สร้างความประทับใจให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์คุณด้วยคอนเทนต์ที่สร้าง Awareness

หลายท่านคงรู้แล้วว่าการวางกลยุทธ์คอนเทนต์นั้นสำคัญ แต่…….

คอนเทนต์แบบไหนที่ตอบโจทย์ในสิ่งที่เราต้องการ?
ทำคอนเทนต์แบบไหนให้ได้ตาม Marketing Funnel?
ทำคอนเทนต์ยังไงให้ขายของได้?

นี้คือปัญหาที่หลายๆท่านเจออยู่ใช่ไหมคะ และวันนี้จินนี่จะมาแบ่งปันความรู้ในเรื่องของการวางกลยุทธ์การทำคอนเทนต์เบื้องต้น โดยจินนี่จะแบ่งบทความออกเป็น 3 ชุดตามลำดับ และในบทความนี้เราจะมาเน้นในเรื่องของการทำคอนเทนต์ Top of Funnel หรือการทำ Awareness นั้นต้องทำอย่างไรบ้าง 

ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับ Content Marketing Funnel ก่อนดีกว่าว่ามันเป็นอย่างไรและมีขั้นตอนใดบ้าง

 

Content Marketing Funnel คืออะไร?

Content Marketing Funnel คือกลยุทธ์การทำคอนเทนต์ ที่ใช้สำหรับคัดกรองและเลือกลูกค้าที่มีคุณสมบัติตรงตามที่เราต้องการ ผ่านคอนเทนต์ต่างๆหลากหลายรูปแบบที่เราเป็นคนกำหนดและสร้างสรรค์ขึ้นมา เพื่อทำให้เราได้ลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเราจริงๆ หรืออีกความหมายหนึ่ง ที่หลายๆท่านอาจเคยได้ยินกันมาก่อน นั่นก็คือการเปลี่ยนจากคนแปลกหน้าให้เป็นคนรู้จัก จากคนรู้จักให้เป็นคนคุ้นเคย และจากคนคุ้นเคยให้เป็นลูกค้า ผ่าน “คอนเทนต์” ซึ่งในกระบวนการคัดกรองนั้นประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนดังนี้ค่ะ

1. Top of the Funnel (ToFu) 
   • เพิ่มการรับรู้แบรนด์
   • เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ 
   • เพิ่มปฏิสัมพันธ์ที่ดีบนโลกออนไลน์
   • เนื้อหาคอนเทนต์ที่ดึงดูดความสนใจ
2. Middle of the Funnel (MOFU)
   • มุ่งเน้นการดึงดูดข้อมูลของลูกค้า
   • การสร้างกลุ่มคนที่ให้ความสนใจและการดูแลความสัมพันธ์กลุ่มเป้าหมาย
   • คอนเทนต์ที่ให้ความรู้ และ ข้อมูล
3. Bottom of the Funnel (BOFU) 
   • มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนกลุ่มคนที่สนใจให้เป็นคนที่ซื้อบริการหรือสินค้า
   • คอนเทนต์ที่เฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคลและเน้นสินค้าผลิตภัณฑ์

ภาพจาก : DigitalMarketer

ตอบคำถาม 3 ข้อนี้ก่อนเริ่มต้นวางกลยุทธ์คอนเทนต์

ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องของคอนเทนต์ที่เหมาะสำหรับการสร้างการรับรู้ (Awareness) เราจะมาพูดถึงเรื่องของกลยุทธ์ทางการตลาด Content Marketing Funnel ทั้ง 3 ขั้นตอนก่อนค่ะ โดยก่อนที่ทุกท่านจะเริ่มวางกลยุทธ์​ จินนี่อยากให้ทุกท่านลองตอบคำถาม 3 ข้อนี้ก่อนจะช่วยให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ

 

