RFM Model มีประโยชน์ยังไงกับธุรกิจ

เคยไหม หมดมุกของการทําการตลาดไปแล้ว ลองอัดงบเพิ่มโปรโมชั่นพิเศษเพื่อกระตุ้นยอดขายก็แล้ว แต่ก็ยังเหมือนแก้ไขไม่ตรงจุด.. 

วันนี้ STEPS จะมาพูดถึงหลักการบริหารธุรกิจ เพื่อให้เห็น Framework ภาพรวม เพื่อเป็นไอเดียให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยลองนําไปปรับใช้ในการพัฒนาธุรกิจหรืออาจช่วยแก้ปัญหาที่มีได้

การรวบรวมข้อมูล หรือ Data โดยรวบรวมข้อมูลการซื้อสินค้าตามช่วงเวลาที่เราต้องการทราบ รวบรวมวันที่ที่ลูกค้าซื้อ (Recency), ความถี่ของการซื้อ (Frequency) และมูลค่าของการซื้อ (Monetary Value) ในแต่ละรายการที่ซื้อ

how is the rfm model useful for business

เมื่อข้อมูลมาแล้ว จะทําการคํานวนคะแนน RFM สําหรับลูกค้าแต่ละคน โดยใช้สูตรระบบคะแนน 1-5 หรือ 1-10 โดยถ้าตัวเลขคะแนนลูกค้าน้อย จะหมายถึงลูกค้ามีค่าทั้งสามส่วนอยู่ในเกณฑ์สูง

เมื่อประเมินคะแนนลูกค้าแล้วนั้น เราสามารถนํามาทําเป็นขั้นตอนการแบ่งกลุ่มลูกค้าตามคะแนน RFM โดยแบ่งได้เป็น 3 ระดับ

    • กลุ่ม High RFM : ลูกค้ากลุ่มนี้ RFM สูงในทุกมิติ แปลว่าซื้อบ่อยและมีมูลค่าในการซื้อสูง 
    • กลุ่ม Low Recency : ลูกค้ากลุ่มนี้จํานวนวันที่ซื้อน้อย นานๆทีมาซื้อ ทําให้ธุรกิจเรารู้ว่าต้องโฟกัสกลยุทธ์การตลาดที่สร้างการดึงดูด เพื่อเกิดความสนใจและเพิ่มยอดขายมากขึ้น
    • กลุ่ม High Monetary Value : ในลูกค้ากลุ่มนี้มีมูลค่าการซื้อที่สูง แปลว่า การยอดการซื้อสูง แม้จะนานๆทีมาซื้อ จํานวนวันที่ซื้อและความถี่ของการซื้อไม่สูง
calculate rfm model scores

เมื่อเราแบ่งกลุ่มลูกค้าได้แล้ว เราสามารถนําข้อมูลไปทําใน Steps ต่อไปนั่นคือการจัดการกลยุทธ์ทางการตลาดให้เหมาะสมเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่จัด Segment ด้านบน ตัวอย่างเช่น

    • ในกลุ่ม High RFM : สามารถเน้นโปรโมชั่นพิเศษหรือเพิ่ม Privilege มากขึ้นเพื่อผลักดันให้ลูกค้ากลุ่มนี้กลายเป็น Loyalty Customer 
    • สําหรับกลุ่ม Low Recency : เน้นกระตุ้นให้ลูกค้ารับรู้จากการเพิ่มการแจ้งเตือนบน Application หรือส่ง Line แจ้งเตือนที่น่าสนใจมากขึ้น 
    • ส่วนสําหรับกลุ่ม High Monetary Value : แนะนําให้เพิ่มส่วนลดหรือข้อเสนอต่างๆที่มีความเชื่อมโยงกับยอดการซื้อที่สูง

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการใช้หลัก RFM Model ที่นํามาปรับใช้กับธุรกิจ เพื่อนําไปปรับใช้กับการพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดอย่างตรงจุดมากขึ้น และยังมีข้อดีอีกมากมายของการใช้ RFM Model เช่น การประหยัดเงิน เพื่อลงทุนกับการใช้ Tools ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับธุรกิจ และประหยัดเวลามากขึ้น เพื่อลงแรงไปทําความเข้าใจถึงการใช้ Tools ที่วิเคราะห์ลูกค้าเพื่อนํามาปรับแผนธุรกิจได้อย่างแม่นยําและตรงจุด 

สําหรับผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการที่อยากเรียนรู้หลักการของการนํา RFM มาปรับใช้ในธุรกิจ หรือเครื่องมือสําคัญอื่นๆ อีกมากมาย ที่ทําให้เห็น Framwork ของธุรกิจได้กว้างมากขึ้น เข้ามา take course เกี่ยวกับ Data Analytics กับทาง STEPS ที่จะจัดขึ้นรอบสุดท้ายของปี 2023

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  https://stepstraining.co/data-analytics-marketer

เรียนสอบถาม คอนเทนต์นี้ คุณชอบไหมคะ

ความคิดเห็นของคุณมีความสำคัญกับเรา ขอบคุณนะคะ

Learn More

มี DATA ในมือ แต่ไม่รู้จะจัดการยังไง?
3 ข้อดีของการใช้ DATA ในการบริหารธุรกิจ