ปัจจุบันกระแสของซีรีส์เกาหลีได้รับการตอบรับอย่างล้มหลามทั้งในไทยและต่างประเทศ จนสามารถนำไปต่อยอดความสำเร็จเพื่อสร้างรายได้ในหลากหลายรูปแบบค่ะ วันนี้ผู้เขียนจะพาทุกท่านมาเจาะกลยุทธ์ทางการตลาดจากซีรีย์ดังอย่าง Hospital Playlist ไปถึงเหตุผลที่ได้รับความนิยมจากผู้รับชมทั่วโลก และเป็นอีกหนึ่งในซีรีส์ที่เป็นกระแสอย่างต่อเนื่องข้ามปี และทำรายได้มหาศาล นอกจากแค่การเป็นซีรีส์ปกติทั่วไปที่ทำเสนอคอนเทนต์ทางด้านความบันเทิง แต่ยังต่อยอดด้วยการสร้างยอดธุรกิจจากการตลาดแบบ Entertainment มากมาย
Hospital Playlist ซีรีส์เกาหลีแนว Feel Good เน้นความสัมพันธ์แบบมิตรภาพความรักของเพื่อนเป็นเรื่องราวของชีวิต 5 คุณหมอ ที่ทำงานด้วยกันในรั้วโรงพยาบาล Yelje Medical Center โดยทั้ง 5 คนนี้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียน มีกิจกรรมร่วมกันคือเล่นดนตรีในยามว่าง จึงเกิดเป็นเรื่องราวของความรัก ความสัมพันธ์เพื่อนเกิดขึ้น โดยซีรีส์เรื่องนี้กำกับโดยผู้กำกับชื่อดังอย่าง “ชินวอนโฮ” ที่กำกับซีรีส์ Reply 1997, Reply 1994 และ Reply 1988
Hospital Playlist ประสบความสำเร็จมากแค่ไหน
จากที่ได้ใช้เครื่องมือ Social Listening Tool ของ Mandala สำรวจกระแสความนิยมของซีรีส์ Hospital Playlist ที่ถูกพูดถึงบนช่องทางต่าง ๆ บน Social Network ต่าง ๆ ช่องทางที่มีคนพูดถึงมากที่สุด คือ ช่องทาง Twitter และเมื่อดูจากกราฟจะทำให้เห็นได้ว่ากราฟที่พุ่งขึ้นสูงขึ้นมาอันดับ 1 คือเป็นช่วงวันที่ซีรีส์ได้ทำการปล่อย EP แรก และอันดับสองเป็นวันที่ซีรีส์ออกอากาศวันสุดท้าย
จากภาพด้านบน เป็นตัวอย่างการใช้เครื่องมือ Mandala เพื่อค้นหา Keyword ที่ปรากฏอยู่บนโลกออนไลน์ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ
และเมื่อเรานำ Keyword ที่เกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้ มาทำการค้นหา Insight เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งถูกพูดถึง หรือสนใจเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้บน Social Media ทำให้พบว่ามีการพูดถึงชื่อตัวละครหลัก เรื่องเพลง รวมถึงความรู้สีกที่มีต่อซีรีส์เรื่องนี้
จากที่ได้กล่าวไปคร่าว ๆ ในตอนต้นถึงกระแสความปัง ประความสำเร็จของซีรีส์ Hospital Playlist ในวันนี้ผู้เขียนจะพาคุณไปวิเคราะห์ไอเดียที่น่าสนใจและแง่มุมการตลาดที่แฝงอยู่ภายในซีรีส์กัน จะมีอะไรบ้าง เราไปติดตามกันเลยค่ะ
1. การใช้ Music Marketing ในการเล่าเรื่อง
นอกจากซีรีส์เรื่องนี้จะมีการเล่าเรื่องด้วยการแสดงที่ดำเนินไปตามพล็อตที่วางไว้แล้ว ยังมีการนำกลยุทธ์ Music Marketing เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการเล่าเรื่อง (Storytelling) ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกใหม่ และน่าสนใจมาก โดยหลังจากที่มีการแคสติ้งนักแสดงที่เหมาะกับคาแรคเตอร์นั้น ๆ แล้ว ทางผู้จัดได้มีการส่งนักแสดงไปเรียนดนตรี และร้องเพลง เนื่องจากในเรื่องจะมีซีนเล่นดนตรี ร้องเพลง ที่ล้อไปกับสถานการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในเรื่อง เพื่อเพื่มความสมจริง และส่งอารมณ์ให้ผู้ชมได้อินกับตัวละคร รวมถึงความสัมพันธ์ของตัวละครมากขึ้นค่ะ ซึ่งในจุดนี้ทำให้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมหลาย ๆ คนแน่นอน ในหลาย ๆ บทเพลงที่ได้ถูกปล่อยออกมา ก็ขึ้นไปอยู่บนชาร์ตอันดับต้น ๆ ในแพลตฟอร์ม Streaming เพลงในเกาหลีอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากไปทั่วโลก