1.คุณคือใครและทำอะไร

กลุ่มเป้าหมายในขั้นตอนของ Awareness นั้นคือคนที่ไม่รู้จักคุณ​ หรือรู้จักเกี่ยวกับธุรกิจของคุณน้อยมาก ดังนั้นก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อ​ พวกเขาต้องการรู้ว่า “คุณคือใครและคุณขายอะไร” เมื่อลูกค้าตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่าง​ พวกเขาใช้จ่ายเงินเพื่อสนับสนุนแบรนด์ที่พวกเขาไว้วางใจและเชื่อมั่น หากคุณต้องการเพิ่มจำนวนลูกค้า คุณต้องให้ผู้ชมของคุณรู้จักแบรนด์และสิ่งที่บริษัทคุณให้คุณค่า

กลยุทธ์

• นำเสนอคอนเทนต์ที่สะท้อนถึงคุณค่าของบริษัทคุณ
• คอนเทนต์ควรให้คุณค่าที่ตรงไปตรงมามากที่สุด
• ไม่เน้นขายจนเกินไป

ตัวอย่าง แคมเปญของแบรนด์ KFC ที่ได้ทำสื่อนี้ออกมาเพื่อแสดงถึงพลังของแบรนด์ ว่าต่อให้มีการเปลี่ยนตัวอักษรชื่อแบรนด์สักเท่าไหร่ แต่ชื่อแบรนด์ KFC ก็ยังเป็นที่จดจำของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่ได้มีการพูดถึงไก่ทอดแต่อย่างใด​ แต่นั่นก็ทำให้แคมเปญนี้เป็นที่สนใจและสร้างการรับรู้ได้เป็นอย่างดีสำหรับผู้ที่เห็นโฆษณาตามสื่อต่างๆทั้งออฟไลน์และออนไลน์

 

2.ทำไมลูกค้าจะต้องสนใจ

บอกลูกค้าว่า ทำไมพวกเขาถึงต้องการสินค้าหรือบริการของจากแบรนด์ของพวกเรา ปัญหาอะไร​ หรือความเจ็บปวดอะไร​ ที่พวกคุณสามารถช่วยเหลือลูกค้าได้ ดังนั้นคุณควรเตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือ แบ่งปัน ความรู้ ประโยชน์ของการใช้สินค้า​ หรือสิ่งที่จะได้จากบริการของคุณ​ แทนที่จะบอกแต่คุณสมบัติของมัน

กลยุทธ์

• คอนเทนต์ที่ให้ข้อมูลและความรู้
• แสดงให้กลุ่มเป้าหมายเห็นว่า​ เราสามารถแก้ไขปัญหาของพวกเขาได้
• นำเสนอสินค้าของคุณ​ ว่าเป็นทางออกเดียวที่จะช่วยเหลือเขาได้

ตัวอย่างเช่น คอนเทนต์ 6 ขั้นตอนการตลาดออนไลน์ การเปลี่ยนจากคนแปลกหน้าไปเป็นลูกค้าตลอดกาลของ STEPS Academy ที่ได้แบ่งความรู้และขั้นตอนที่สามารถช่วยเหลือให้ผู้อ่านนั้นสามารถนำไปใช้เพื่อสร้างลูกค้าประจำได้มากขึ้น

6 ขั้นตอนการตลาดออนไลน์ การเปลี่ยนจากคนแปลกหน้าไปเป็นลูกค้าตลอดกาล

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://stepstraining.co/strategy/6-steps-convert-stranger-to-customer-2

 

3.อะไรคือผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกค้า หากพวกเขาตัดสินใจซื้อ

นี้เป็นโอกาสของคุณที่จะบอกกลุ่มเป้าหมายของคุณว่าชีวิตของพวกเขาจะดีขึ้นอย่างไร​หากใช้สินค้าของคุณ​ และถ้าพวกเขาไม่ใช้จะเกิดผลเสียอะไรขึ้น นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการขาย​ แต่เป็นโอกาสที่คุณจะได้แบ่งปันและบอกกล่าวว่า​ สินค้าของคุณมีคุณสมบัติและประโยชน์อะไรที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของลูกค้าได้

ตัวอย่างเช่น Google Assistant ที่แสดงถึงศักยภาพของระบบที่สามารถช่วยให้ชีวิตประจำวันของคุณง่ายมากขึ้นเพียงแค่ใช้คำสั่งเสียง แค่เห็นวิดีโอนี้เราก็อยากใช้บ้างแล้วใช่ไหมคะ

