Youtube SEO คืออะไร ทำงานอย่างไร?
YouTube SEO คือกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพช่องและวิดีโอ YouTube เพื่อให้มีอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหาของ YouTube ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ดึงดูดการรับชม สมาชิก และการมีส่วนร่วมมาที่ช่องได้มากขึ้น
การทำงานของ Youtube SEO นั้นมีกระบวนการเหมือนกับอัลกอริทึมของ Google SEO โดยคำนึงเกี่ยวกับปัจจัยเหล่านี้
- ชื่อ และคำอธิบายวิดีโอ
- ควรชัดเจนและกระชับ และควรเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของวิดีโอ พยายามใส่ Keyword ในชื่อคลิปและ Description ไปด้วย
- แท็กวิดีโอ
- แท็กเป็นวิธีหนึ่งในการจัดหมวดหมู่วิดีโอของคุณ เพื่อให้ผู้ใช้ที่กำลังค้นหาหัวข้อเฉพาะค้นพบได้ง่าย ใช้แท็กทั่วไปและแท็กเฉพาะผสมกันเพื่อเข้าถึงผู้ชมในวงกว้าง
- ข้อมูล Meta ของวิดีโอ
- เช่น ความยาวของวิดีโอ วันที่อัปโหลด และจำนวนการดู ข้อมูลนี้สามารถช่วยให้อัลกอริทึมการค้นหาของ YouTube เข้าใจวิดีโอของคุณและจัดอันดับตามนั้น
- เวลาในการรับชม
- ระยะเวลาที่ผู้คนใช้ในการดูวิดีโอ เป็นปัจจัยสำคัญในอัลกอริทึมการค้นหาของ YouTube ยิ่งมีคนดูวิดีโอของคุณมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งมีอันดับในผลการค้นหาสูงขึ้นเท่านั้น
- การมีส่วนร่วม
- วัดการมีส่วนร่วม เช่น การถูกใจ ความคิดเห็น และการแชร์ ยังสามารถช่วยปรับปรุงอันดับวิดีโอของคุณในผลการค้นหาของ YouTube ได้อีกด้วย
ในบทความนี้ทาง STEPS ได้รวบรวม Guideline สำหรับการทำ Youtube SEO ไว้ให้แล้ว ซึ่งแบ่งเป็น 4 ขั้นตอนดังนี้
1. วิเคราะห์ Keyword ใน Youtube
- พิมพ์ในหน้า Search ของ Youtube เพื่อหาคำค้นหาที่คนส่วนใหญ่ค้นหา เพราะคำเหล่านี้ได้รับการค้นหาจริงๆ
ที่มา: backlinko.com
- เสิร์ชวิดีโอที่เนื้อหาใกล้เคียงกับวิดีโอของเรา และเลือกดูวิดีโอที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพื่อวิเคราะห์รูปแบบ และ Keyword ที่ใช้ในชื่อและ Description นั้นๆ
- วิเคราะห์แหล่งที่มา โดยเข้าไปดูได้ที่หน้า Analytics ในช่องของเรา และดูว่าผู้คนที่ดูคลิปของเรา เสิร์ชคำว่าอะไรถึงมาเจอคลิปของเรา
ที่มา: yumyumvideo
- เมื่อเรามี Keyword ในตะกร้าแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราต้องมาเลือกว่าเราจะใช้คำไหนเป็นคำหลัก โดยการค้นหาคำสำคัญใน Google
- ตรวจสอบอีกครั้งเพื่อเช็คว่า Keyword ที่เลือกมาจะติดหน้าแรกของ Youtube และ Google
*เคล็ดลับเพื่อเพิ่มยอดการรับชม
เราควรทำให้วิดีโอของเราติดหน้า Google ด้วย โดยใช้คำที่แยกประเภทของคอนเทนต์ได้ดังนี้
หากเป็นประเภทคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับ
- วิธีใช้ ให้ระบุไปว่า “วิธีชงกาแฟสกัดเย็น”
- บทวิจารณ์ การรีวิว ให้ระบุไปว่า “รีวิวหูฟังรุ่นใหม่”
- บทช่วยสอน ให้ระบุไปว่า “การตั้งค่า WordPress” “ตั้งค่า WordPress ขั้นตอน”
- สิ่งใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายหรือกีฬา ให้ระบุไปว่า “คาร์ดิโอคิกบ็อกซิ่ง”
- วิดีโอตลก ให้ระบุไปว่า “คลิปตลกฮาๆ”
2. การเผยแพร่วิดีโอที่ได้รับความนิยม
