ในช่วงเวลานี้ คงไม่มีธุรกิจ หรือ นักการตลาดคนไหน ไม่เคยได้ยินคำว่า Influencer กันอย่างแน่นอน ซึ่งนอกจาก Influencer จะมาสร้างสีสันความสนุกในการรีวิวสินค้าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ผ่านหน้าจอแล้ว สิ่งที่อยู่เบื้องหลัง นั่นก็คือ แผนการตลาด ที่จะมาช่วยกวาดรายได้จากการโปรโมตแบรนด์นั่นเอง โดยผลรายงานจาก Insider Intelligence ได้รายงานว่า Influencer Marekting สร้างรายได้ไปในปี 2019 สูงถึง 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แถมยังมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น และอาจสร้างรายได้มากถึง 22 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022
ความสำเร็จจากลลยุทธ์ Influencer Marketing ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการใช้ Social Media Platform ของแบรนด์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเหมาะสำหรับแบรนด์ SME และบริษัท Start Up ที่ไม่จำเป็นต้องลงทุนจ่ายค่าโฆษณาหลายสิบล้านผ่านหน้าจอทีวี ก็สามารถทำให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างได้ ด้วยการรีวิวสินค้า และ บริการ ผ่านประสบการณ์การใช้งานของ Influencer ที่มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ ซึ่งตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี กับพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่เน้นการฟัง และเชื่อในผู้ใช้งานจริง และคนที่น่าเชื่อถือ
แบรนด์ทั้งหลาย ควรใช้โอกาสนี้ในการสร้างกลยุทธ์การตลาดผ่าน Influencer เพื่อสร้างยอดขาย ให้กลุ่มเป้าหมายมีโอกาสเข้าถึงสินค้า และ บริการเพิ่มขึ้น และ เป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ของเรา
1 Influencer คือใคร ?
Influencer (อินฟลูเอนเซอร์) คือบุคคลที่มีอิทธิพลบนสื่อออนไลน์ ซึ่งมีคนให้ความสนใจ และ ติดตามเป็นจำนวนมากผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย อย่าง YouTube, Instagram, Facebook, Blog ต่าง ๆ ซึ่ง Influencer มีหลายรูปแบบ ทั้งคนดังที่เคยมีผลงานบันเทิงก็ได้ หรือ คนธรรมดาที่สร้างคอนเทนต์ขึ้นมา และมีคนสนใจ และติดตามคอนเทนต์ของกลุ่มคนเหล่านั้น โดยคอนเทนต์ หรือเนื้อหาของ Influencer มีหัวข้อที่หลากหลายมาก ๆ ซึ่งอาจมีประโยชน์ต่อผู้ชม หรือเป็นเพียงการเล่าเรื่องราวที่ของตัวเอง ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตก็ได้ แต่เนื้อหาเหล่านี้ มีจุดเด่นบางอย่างที่ทำให้คนชอบติดตาม เช่น ความใกล้ชิดของ Influencer และตัวผู้ชม ความจริงใจในการบอกเล่าเรื่องราว และประสบการณ์ส่วนตัว ทำให้ผู้ชมเกิดคล้อยตามในสิ่งที่ Influencer กำลังพูดถึง
![ตัวอย่าง Influencer อีกคนหนึ่งที่กำลังมาแรงคือ คุณปั๋น (Riety Channel) นำเสนอคอนเทนต์แนว Edutainment ด้านศิลปะ](https://stepstraining.co/wp-content/uploads/2021/01/influencer-on-youtube-example.png)