จากภาพด้านบนเป็นชาร์ตของหนึ่งในเพลงประกอบซีรีส์ที่โจจองซอก นักแสดงนำของซีรีส์เรื่องนี้เป็นคนขับร้องค่ะ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกระแสตอบรับที่ดีมาก ๆ จากแฟน ๆ เพราะเพลงของเขานั้นได้ขึ้นไปอยู่อันดับหนึ่งบน Music Streaming Platform ที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีอย่าง Melon และอันดับต้น ๆ ของเจ้าอื่น ๆ
ตัวอย่างซีนในซีรีส์ที่มีการใช้เพลงเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเล่าเรื่อง
เมื่อคนไข้เด็กน้อยที่ได้มาทำการรักษาตัวกับคุณหมอในเรื่องจนหายดี ก่อนออกจากโรงพยาบาล มีเด็กน้อยที่ได้รับการรักษาวิ่งเข้ามากอดคุณหมอ เพื่อขอบคุณที่รักษาเธอจนหายสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ และเพลงประกอบฉากที่ทางซีรีส์เรื่องนี้ได้เลือกมาใช้คือเพลง Me to You, You to Me ที่มีความหมายถึงการที่เปรียบคุณหมอที่ดูแลคนไข้เหมือนดั่งความหวัง เป็นแสงสว่างที่ส่องแสง ให้การรักษาให้คนไข้นั้นผ่านไปด้วยดี สามารถช่วยชีวิตคนไข้ให้ชีวิตอยู่ต่อไปได้ค่ะ
2. ทำคอนเทนต์อย่างรอบด้านเพื่อโปรโมตซีรีส์
ในช่วงที่ซีซั่นแรกของซีรีส์เรื่องนี้จบไป ด้วยกระแสตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ ซีรีส์ทั่วโลก ทางนักแสดงหลักทั้ง 5 คน ได้มีการจัดมินิคอนเสิร์ต LIVE สด บนแพลตฟอร์ม YouTube เพื่อเป็นการขอบคุณแฟน ๆ ซีรีส์ในสนับสนุนซีรีส์เรื่องนี้ อีกทั้งในช่วงก่อนที่จะเริ่มต้นฉายซีซั่น 2 ได้มีการปล่อยรายการวาไรตี้ที่ชื่อว่า Wise Camping Life เพื่อโปรโมตการกลับมาของซีรีส์เรื่องนี้ในซีซั่น 2 ยังไม่หมดแต่เพียงแค่นั้น หลังจากจบซีซั่น 2 ก็มีปล่อยรายการวาไรตี้ Three Meals A Day Doctors ปิดท้ายเอาใจแฟน ๆ อีกด้วยค่ะ
จากที่กล่าวไปข้างต้นนี้แสดงให้เห็นว่าทีมงานซีรีส์เรื่องนี้ได้ต่อยอดกระแสความปังของซีรีส์เรื่องนี้ได้อย่างรอบด้านด้วยการทำคอนเทนต์ที่หลากหลายเพื่อเอาใจแฟน ๆ ซีรีส์ ทำให้แฟน ๆ อยู่กับกระแสนี้ได้นานขี้น และสามารถเพิ่ม Awareness ให้กับคนทั่วไป ดึงดูดให้คนที่มีแนวโน้มที่จะเข้ามาชมซีรีส์เรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น
3. การร่วมมือออกคอลเลกชั่นพิเศษกับแบรนด์ซื้อผ้าชื่อดังอย่าง SPAO
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่แสดงให้เห็นความประสบความสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้คือได้มีการออกคอลเลกชั่นพิเศษในส่วของเสื้อผ้า ของใช้ อย่างกระเป๋าผ้า ร่วมกับแบรนด์ SPAO แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นจากเกาหลี ซึ่งเป็นหนึ่งช่องทางในการต่อยอดกระแสซีรีส์ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับซีรีส์เรื่องนี้ค่ะ
View this post on Instagram
ตัวอย่างเสื้อผ้าคอลเลกชันพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อซีรีส์นี้โดยเฉพาะ