เมื่อเรารู้แล้วว่าขั้นตอนของการทำ Content Marketing Funnel มีอะไรบ้าง และสามารถตอบคำถาม 3 ข้อ​ ที่จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนกลยุทธ์ในการทำการตลาดคอนเทนต์แล้ว ในตอนนี้เราจะมาเน้นเรื่องของการทำคอนเทนต์ในลำดับขั้น Top of Funnel (TOFU) หรือ การทำ Awareness นั้นเองค่ะ เราไปทำความรู้จักกับ Top of Funnel (TOFU) ให้มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ

 

Top of the funnel (TOFU) คือ ?

ขั้นตอนแรกที่คุณจะดึงดูดความสนใจของผู้ชมและสร้างการรับรู้ (Awareness) คุณจะต้องสร้างความประทับใจลูกค้าด้วยคอนเทนต์ที่มีคุณค่า น่าสนใจ โดยที่คอนเทนต์นี้สามารถตอบคำถามหรือแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้อ่านได้โดยที่คุณไม่ต้องหวังผลตอบแทน ดังนั้นการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Awareness) เป็นเกมที่คุณจะต้องเล่นในขั้นตอนนี้ค่ะ 

โดยการเผยแพร่คอนเทนต์ของคุณไปยังช่องทางการตลาดต่างๆ เช่นโซเชียลมีเดียต่างๆ เป็นวิธีที่ดีในการดึงดูดความสนใจของผู้ชม

• เพิ่มการรับรู้และการเข้าถึง
• เพิ่มจำนวนผู้มุ่งหวัง 
• เพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีบนโลกออนไลน์
• เพิ่มปริมาณผู้เข้าเว็บไซต์

 

รูปแบบคอนเทนต์สำหรับ Awareness

ในขั้นตอนของการทำคอนเทนต์ Awareness นั้น ผู้ชมหลายท่านอาจพึ่งรับรู้ถึงปัญหาของตนเอง และอาจไม่รู้ว่าปัญหานั้นมีทางแก้ไขอยู่ ดังนั้นในขั้นตอนของการสร้างคอนเทนต์เพื่อการรับรู้นั้น เราควรเน้นไปที่การสร้างการรับรู้ตัวตนของแบรนด์และการพัฒนาความสัมพันธ์จากคนแปลกหน้าเป็นคนรู้จัก โดยทำให้ผู้ชมรับรู้ถึงปัญหาของตัวเขา และสร้างการรับรู้ว่าแบรนด์เราสามารถช่วยเหลือ แก้ปัญหาได้ โดยที่เราต้องสร้างความไว้วางใจและสร้างตัวตนของแบรนด์ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญค่ะ

คุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้ให้สำเร็จด้วยคอนเทนต์เกือบทุกประเภท แต่ในบทความนี้จินนี่ได้ทำการคัดเลือกมาให้แล้วว่าคอนเทนต์ที่จะทำให้เราสามารถสร้างการรับรู้ได้และทำการคัดกรองลูกค้าในเบื้องต้นนั้นมีรูปแบบใดบ้าง 

โดยเราจะมาเริ่มที่แนวทางในการทำคอนเทนต์นะคะ การทำคอนเทนต์ในขั้นตอนของการสร้างการรับรู้นั้น เนื้อหาจะต้องเข้าถึงง่าย​ และไม่ยากต่อการทำความเข้าใจจึงแบ่งออกมาเป็น 3 แนวทางในการเล่าเรื่องค่ะ

• บันเทิง (Entertains) – เมื่อเราดูแล้วรู้สึกสนุก คลายเครียด ดูน่าสนใจ อาจะไม่ใช่เนื้อหาที่เป็นวิชาการมาก เช่น เทรนด์ที่กำลังเกิด ข่าวสารอัพเดตสถานการณ์
• ความรู้ (Educates) – เป็นการสอดแทรกความรู้ที่ไม่เข้มข้นจนทางการมากไป แต่จะเน้นไปที่การแบ่งปันความคิดเห็น มุมมองต่างๆจากประสบการณ์ รวมไปถึงการนำเสนอความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมาย
• สร้างแรงบันดาลใจ (Inspires) – เมื่อเราดูแล้วรู้สึกมีกำลังใจ มีแรงผลักดันที่จะทำให้เราพัฒนาบางสิ่งได้ดีขึ้นกว่าที่เราเคยทำ เช่น คำคม แนวคิด ทัศนคติ