2 Influencer Marketing เป็นอย่างไร ?
หากเราย้อนกลับไปเมื่อ 10 – 20 ปีก่อน แคมเปญโฆษณาที่สามารถสร้างยอดขายได้ จะต้องทำให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้แบรนด์ หรือการพูดกันแบบ ปากต่อปาก จากคนรอบข้าง แต่ในปัจจุบันผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกเสพสื่อได้กว้างขึ้น อีกทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์ก็มีการพัฒนาขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากกว่าอดีต เช่น การเปลี่ยนจากการถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอทีวี มาเป็นการ Live ขายสินค้า หรือจะเป็นการทำโฆษณา ที่ขึ้นอยู่บนช่องทางออนไลน์ที่แต่ก่อน ผู้บริโภคอาจจะเห็นแค่บนทีสี หรือโฆษณาตามสิทยุ
ดังนั้น พฤติกรรมของผู้บริโภค และทัศนคติจึงเปลี่ยนไป โดยผู้บริโภคจะหาความรู้ หรือสิ่งที่ช่วยประกอบการตัดสินใจเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า และบริการ ซึ่งแน่นอนว่า คำแนะนำจาก Influencer หรือบุคลลที่มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ย่อมมีผลในการสร้างความเชื่อถือให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขามีอิทธิพลต่อความคิด และ ทัศนคติในการตัดสินใจบางอย่าง
![influencer on instagram](https://stepstraining.co/wp-content/uploads/2021/01/swaypay-e-commerce-tools-for-influencers-example-kim-Kardashian.png)
ดังนั้น Influencer Marketing เป็นสิ่งที่แบรนด์ในยุคดิจิทัลให้ความสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ เพื่อทำให้แบรนด์ของเรากลายเป็นที่รู้จักในตลาดธุรกิจ หรือที่เราเรียกกว่า การสร้าง Brad Awareness อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ดีขึ้นค่ะ
3 Influencer Marketing ช่วยให้ธุรกิจ E-Commerce เติบโตได้อย่างไร ?
ในยุคที่ธุรกิจ E-Coomerce จะต้องติดต่อลูกค้า และทำแคมเปญโฆษณาผ่านเว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่นักการตลาดควรนำมาใช้ ในการนำเสนอสินค้า คือ Influencer marketing ซึ่งลูกค้าในยุคดิจิทัลมักทำการค้นหาจาก เว็บไซต์ Search Engine และแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหลาย เพื่อชมการรีวิวสินค้าจากผู้ใช้จริงเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองว่าสินค้าและบริการมีคุณภาพ และคุ้มค่าแก่การลงทุน
นอกจากนี้ ยังมีผลลัพธ์ที่ได้จากการทำการตลาดโดยผ่าน Influencer ว่า 49% ของผู้ใช้ Twitter จะอ่านรีวิวจาก Blogger หรือ Influencer ประกอบการตัดสินใจ
และยิ่งไปกว่านั้น 89% ของนักการตลาดยังเผยอีกว่า ROI จากการทำแคมเปญผ่าน Influencer ได้ผลลัพธ์ดีมากพอ ๆ กันกับการทำการตลาดด้วยวิธีการทำ SEO และ PPC หรือ อาจได้ผลดีกว่านั้น
![89% ของนักการตลาดยังเผยอีกว่า ROI จากการทำแคมเปญผ่าน Influencer ได้ผลลัพธ์ดีมากพอ ๆ กันกับการทำการตลาดด้วยวิธีการทำ SEO และ PPC หรือ อาจได้ผลดีกว่านั้น](https://stepstraining.co/wp-content/uploads/2021/01/influencer-marketing-statistics-channel-comparision-750x500-1.jpg)
นักการตลาดหลายท่านอาจสงสัยว่า แพลตฟอร์มไหน ที่ Influencer ใช้แล้วได้ผลดีที่สุด ปังที่สุด ?
หากเราดูจากกราฟด้านล่างแล้ว ผลการรายงานสถิติจาก bigcommerce เผยว่า นักการตลาดลงทุนไปกับ Influencer Marketing มากที่สุดโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 89 % เลยทีเดียว