4. การจำหน่าย Official Goods ของซีรีส์
เนื่องจากซีรีส์เรื่องนี้มีเพลงประกอบซีรีส์เป็นจำนวนมาก ทำให้นำมาสู่การขายจำหน่ายกู้ดส์ Official เกิดขึ้นค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในสินค้าหลักที่จำหน่ายก็คือ CD เพลงประกอบซีรีส์นั่นเอง และภายในอัลบั้มได้มีของแถมต่าง ๆ เช่น รูปโพลารอยด์พร้อมข้อความและลายเซ็น(แบบพิมพ์), โปสเตอร์พร้อมลายเซ็น(แบบพิมพ์) เพื่อกระตุ้นความต้องการให้เหล่าบรรดาแฟน ๆ และผู้ชมซีรีส์ก็จะต้องถูกใจอย่างแน่นอนค่ะ
ยิ่งไปกว่านั้น ทางทีมงาน Hospital Playlist ได้มีการจำหน่าย Hospital Playlist Kit หรือ Box Set ของกลุ่มสินค้าที่มีความเกี่ยวข้องกับซีรีส์ ยกตัวอย่างเช่น สายคล้องบัตร หรือ บัตรประจำตัวของคุณหมอทั้ง 5 คน ที่เป็นตัวละครหลัก
แน่นอนว่ากลยุทธ์นี้จะทำให้ทีม Hospital Playlist สามารถสร้างเม็ดเงินอย่างมหาศาล จากแฟน ๆ ซีรีส์ทั่วโลกจากการจัดจำหน่าย Official Goods เหล่านี้ค่ะ
5. การ Tie-in โฆษณาสินค้าอย่างแนบเนียน
คงเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการชมซีรีส์เกาหลีคือพบกับการ Tie-in โฆษณาของหลากหลายประเภทสินค้า โดยเราจะเห็นได้ว่ามีหลากหลายแบรนด์ไม่ว่าจะเป็นสินค้าชิ้นเล็ก ๆ อย่างขนม อาหาร เครื่องดื่ม ไปจนถึงรถยนต์ โทรศัพท์มือถือ ก็ล้วนแล้วแต่เลือกใช้กลยุทธ์นี้ในการโปรโมตสินค้า และบริการ เพื่อสร้าง Awareness หรือการรับรู้ให้กับแบรนด์สินค้าบริการนั้น ๆ ในวงกว้างไปทั่วมุมโลก ซึ่งในเรื่อง Hospital Playlist นี้ ได้มีการ Tie-in โฆษณาลูกอมกาแฟ Kopiko Coffee Candy มาเป็นส่วนหนึ่งของซีน หรือฉากต่าง ๆ ภายในเรื่องเช่นกันค่ะ
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ คือมีการส่งเสริม Soft Power ในเชิงบวก ซึ่งหากใครได้รับชมซีนที่มีฉากเกี่ยวกับการที่มีผู้ป่วยรอการบริจาคอวัยวะเพื่อส่งตัวไปรักษาต่อ และเมื่อซีนนั้นได้ถูกออนแอร์ไปทำให้มีคนเกาหลีจำนวนมากไปขอบริจาคอวัยวะเพิ่มมากขึ้นถึง 11 เท่าตัว จากเดือนที่ก่อนหน้านี้ ซึ่งนอกจากซีรีส์เรื่องนี้จะใช้ความบันเทิงกับผู้ชมด้วยเสียงเพลง หรือการแสดงที่สมบทบาทของนักแสดงแล้วนั้น ยังสามารถส่งสาร หรือ Message ที่สามารถช่วยชีวิตคนอีกหลายคนได้อีกเช่นกันค่ะ และเมื่อสถานการณ์ดีโควิด-19 ทั่วโลกดีขึ้น มีความเป็นไปได้สูงว่าทางทีม Hospital Playlist อาจจะกลับมาทำกิจกรรมแบบ Offline ไม่ว่าจะเป็นการออกทัวร์ Fanmeet ออกมาให้แฟน ๆ หายคิดถึงกันแน่นอนค่ะ
จากภาพกราฟด้านบนแสดงให้ถึงจำวนวนที่เพิ่มขึ้นของชาวเกาหลีที่มาบริจาคอวัยวะหลังจากที่ซีรีส์ได้ออนแอร์ฉากดังกล่าวไป
สรุป
และนี่ก็เป็นไอเดียการตลาดที่ได้จากซีรีส์ Hospital Playlist ที่ทางทีม STEPS Academy ตั้งใจนำมาแบ่งปันให้กับทุกท่านในวันนี้ค่ะ เราชื่อว่าหลาย ๆ ท่านที่อ่านอยู่อาจจะเป็นแฟน ๆ ที่รักซีรีส์เรื่องนี้ หรือหากท่านไหนยังไม่เคยดู เราขอแนะนำอีกหนึ่งซีรีส์น้ำดี ที่จะมาฮีลจิตใจทุกท่าน เพิ่มพลังบวกในการใช้ชีวิต เพราะนอกจากได้รับความบันเทิงแล้วยังได้รับไอเดียแนวคิดการตลาดที่น่าสนใจที่นักการตลาดสามารถนำไปปรับใช้วางแผนแคมเปญทางการตลาดให้ตอบโจทย์เป้าหมายธุรกิจได้อีกด้วยค่ะ
อ้างอิง
https://thesmartlocal.com
https://www.tripzilla. ph