…….. และเมื่อคุณแนวทางในการเล่าเรื่องคุณต้องรู้จักรูปแบบต่างๆหรือ อาวุธที่จะทำให้คุณสร้างรับรู้นั้นเองค่ะ

 

1.Blog posts

คอนเทนต์รูปแบบบล็อก เป็นเหมือนรูปแบบคอนเทนต์พื้นฐานที่ใช้ในการเล่าเรื่อง อธิบายหรือให้ความรู้ แชร์ประสบการณ์ การแสดงความคิดเห็นผ่านตัวอักษร ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้ผู้อ่านได้ ซึ่งคอนเทนต์รูปแบบบล็อกนั้น​ ง่ายต่อการค้นหา และคุณสามารถทำ SEO ที่ช่วยให้คอนเทนต์ของคุณอยู่อันดับต้นๆในการค้นหา

ในการทำคอนเทนต์เพื่อสร้างรับรู้นั้น สำคัญที่เนื้อหาที่คุณจะถ่ายทอดต้องเป็นคอนเทนต์ที่น่าสนใจ เข้าใจได้ง่าย หรือ เป็นคอนเทนต์ที่เมื่อผู้ชมอ่านแล้วรับรู้และจดจำแบรนด์เราได้ คุณสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้จำนวนมาก จากคำถามที่ลูกค้าถามหรือความกังวลใจต่างๆ

เช่น The Standard – กับคอนเทนต์ที่เป็นที่พูดถึง แจ็ค หม่า เตรียมเกษียณจากตำแหน่งประธานบริหาร Alibaba วันนี้ ยุติบทบาทหลังบุกเบิกตลาดอีคอมเมิร์ซนาน 20 ปี ซึ่งสำนักข่าวอย่าง The Standard ก็ใช้ข่าวสารของ คุณ แจ็ค หม่า ที่ผู้คนต่างให้ความสนใจ มาใช้ในการนำเสนอก็นับว่าเป็นคอนเทนต์รูปแบบบล็อกที่สามารถสร้างความสนใจได้เป็นอย่างดีค่ะ

 

HubSpot ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม CRM – ในหัวข้อ 47 คำคมจากเจ้าของธุรกิจที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คุณ

 

2.Video

คอนเทนต์รูปแบบวิดีโอเป็นที่นิยมในการสร้างการรับรู้ (Awareness) โดยคอนเทนต์รูปแบบวิดีโอนั้นสร้างโอกาสที่จะแสดงถึงผู้คนและเบื้องหลังการทำงานของพวกคุณ คุณค่าที่แบรนด์คุณยึดถือ นั้นทำให้แบรนด์ดูเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหากแบรนด์ของคุณมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งคอนเทนต์รูปแบบวิดีโอนั้นสามารถถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก อารมณ์ออกมาได้ดี จินนี่ได้นำตัวอย่างรูปแบบคอนเทนต์วิดีโอมาให้ดูกัน 2 รูปแบบกันค่ะ

ความรู้ (Educational) และ วิธีการทำ (How To) 

คอนเทนต์วิดีโอรูปแบบนี้เปิดโอกาสให้คุณตอบคำถามและแบ่งปันคำแนะนำที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาของผู้ชมได้ คอนเทนต์ประเภทความรู้นั้นได้ผลดีกับทุกขั้นตอนของการวางแผนกลยุทธ์คอนเทนต์ หากคุณใช้คอนเทนต์รูปแบบวิดีโอในการสร้างการรับรู้ (Awareness) นั้นให้เน้นไปที่ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน หรือความกังวลใจของลูกค้า โดยการนำเสนอสิ่งที่คุณสามารถช่วยเหลือและกำจัดปัญหาเหล่านั้นได้