![ผลการรายงานสถิติจาก bigcommerce เผยว่า ในปี นักการตลาดลงทุนไปกับ Influencer Marketing มากที่สุดโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 89 %](https://stepstraining.co/wp-content/uploads/2021/01/influencer-marketing-statistics-social-media-channels-750x750-1.png)
แต่อย่างไรก็ตาม แบรนด์ควรศึกษากลุ่มเป้าหมายที่ใช้สินค้า และบริการของเราเป็นหลักก่อนนะคะ ว่ากลุ่มเป้าหมายนิยมใช้แพลตฟอร์มไหนบ้าง รวมทั้งตัว Influencer ที่จะมาเป็นเหมือนกับ Partner ของเราว่าอยู่ในกลุ่มความสนใจของลูกค้าเราหรือไม่ โดยไม่ได้อิงตามเทรนด์ และความนิยมเป็นหลัก แต่เราเพียงแค่นำข้อมูลมาปรับใช้ ให้เข้ากับแบรนด์ของเรา และกลุ่มเป้าหมาย
4 ประเภทของ Influencer
เว็บไซต์ mediakix ได้จัดประเภท Influencer หรือผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์เอาไว้ด้วยกัน 5 ประเภท โดยแบ่งตามจำนวนยอดผู้ติดตามบน Instagram ดังนี้
- Nano-Influencers: มียอดผู้ติดตาม 1,000 – 10,000 คน
- Micro-Influencers: มียอดผู้ติดตาม 10,000 – 50,000 คน
- Mid-Tier Influencers: มียอดผู้ติดตาม 50,000 – 500,000 คน
- Macro-Influencers: มียอดผู้ติดตาม 500,000 – 1,000,000 คน
- Mega-Influencers: มียอดผู้ติดตาม 1,000,000 คนขึ้นไป
![เภทประเภทของ Influencer ทั้ง 5 แบบที่มีบน Instagram](https://stepstraining.co/wp-content/uploads/2021/01/5-types-of-influencers-on0instagram.png)
นอกจากนี้ mediakmix ได้เปิดเผยอีกว่า Influencer ที่ประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ส่วนใหญ่จะเป็น Influencer 3 ระดับนี้ คือ
- Micro Influencer (มียอดผู้ติดตาม 1 หมื่นคนขึ้นไป)
- Mid-Tiier Influencers (มียอดผู้ติดตาม 5 หมื่นคนขึ้นไป)
- กลุ่ม Nano-Influencers ส่วนมากจะมียอดผู้ติดตามที่เป็น Niche หรือมีความสนใจเฉพาะด้านมากกว่าค่ะ
5 แนวทางการใช้ Social media ในการทำการตลาดด้วย Influencer
![Influencer Marketing สำหรับการทำธรุกิจออนไลน์](https://stepstraining.co/wp-content/uploads/2021/01/influencer-marketing-infographic.png)
1 เสิร์ชหากลุ่มเป้าหมาย
ก่อนที่เราจะเลือก Influencer มาช่วยทำการตลาด อันดับแรกจะต้องทราบก่อนว่า กลุ่มลูกค้าของเราเป็นใคร นิยมใช้แพลตฟอร์มบนโซเชียลมีเดียไหนบ้าง เนื่องจาก Influencer บางท่านไม่ได้สร้างคอนเทนต์บนทุก ๆ แพลตฟอร์มอย่างแน่นอน ซึ่งแบรนด์สามารถใช้ประโยชน์จาก Customer Data เพื่อค้นหาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ฐานลูกค้าเราใช้ได้
ในขณะที่เรากำลังวิเคราะห์ค้นหากลุ่มเป้าหมาย ก็สามารถศึกษาประเภท และ รายละเอียดของ Influencer ได้ในเวลาเดียวกัน ว่าบุคคลที่จะมารีวิวสินค้าให้เรานั้น ควรมี Follower อยู่ที่จำนวนเท่าไหร่ ควรเป็น Microinfluencer หรือคนดังที่มียอดผู้ติดตามมากกว่านั้น
![ตัวอย่าง Influencer จาก Instagram ที่ชื่อว่า Dylan Werner](https://stepstraining.co/wp-content/uploads/2021/01/influencer-yoga-example.png)
2 วางแผนกลุยทธ์ทางการตลาด
นอกจากที่เราจะเลือก Influencer มาช่วยรีวิวสินค้าแล้ว การสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดถือว่าสำคัญมาก ๆ ซึ่งความจริงแล้วการทำ Influencer Marketing ไม่ใช่แค่การบอกเล่าถึงประสบการณ์การใช้สินค้า หรือรีวิวหน้ากล้องแล้วจบไป แต่นักการตลาด และ ผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึงคอนเทนต์ที่ต้องการให้ Influencer ถ่ายทอดเอาไว้ด้วยว่า แบรนด์ของเราอยากจะสื่อถึงอะไร มีข้อได้เปรียบและดีกว่าคู่แข่งอย่างไรบ้าง
