เจาะลึกกลยุทธ์ E-E-A-T: ทําให้เว็บไซต์กลายเป็นเว็บโปรดของ Google ได้ยังไง

e-e-a-t-strategy-how-to-help-your-site-become-google's-favorite-site

เคยสงสัยกันไหมว่าทําไมบางเว็บไซต์ถึงดูขึ้นมาในหน้าแรกของการค้นหาตลอด โดยที่ไม่ว่าจะเสิร์ชกี่ครั้งเว็บไซต์นั้นก็ยังขึ้นโชว์อยู่ ในขณะที่เว็บไซต์ของเราเองใช้ความพยายามอย่างมากในการที่จะติดอันดับบนหน้าของการเสิร์ช คําตอบอาจอยู่ในสูตรลับของ Google นั่นคือ กลยุทธ์  E-E-A-T ซึ่งมีความเชื่อมโยงส่ง เสริมการทํา SEO บนหน้าเว็บไซต์

ในปัจจุบันที่มีข้อมูลมากมาย Google จึงต้องให้ความสําคัญกับเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ, เป็นที่น่าไว้วางใจ และมีความเชี่ยวชาญ E-E-A-T คือกรอบแนวคิดที่สะท้อนความเชื่อสําคัญของ Google เกี่ยวกับสิ่งที่ทําให้เว็บไซต์มีคุณค่า การเข้าใจหลักการทั้งหมดนี้เป็นสิ่งสําคัญในการกําหนดปริมาณการเข้าชมแบบออร์แกนิกและเพิ่มการมองเห็นเว็บไซต์ออนไลน์

บทความนี้จะมาเจาะลึก 

E-E-A-T จําแนกองค์ประกอบและเสนอเคล็ดลับที่สามารถนําไปปรับใช้ได้จริง 

เพื่อเป็นแนวทางในการปรับเว็บไซต์ของทุกคนให้เหมาะสมกับความต้องการของ Google

ประสบการณ์: “E” ตัวแรกของ E-E-A-T ย่อมาจาก Experience 

ที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของเว็บไซต์ ซึ่งจะดูจาก 3 ส่วน คือ 

  • คุณสมบัติ: แสดงคุณสมบัติและประสบการณ์ของผู้สร้างเนื้อหา เว็บไซต์นั้นๆเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมประเภทนั้นหรือไม่ เป็นนักวิจัยหรือไม่  
  • เนื้อหาที่เชิงลึก: ในเว็บไซต์นั้นเสนอบทความ คอนเทนต์ที่ครอบคลุมเรื่องราวที่ต้องการสื่อสาร มีการ research เป็นอย่างดี และมีการสนับสนุนด้วยข้อมูลในบทความหรือไม่ 
  • ประวัติของผู้เขียน: ในส่วนนี้จะเน้นความเชี่ยวชาญและความสําเร็จของนักเขียนบนเว็บไซต์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

โดยสรุปคือในส่วนของ E-Experience จะหมายถึงเนื้อหาที่มีคุณภาพมักจะแสดงออกมาจากประสบการณ์ของผู้สร้างโดยตรง

ความเชี่ยวชาญ: “E” Expertise ตัวที่สองหมายถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญ 

ซึ่งเป็นส่วนที่ให้ความสําคัญกับการสร้างเว็บไซต์ให้เป็นผู้นําที่ได้รับการยอมรับในสายงานนั้นๆ ที่แต่ละเว็บไซต์ต้องการนําเสนอ ซึ่งให้ความสําคัญกับ 

  • Backlink: ดึงดูดลิงก์ออร์แกนิกจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่มีอิทธิพลในวงการธุรกิจหรือไม่ 
  • การยอมรับในอุตสาหกรรม: ในส่วนนี้จะให้ความสําคัญกับราวัลการันตีต่างๆ การกล่าวถึง
  • Value ที่ไม่มีใครเหมือน: บนเว็บไซต์นั้นนําเสนอสิ่งที่เหนือกว่าสิ่งที่คู่แข่งทําหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาเรื่องราวที่พิเศษกว่า การวิจัยที่นําเสนอมุมมองที่แตกต่าง

โดยรวมคือ จะดูส่วนของผู้สร้างเนื้อหามีความเชี่ยวชาญ เฉพาะด้านหรือไม่ พวกเขามีความรู้ คุณสมบัติ และใบรับรองที่จำเป็นในการให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้หรือไม่? 