เช่น STEPS Academy ได้สร้างวิดีโอที่ช่วยเหลือหลายๆท่านที่ไม่แน่ว่าการถ่ายโอนข้อมูลบัญชีจาก Line@ ไปยัง Line OA นั้นยากไหมข้อมูลจะหายหรือไม่ เราเลยได้ทำวิดี How to ขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาความกังวลใจของลูกค้าค่ะ

 

Video Influencers เจ้าของหนังสือ YouTube Secrets ที่ทำคอนเทนต์วิดีโอในหัวข้อ How to เริ่มต้นและสร้างช่องยูทูปของคุณโดยเริ่มจากศูนย์ ด้วย 7 เทคนิค

 

ภาพยนตร์เกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ (Brand Films)

แบรนด์สามารถแบ่งปันรายละเอียดเกี่ยวกับ ค่านิยมและพันธกิจของบริษัท เป็นวิธีที่จะทำให้ผู้ชมนั้นรู้จักคุณผ่านเรื่องราวที่ไม่ใช่การขาย นี่เป็นโอกาสที่คุณจะสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณและสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ อย่าง Shopify ที่ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาทำเป็นหนังสั้น ที่ในเนื้อหาแทบไม่มีการพูดถึงบริษัทเลยแต่มุ่งเน้นไปที่ Shopify ได้ช่วยลูกค้า

 

3.Infographics

ผลวิจัยจาก Wharton School of Business ที่ออกมารับรองว่าการนำเสนอข้อมูลสินค้าหรือบริการด้วยการเล่าเรื่องด้วยภาพประกอบจะช่วยโน้มน้าวลูกค้าได้ดีมากขึ้นถึง 67% เลยทีเดียว เนื่องจากภาษาภาพจะช่วยการเรื่องการรับรู้ของผู้ชมได้มากกว่านั้นเอง 

นั้นทำให้การทำคอนเทนต์รูปแบบอินโฟกราฟิกนั้นสามารถดึงดูดความสนใจและสร้างการรับรู้ได้ดีผ่านการถ่ายทอดข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้หลายช่องทาง และเนื้อหาคอนเทนต์ที่นิยมในการนำไปใช้นั้นก็คือ สถิติ รายการ How to เป็นต้น​ เพราะสามารถอธิบายเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจให้ง่ายขึ้นและเข้าใจได้ภาพใน 1 ชิ้น เช่น รูปภาพกระบวนการขั้นตอนการทำเค้กรูปนี้ที่อธิบายเนื้อหาจำนวนมหาศาลให้อยู่ในรูปเดียวผ่านอินโฟกราฟิก ซึ่งต่อให้เราอ่านภาษาเกาหลีไม่ออกแต่ก็ยังสามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดายค่ะ 

 

ตัวอย่าง 29 Ways to stay creative ได้อธิบายถึงวิธีการที่จะทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์โดยการใช้อินโฟกราฟิกในการช่วยอธิบายถึงขั้นตอนต่างๆทำให้รูปนี้ดูน่าสนใจและเข้าใจได้ง่ายมากขึ้นค่ะ

 

4.Ebooks 

การทำคอนเทนต์รูปแบบ Ebook นั้นตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการทำความเข้าใจกับหัวข้อคอนเทนต์ที่มีความซับซ้อน ซึ่งคอนเทนต์รูปแบบ Ebook นั้นจะสามารถอธิบายได้ละเอียดกว่าคอนเทนต์แบบบล็อก และสามารถสร้างโอกาสในการรับรู้ถึงแบรนด์ของคุณ หรือสิ่งที่คุณเชี่ยวชาญ และคุณสามารถใช้การแจกไฟล์ Ebook ฟรี ในการโปรโมทกระตุ้นให้เพิ่มการรับรู้และการเข้าถึงแบรนด์ของคุณมากยิ่งขึ้น 