![social influencer การทำการตลาดผ่าน Influencer](https://stepstraining.co/wp-content/uploads/2021/01/influencer-marketing-intro.png)
อีกทั้ง การรักษามิตรภาพทางธุรกิจ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม อย่าลืมว่า Influencer ก็คือตัวบุคคลธรรมดา ไม่สามารถทำงานได้อัตโนมัติ หรือมีความแม่นยำแบบคอมพิวเตอร์ ดังนั้น การสื่อสารระหว่างแบรนด์และ Influencer คือสิ่งสำคัญ
นอกจากนี้ แบรนด์ควรกำหนดตั้งแต่แรกก่อนเริ่มติดต่อ Influencer เลยว่ามีงบประมาณ เท่าไหร่ เพื่อที่เราจะได้เลือก Influencer ได้เหมาะสม ซึ่ง Influencer แต่ละคนมีค่าตัวแตกต่างกันออกไป ซึ่งในจุดนี้ เราอาจจะต้องประเมิณค่าใช้จ่ายให้ดีว่า ผลลัพธ์นั้นคุ้มค่าต่อการลงทุน
3 มองหา Influencer
สำหรับการเลือกหา Influencer ในยุคนี้มีทั้งแบบการติดต่อผ่านเอเจนซี่ เพื่อเป็นตัวกลางหา Influencer ที่ตอบโจทย์กับแคมเปญ ซึ่งจะทำให้การทำงานลดขั้นตอน และประหยัดเวลาได้มากขึ้น หรือตัวแบรนด์ อาจติดต่อโดยตรงผ่านผู้จัดการ หรือการส่งข้อความติดต่อผ่าน Influencer เลยก็ย่อมได้ ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนั้น ๆ ซึ่งบุคคลที่เราจะเลือกนั้น แน่นอนว่าจะต้องสามารถสื่อสารตัวตนของแบรนด์ และบอกเล่าถึงสินค้า และ บริการของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี มีทัศนคติในเชิงบวกต่อแบรนด์
![ตัวอย่าง Influencer ที่นำเสนอคอนเทนต์การท่องเที่ยว บน Facebook : I Roam Alone](https://stepstraining.co/wp-content/uploads/2021/01/i-roam-alone-facebook-influencer.png)
นอกจากนี้ แบรนด์ควรเตรียมคิดคอนเทนต์ให้ดี เพื่อนำเสนอแนวทางการทำ Influencer Marketing เพื่อให้เห็นภาพทั้งสองฝ่าย ชัดเจน และเข้าใจง่ายเพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งตรงจุดนี้นักการตลาดสามารถปรับคอนเทนต์ ให้เข้ากับสไตล์ของ Influencer แต่ละท่านได้
สิ่งที่สำคัญในการเลือกหา Influencer นั้น คุณต้องตระหนักว่า พวกเขาจะเข้ามาเป็นผู้ร่วมธุรกิจกับเรา ดังนั้นแบรนด์ควรจะติดต่อไปยัง Influencer แต่ละท่านไปอย่างเป็นทางการ และขอเวลาเพื่อร่วมเจรจาตกลงแบบการทำธุรกิจ รวมทั้งการคุยเกี่ยวกับข้อตกลง และเงื่อนไขในการรีวิวสินค้า ว่าเรามีความต้องการใดบ้าง และ Influencer มีข้อจำกัดใดบ้าง
4 เก็บข้อมูลเพื่อวัดผลความสำเร็จ
![ตัวอย่าง Influencer ที่นำเสนอคอนเทนต์ด้านอาหาร และโภชนาการบน Instagram](https://stepstraining.co/wp-content/uploads/2021/01/chris-rocchio-health-influencer.png)
การทำการตลาดไม่ว่าจะใช้กลยุทธ์ไหน จะต้องมีการเก็บข้อมูล เพื่อวัดผลอยู่เสมอ เพื่อให้ทราบว่า แผนธุรกิจที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนหรือไม่ และ มีสิ่งไหนจะต้องพัฒนาต่อไปในอนาคต ซึ่งตรงนี้เป้าหมายของแต่ละแบรนด์อาจจะต่างกันออกไปอีกว่า ต้องการสร้างการรับรู้ให้เป็นที่รู้จักบนสื่อออนไลน์ หรือเน้นไปที่การสร้างยอดขายในไตรมาศนี้ ซึ่งการวัดผลอาจไม่ใช่แค่การวัดยอด Like แต่นักการตลาดสามารถใช้ Conversion Rate ค่าต่าง ๆ เป็นตัวกลางในการวัดผล
วิธีการวัด ROI หรือผลตอบแทนจากการขาย สามารถวัดผลได้จากเครื่องมือทางการตลาด โดยพิจารณาจากตัวเลข Conversion ต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น
- ยอด Reach
- Engagement
- ยอดวิว
- Traffic จากเว็บไซต์
ข้อมูลจาก
https:// neilpatel.com
https:// www.businessinsider.com
https:// www.bigcommerce.com
https:// sproutsocial.com