามารถประหยัดงบประมาณได้ในเวลาเดียวกัน โดย Machine Learning นั้นจะเสนอราคา Bidding ที่คุ้มค่าที่สุดให้กับแคมเปญตามเวลาจริงในการประมูล

Smart Bidding เหมาะกับธุรกิจ SME หรือไม่

ความจริงแล้ว Smart Bidding สามารถใช้ได้ทั้งธุรกิจ SME และ ธุรกิจขนาดใหญ่ โดยการ Bid ในแต่ละครั้ง จะอิงตามข้อมูลจากแคมเปญที่มีอยู่ โดยข้อดีนั้นทำให้แคมเปญใหม่ๆ ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพถึงแม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลก็ตาม

Smart Bidding ที่ Google ได้พัฒนาอัลกอริทึมของ Machine Learning เข้าช่วยผู้ใช้งาน หรือผู้ที่ยิงแอดให้เกิดการใช้ Conversion Rate ที่เพิ่มขึ้น
ภาพจาก Google

ภาพจากด้านบนแสดงให้เห็นถึงประสิธีภาพในการใช้ Smart Bidding ที่ช่วยในการยิงแอดผ่าน Google โดยสามารถเพิ่ม Conversion ของแคมเปญ, รายรับที่ได้จากเงินที่ใช้ในการโฆษณา (ROAS) และ สามารถกำหนดราคาเสนอ เพื่อให้แคมเปญได้รับ Conversion มากที่สุดในต้นทุนต่อการดำเนินการ (CPA)

 

6. สร้าง Product Feeds สำหรับแคมเปญโฆษณาวิดีโอ

ธุรกิจ SME สามารถกระตุ้นความสนใจของกลุ่มเป้าหมายให้มายังหน้าเว็บไซต์ของตนเองได้ดีขึ้นด้วยการทำโฆษณารูปแบบวิดีโอ เพื่อโปรโมตสินค้า และ บริการ โดย Google Ads นั้นเปิดให้ใช้บริการ Product Feeds บน YouTube โดยนอกจากที่แอดของเราจะเล่นวิดีโอโฆษณาแล้ว ยังมีการนำเสนอสินค้าผ่านฟีดด้านล่างโฆษณาในรูปแบบ Showcase อีกด้วย ทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจและสามารถคลิกไปยังหน้าเว็บไซต์ได้เลย

สร้าง Product Feeds สำหรับแคมเปญโฆษณาวิดีโอ
ภาพจาก singlegrain

โฆษณารูปแบบนี้จะสามารถมองเห็นฟีดได้เมื่อผู้ใช้งานเล่นผ่านสมาร์ทโฟนแบบแนวตั้งนะคะ

ข้อดีของ Product Feeds

  • สามารถเพิ่มยอดขายได้อีกช่องทางหนึ่ง
  • เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ๆ จากแพลตฟอร์ม YouTube
  • น่าสนใจ และ แตกต่างจากรูปแบบโฆษณาเดิม ๆ

 

ข้อมูลจาก 

support google

storegrowers

localiq

 

เรียนสอบถาม คอนเทนต์นี้ คุณชอบไหมคะ

ความคิดเห็นของคุณมีความสำคัญกับเรา ขอบคุณนะคะ

Learn More

อัปเดตเทรนด์และกลยุทธ์ด้าน Data สำหรับนักการตลาดในปี 2023
5 ตำแหน่งซึ่งเป็นที่ต้องการในสายงานด้าน Digital Marketing สำหรับปี 2022