เมื่อคุณสร้างคอนเทนต์รูปแบบ Ebook นั้นสามารถช่วยให้หน้า Landing Page ของคุณมี SEO ที่ดีขึ้นด้วย ซึ่งคอนเทนต์รูปแบบ Ebook นั้นกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายของคุณสนใจ แชร์ แบ่งปันความรู้ต่อๆกันในโลกโซเชียลมิเดียอีกด้วย ด้วยเนื้อหาที่มีประโยชน์นั้นกระตุ้นคนอ่านให้อยากเข้าเว็บไซต์ของเรามากขึ้นและมีโอกาสสูงที่ผู้ชมจะยอมแลกข้อมูลอย่าง ชื่อ อีเมล เบอร์โทรของตนเองเพื่อให้ได้รับไฟล์ Ebook ค่ะ ที่สำคัญคอนเทนต์รูปแบบ Ebook เราสามารถนำเนื้อหามาปรับแต่งและสร้างสรรค์เป็นคอนเทนต์รูปแบบอื่นๆได้อีก เช่น รูปภาพ อิฟโฟกราฟิก วิดีโอเป็นต้น

ไฟล์ Free Ebook จาก STEPS Academy เตรียมความพร้อมก้าวแรกสู่การตลาดบนโลกดิจิทัลดาวน์โหลดได้ที่ : https://docs.stepstraining.co/fm04-first-step-digital-marketing-ebook

HubSpot – Ebook 22 SEO Myths You Should Leave Behind in 2019

 

AdEspresso – The Ultimate Guide to Custom Audiences (2019 Edition)

 

5.Audio Podcasts

คอนเทนต์รูปแบบสุดท้ายที่เราพูดถึงกันนะคะ พอดแคสต์เป็นอีกหนึ่งรูปแบบคอนเทนต์ที่มาแรงมากในช่วงนี้ค่ะ ซึ่งคอนเทนต์รูปแบบนี้เราสามารถสอดแทรกประสบการณ์ ความคิดเห็น แนวคิดหรือเรื่องราวขำขันเพิ่มช่วยให้คอนเทนต์มีความสนุกมากยิ่งขึ้นค่ะ สามารถฟังได้เรื่อยๆ เพลินๆ ตัวอย่างเช่น พอดแคสต์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจะเป็นเรื่องของการพัฒนาตนเอง การบริหารเวลาการทำงานเป็นต้น เพราะว่าเป็นปัญหาที่ผู้คนส่วนใหญ่ประสบและต้องการวิธีการที่จะทำให้ตนเองสามารถบริหารเวลาได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งคอนเทนต์รูปแบบพอดแคสต์นั้นเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่น่าสนใจและน่าจับตามองอย่างมากในปีนี้ค่ะ

 

The GaryVee Audio Experience Podcast – 10 Ways to Have a Winner’s Mindset

 

Girlboss – Building A Business For The IG Generation

สรุป

Top of the funnel (TOFU) คือ ? 

ขั้นตอนแรกที่คุณจะดึงดูดความสนใจและสร้างการรับรู้(Awareness) คุณจะต้องสร้างความประทับใจลูกค้าด้วยคอนเทนต์ที่มีคุณค่า น่าสนใจ สร้างความประทับใจแก่ผู้ชม ผ่านการเล่าเรื่องหรือช่วยเหลือพวกเขาด้วยการให้ความรู้ เทคนิค ในการแก้ปัญหาที่พวกเขาประสบอยู่ผ่านคอนเทนต์ที่น่าสนใจ 5 รูปแบบนั้นก็คือ

• Blog posts
• Video
• Infographics
• Ebook
• Audio Podcasts

สุดท้ายจินนี่หวังว่าคอนเทนต์นี้จะทำให้ผู้อ่านได่ประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ ตอนนี้จินนี่เองก็พยายามพัฒนาทักษะในการเขียน การเล่าเรื่องรวมไปถึงการทำภาพอินโฟกราฟิกกับวิดีโออยู่จะรีบพัฒนาทักษะเพื่อที่จะได้นำเสนอคอนเทนต์ที่สนุกมากขึ้นให้กับทุกๆท่านนะคะ ฝากรอติดตามผลงานของจินนี่ด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ 😉