คอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยส่งเสริมความสำเร็จ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ Organic Content หรือคอนเทนต์ที่ไม่เสียค่าโฆษณา ที่ส่งเสริมในการสร้าง Awareness ไปจนถึงการตัดสินใจของผู้อ่านที่นำมาสู่ Conversion ให้กับแบรนด์ได้ค่ะ
วันนี้ผู้เขียนจะพาทุกท่านมาเจาะลึกให้เข้าใจถึงองค์ประกอบสำคัญที่ Organic Content ควรมีกันค่ะ
องค์ประกอบของ Organic Content ควรมีอะไรบ้าง
ข้อมูลจาก Semrush Blog เว็บไซต์เผยแพร่องค์ความรู้ด้านการตลาดดิจิทัลได้ทำการศึกษาถึงองค์ประกอบสำคัญของ Organic Content ด้วยการนำข้อมูลจากคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพมาหา Insight เบื้องหลังของคอนเทนต์นั้นๆ โดยมีองค์ประกอบหลักๆดังนี้ค่ะ
- Headline หรือ หัวข้อบทความ
- Structure หรือ โครงสร้างของบทความ
- Visual Content หรือ ภาพหรือวิดีโอประกอบบทความ
- Article Quality and Topic Coverage หรือ คุณภาพของบทความ
ต่อมาเรามาทำความเข้าใจในแต่ละรายละเอียดขององค์ประกอบกันดีกว่าค่ะ ว่านักการตลาดต้องคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง
1. Headlines หรือ หัวข้อบทความ
หัวข้อบทความเป็นส่วนแรกที่ผู้อ่านเห็นเมื่อเข้ามาอ่านบทความของเรา และเป็นส่วนที่จะขึ้นอยู่บนหน้า SERPs (Search Engine Result Pages) ที่เชิญชวนให้ผู้อ่านคลิกเข้ามาอ่านคอนเทนต์ของเราค่ะ จึงถือเป็นองค์ประกอบที่นักเขียนควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ โดยจากการศึกษาพบว่าการเขียนหัวข้อบทความควรคำนึงถึงประเด็นดังต่อไปนี้
- สามารถกระตุ้นให้ผู้อ่านคลิกเข้ามาอ่านคอนเทนต์ของเราได้
- แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ผู้อ่านจะได้รับตั้งแต่ในหัวข้อบทความ
- สื่อสารได้ถึง Brand Voice และ Mood and Tone ที่ต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย
- ความยาวของหัวข้อบทความหรือ Meta Title โดยสามารถตรวจสอบความยาวที่เหมาะสมได้ด้วยเครื่องมือ Google SERP Snippet Optimization Tool
2. Article Structure หรือ โครงสร้างของบทความ
โครงสร้างของบทความ และความซับซ้อนของบทความหรือ Heading Depth หมายถึงหัวข้อย่อยภายในบทความของเราค่ะ ยิ่งมีหัวข้อลึกมากเท่าไหร่ยิ่งหมายถึงความซับซ้อนของบทความที่เพิ่มมากขึ้นค่ะ
ความลึกของบทความส่งผลต่อประสิทธิภาพของบทความเช่นเดียวกันค่ะ โดยจากการศึกษาค้นพบว่า จำนวนของหัวข้อย่อยในบทความที่มากขึ้นส่งผลต่อประสิทธิภาพของคอนเทนต์ที่ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็น ทั้งในแง่ของการทำให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และบทความมีความเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจเป็นส่วนที่ทำให้ผู้อ่านอยากอ่านบทความของเรามากยิ่งขึ้นด้วย และผลต่อการทำ SEO ค่ะ โดยองค์ประกอบของโครงสร้างมีดังนี้
ภาพจาก Semrush
- H1 (Heading) หรือหัวข้อบทความ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญสุดที่ส่งผลต่อการทำ SEO
- H2 (Subheadline) หรือหัวข้อย่อยในบทความ ตัวอย่างเช่น หาก H1 ของบทความคือ แนวทางในการทำ Content Marketing ในปี 2022 H2 อาจจะประกอบด้วย Content Marketing คืออะไร และ 5 ตัวอย่างในการทำ Content Marketing ในปี 2022
- H3 H4 H5 และอื่นๆ จึงเป็นหัวข้อย่อยที่ลึกลงไปในตัวบทความแต่ละหัวข้ออีกทีนั่นเองค่ะ
3. Visual Content หรือ ภาพหรือวิดีโอประกอบบทความ
ส่วนประกอบของบทความอย่าง Visual Content ถือเป็นอีกองค์ประกอบสำคัญที่ไม่ใช่แค่เพียงเป็นส่วนช่วยในการอธิบายรายละเอียดของเนื้อหาให้ผู้อ่านเข้าใจมากยิ่งขึ้น แต่ยังส่งผลไปสู่ประเด็นอื่นๆ ดังต่อไปนี้
- User Experience ส่งผลต่อประสบการณ์ของผู้อ่านให้ดีมากยิ่งขึ้น เนื่องจาก Visual Content เปรียบเสมือนจุดพักสายตา เมื่อต้องอ่านข้อความยาวๆ
- จากการศึกษาพบว่าจำนวนของภาพ หรือ วิดีโอที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นยังส่งผลต่อประสิทธิภาพของวิดีโอที่เพิ่มขึ้นตามมาเช่นกัน
ข้อมูลจาก Semrush แสดงถึงประสิทธิภาพของคอนเทนต์เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนภาพในบทความ
โดยแนวทางในการทำ Visual Content มีดังต่อไปนี้
1 เปลี่ยนจากข้อมูลในรูปแบบ List มาอยู่ใน Visual Content
2 หาวิดีโอ หรือ Gifs ประกอบที่สามารถช่วยอธิบายสินค้าของแบรนด์ หรือ ข้อมูลที่ต้องการอธิบาย
3 นำข้อมูลที่เข้าใจได้ยากมาอธิบายให้อยู่ในรูปแบบของตาราง หรือ Infographic
4. Article Quality and Topic Coverage หรือ คุณภาพของบทความ
บทความที่ยาวขึ้นซึ่งครอบคลุมเนื้อหาในเชิงลึกมักจะส่งผลต่อ Organic Traffic และจำนวน Blacklink ที่เพิ่มขึ้นตามมาค่ะ โดยจากผลการศึกษาพบว่าคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงจะมีจำนวนของคำอยู่ที่ 3,000 คำขึ้นไปค่ะ
อย่างไรก็ตามการพิจารณาถึงจำนวนคำภายในบทความของเรานั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยทั้ง
- หัวข้อบทความ
- ความน่าเชื่อถือของบทความ
- ภาษาที่ใช้ในการเขียนมีความเหมาะสมในการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย
- ประเภทของบทความ หรือประเภทของธุรกิจนั้นๆ
จึงกล่าวได้ว่าผู้เขียนจะต้องคำนึงถึงหลากหลายปัจจัยควบคู่ไปด้วย
สรุป
ในการทำความเข้าใจถึงองค์ประกอบสำคัญของการสร้าง Organic Content ให้ติดหน้าแรกบน Google Search จะต้องคำนึงถึงหลากหลายประเด็นควบคู่กันไม่ว่าจะเป็นทางเทคนิค และรูปแบบการเขียนที่เชิญชวนให้ผู้อ่านสามารถอ่านบทความของเราได้ไปจนจบ
ที่มา
https://www.semrush.com