หากต้องการให้วิดีโอติดอันดับ คุณต้อง “รักษาผู้ชม” ซึ่ง Youtube ให้ความสำคัญกับการรักษาผู้ชมมากๆ เป็นปัจจัยหลักในการจัดอันดับเลยก็ว่าได้ เพราะวิดีโอของคุณทำให้ผู้คนอยู่บน YouTube ต่อไป และ YouTube จะจัดอันดับวิดีโอของคุณให้สูงขึ้นในผลการค้นหา
คุณจะสร้างวิดีโอที่ทำให้ผู้คนมีส่วนร่วมได้อย่างไร
- การแสดงความคิดเห็นในวิดีโอ
- หากมีคนแสดงความคิดเห็น ข้อความดังกล่าวจะส่งผลไปยัง YouTube ให้รู้ว่าผู้คนน่าจะชอบวิดีโอ หรือต้องการมีส่วนร่วมกับวิดีโอนั้น
- Subscribe หลังจากดู Video
- หากมีคนติดตามช่องของคุณหลังจากดูวิดีโอ แปลว่าวิดีโอของคุณน่าสนใจทำให้ Youtube อยากดันวิดีโอของคุณขึ้นไปอีก เพราะ Youtube ต้องการมีสมาชิกเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว
- การแชร์
- ถ้าวิดีโอของคุณดี หรือมีคุณค่า คนก็อยากแชร์
- อัตราการคลิกผ่าน CTR
- เมื่อมีคนค้นหาคำหลักบน YouTube พวกเขาคลิกวิดีโอของคุณหรือของคนอื่น เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่คลิกผลลัพธ์ของคุณเรียกว่า ” อัตราการคลิกผ่าน” (CTR) แน่นอนว่ายิ่ง CTR ของคุณสูงเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น Youtube จำเป็นต้องจัดอันดับวิดีโอนี้ให้สูงขึ้นในผลการค้นหา เพราะได้ CTR สูง ซึ่งมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาพปกคลิป (Cover) และชื่อคลิปที่ดึงดูดใจผู้ชม เป็นต้น
- ความยาววิดีโอ
- เช่นเดียวกับบทความใน Google ยิ่งคนอยู่กับเรานานแค่ไหน ก็ทำให้อันดับของเราสูงขึ้น ซึ่งความยาวที่แนะนำคือ 15-20 นาทีขึ้นไป เป็นการวัดไปเลยว่าหากวิดีโอของคุณดีจริงๆ คนจะดู
3. การเพิ่มประสิทธิของวิดีโอบน Youtube
- พูด Keyword ในคลิปวิดีโอ
- เพราะจะทำให้ Youtube ได้ยินและรู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร ในขณะเดียวกัน ก็ควรมี Subtitle ในวิดีโอเพื่อเพิ่มโอกาสในการเห็นข้อความของ Youtube ด้วยเช่นกัน
- ชื่อคลิป
- ใช้ Keyword ในชื่อคลิปไปเลย เช่น “การทำ Youtube SEO”
- คำอธิบายเนื้อหาวิดีโอ (Description)
- หลักเกณฑ์พื้นฐานสำหรับคำอธิบาย
- รวม Keyword ที่ต้องการใน 25 คำแรก
- สร้างคำอธิบายอย่างน้อย 250 คำ
- กล่าว Keyword อย่างน้อย 2-4 ครั้ง
- หลักเกณฑ์พื้นฐานสำหรับคำอธิบาย
- แท็ก (Tag)
- แท็กที่ควรมีคือแท็กเกี่ยวกับเนื้อหาของคุณ หรือคำวลีที่เกี่ยวข้องในวิดีโอของคุณและคู่แข่ง การเพิ่มแท็กไม่เพียงแค่ช่วยให้อันดับดีขึ้นเท่านั้น แต่ช่วยให้คนที่ดูที่ดูเนื้อหาของคู่แข่งเจอวิดีโอของคุณได้มากขึ้นด้วย
4. การโปรโมทวิดีโอ
- โปรโมทผ่าน Email Marketing
- ข่าวสารใดๆ ก็ตามที่คุณส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายในช่องทางอีเมล หากเนื้อหาที่นำเสนอมีความเกี่ยวข้องกับวิดีโอของคุณ ก็สามารถแปะลิ้งวิดีโอของคุณไปด้วยได้เลย
- ฝังวิดีโอในบล็อค
- เช่นเดียวกับการส่งอีเมล์ ถ้าหากทำคอนเทนต์เกี่ยวข้องกับวิดีโอของคุณ ก็สามารถแปะวิดีโอลงไป เพื่อเพิ่มการเข้าถึงวิดีโอได้
- สร้าง Playlist
- รวบรวมวิดีโอที่มีเนื้อหาในเรื่องเดียวกันเป็นเพลย์ลิสต์อย่างน้อยเพลย์ลิสละ 3 วิดีโอเพื่อเพิ่มยอดวิวจากวิดีโอที่ถูกแนะนำ
บทสรุป
Guideline สําหรับการทํา Youtube ประกอบด้วย
- วิเคราะห์ Keyword ใน Youtube
- การเผยแพร่วิดีโอที่ได้รับความนิยม
- การเพิ่มประสิทธิของวิดีโอบน Youtube
- การโปรโมทวิดีโอ