ความมีอํานาจ: “A” Authoritativeness ความมีอํานาจหรือความเป็นผู้นํา

ในส่วนนี้หมายถึงชื่อเสียงโดยรวมในอุตสาหกรรมที่อยู่ โดยเฉพาะในหมู่ผู้เชี่ยวชาญและผู้มีอิทธิพลในกลุ่มของคุณ

ผู้ประเมินคุณภาพของ Google ได้รับคำสั่งให้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้สร้าง เนื้อหา และเว็บไซต์

และสุดท้ายคือ

ความน่าเชื่อถือ: “T” Trustworthiness หมายถึงการโน้มน้าวผู้ใช้งานและ Google ว่าเว็บไซต์ของเราเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ 

ที่มุ่งเน้นใน 3 ส่วนนี้ 

  • ความโปร่งใส: เปิดเผยเจ้าของธุรกิจ เปิดเผยผู้เขียนเนื้อหาคอนเทนต์ รวมถึงแหล่งเงินทุนในธุรกิจอย่างชัดเจน
  • ความถูกต้อง: ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดและการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลในคอนเทนต์ต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลเหล่านั้นที่เขียนมาถูกต้องแล้ว
  • ประสบการณ์ของผู้ใช้: ในส่วนนี้ครอบคลุมถึง Journey หรือ Experience ผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ใช้งานง่าย มี Journey บนเว็บไซต์ที่ชัดเจนและตอบสนองต่ออุปกรณ์ใช้งานในหลายๆ รูปแบบได้หรือไม่ 

ตัวอย่างเว็บไซต์ธุรกิจอาศัย E-E-A-T ประเมินเว็บไซต์

 

ตัวอย่างเว็บไซต์ WebMD 

เป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ ได้นํากลยุทธ์ E-E-A-T มาใช้โดยการ 

  • สร้างความเชี่ยวชาญ ด้วยเนื้อหาคอนเทนต์ที่สร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญทางการเเพทย์ที่มีใบอนุญาต และได้รับการตรวจสอบโดยบรรณาธิการ 
  • ความน่าเชื่อถือ มีการนําเสนอสื่อสิ่งพิทพ์ร่วมกับองค์กรด้านสุขภาพ 

ผลลัพธ์ที่ได้คือ ยอดปริมาณการเข้าชมสูงขึ้น ทําให้ชื่อเสียงของเว็บไซต์แข็งแรงขึ้นในฐานะของแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือได้

เว็บไซต์อีคอมเมิร์ชอย่าง REI (rei.com) 

ความท้าทายของ REI คือการสร้างความไว้วางใจในการซื้อของทางออนไลน์ 

REI ได้ใช้กลยุทธ์ E-E-A-T ความเชี่ยวชาญ โดยมีการอธิบายถึงผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมบทความในบล็อก เพื่อการศึกษา มีการรีวิวอุปกรณ์นั้นๆ ที่เปิดขายจากผู้เชี่ยวชาญ 

  • ส่วนความน่าเชื่อถือ ได้มีคอนเทนต์ลงสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์ได้อีกหนึ่งทาง รวมถึงการมีระบบชําระเงินที่ปลอดภัย มีนโยบายการคืนสินค้าอย่างละเอียด

ผลลัพธ์ที่ได้คือ ความพึงพอใจของลูกค้าอยู่ในระดับที่สูงขึ้น ทําให้เกิดยอดการซื้อซํ้าและมีการพูดถึงบนโลกออนไลน์ในเชิงบวก

บทสรุป

E-E-A-T แสดงให้เห็นถึงการสร้างเว็บไซต์ที่มีคุณค่าอย่างแท้จริงด้วยความเชี่ยวชาญ อํานาจและความไว้วางใจ 

เริ่มการใช้ E-E-A-T บนเว็บไซต์ตั้งแต่วันนี้ เพื่อเพิ่มเคล็ดลับการตรวจสอบเว็บไซต์และแก้ไขในจุดที่ควรปรับปรุง ให้ทุกคนจําไว้เสมอว่า เว็บไซต์ที่ให้ความสําคัญกับผู้ใช้งานและมอบคุณค่า ประสบการณ์ที่น่าจดจํากับผู้ใช้งาน ย่อมประสบความสําเร็จในมุมมองของ Google และกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจโดยแท้จริง 

รวมแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมที่เสริมความรู้เรื่องการทํา SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ บนหน้าค้นหา ไว้ ที่นี่ 

 

ฝากติดตามเนื้อหาความรู้ที่อัพเดทจากทีมงาน STEPS Academy ในบล็อกถัดไปด้วยนะคะ 🙂

เรียนสอบถาม คอนเทนต์นี้ คุณชอบไหมคะ

ความคิดเห็นของคุณมีความสำคัญกับเรา ขอบคุณนะคะ

Learn More

Recommended Topics

Data-driven Decision-making (DDDM) ตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูล เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจในยุค 2024
อนาคตของแบรนด์ในปี 2024: การตลาดสู่ผู้บริโภคในอนาคต