ตลาดของ E-commerce ในประเทศไทยมียอดใช้จ่ายผ่าน E-commerce สูงเป็นอันดับ 1 ของโลกในปี 2022 ขึ้นมาจากอันดับ 3 ในปี 2021 แซงหน้าอินโดนีเซียและอังกฤษ ถือเป็นข้อบ่งชี้ถึงโอกาสในการทำรายได้ของธุรกิจบน E-commerce ที่หลายธุรกิจควรหันมาจับตามองค่ะ
ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ คือ Product Description หรือคำบรรยายของสินค้านั่นเองค่ะ ก่อนที่เราจะมาดูเทคนิคการเขียนให้สามารถเพิ่มยอดขาย เรามาทำความเข้าใจถึงความสำคัญของ Product Description กันค่ะ
ความสำคัญของ Product Description
ภาพจาก emarket
ข้อมูลจาก emarketer บริษัทที่เชี่ยวชาญในการวิจัยการตลาด แสดงข้อมูลด้านการตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์ ที่แสดงให้เห็นว่า Product Description (คำบรรยายสินค้า) ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าบนโลกดิจิทัลเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากภาพถ่ายของสินค้าค่ะ
Product Description คืออะไร และการมี Product Description ที่ดีควรเป็นอย่างไร
ภาพจาก Charles Deluvio taken จาก unsplash.com
Product Description คือ อีก 1 รูปแบบของงานเขียนข้อความโฆษณาในรูปแบบคำบรรยายรายละเอียดของสินค้าไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติสินค้า รวมไปถึงข้อมูลทั้งหมดของสินค้าบนช่องทาง E-commerce ค่ะ ซึ่ง Prodect Description ไม่ได้เป็นเพียงการเขียน Copy ธรรมดาทั่วไปแต่จำเป็นต้องมีเทคนิคและรูปแบบในการเขียนให้เหมาะสมกับสินค้า ทั้งนี้การมี Product Description ที่ดีจะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับแบรนด์ได้ดังต่อไปนี้
1. Boost sales on your site เพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์
Product Description เปรียบเสมือนอีกหนึ่งช่องทางในการให้ข้อมูลสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในสินค้าอยู่แล้ว จึงถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่สามารถส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้ หรือเปรียบเสมือนนักขายที่มีหน้าที่นำเสนอสินค้าให้กับผู้บริโภคนั่นเองค่ะ
2. The Cyclical Nature of SEO หรือกระบวนการการทำ SEO
Product Description ที่ดีเป็นอีกปัจจัยสำคัญของการทำ SEO (Search Engine Optimization) หรือการทำให้หน้าสินค้าบน E-commerce ของเราขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ บนหน้าการค้นหาของ Google ซึ่งหมายความถึงการมองเห็น (Impression) และ Traffic ที่จะเข้ามาสู่เว็บไซต์ของแบรนด์นั่นเองค่ะ
3. Brand Image หรือ ภาพลักษณ์ของแบรนด์
ส่วนประกอบสำคัญอย่าง Product Description เป็นส่วนประกอบที่จะแสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เราต้องการสื่อสารไปสู่กลุ่มเป้าหมายค่ะ เช่น
- การเขียนที่เป็นกันเอง ให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายและเป็นมิตรมากขึ้น
- การเขียนแบบทางการ สื่อถึงความหรูหรา
- การเขียนอย่างตรงไปตรงมา สอดแทรกลูกเล่น หรือข้อความสร้างความบันเทิง และยังคงเหมาะสมกับสินค้า
โดยแต่ละรูปแบบการเขียนสามารถสื่อสารไปถึงตัวตนของแบรนด์ และกลุ่มเป้าหมาย (Target Group) ของแบรนด์ที่เราต้องการสื่อสารได้อย่างเหมาะสมค่ะ
หลักจากผู้อ่านทุกท่านได้ทำความเข้าใจถึงความสำคัญของ Product Description ไปแล้ว เรามาดูหลักการในการเขียนด้วย FAB Techniques
FAB ย่อมาจากคำว่า Feature Advantage Benefit เป็นหลักการเขียน 3 ขั้นตอนที่ประกอบด้วย คุณสมบัติของสินค้า (Feature) ข้อดีของสินค้า(Advantage) และประโยชน์ของสินค้า(Benefit) เพื่อความสามารถในการนำเสนอสินค้าไปสู่ Conversion หรือยอดขายนั่นเองค่ะ โดยมีหัวใจหลักคือการนำเสนอสินค้าโดยให้ความสำคัญกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายจะได้รับจากการซื้อสินค้าของเราค่ะ
ขั้นตอนการเขียน Product Description ด้วยหลัก FAB Techniques
แนวทางในการเขียนที่จะสามารถช่วยให้นักการตลาดสามารถนำเสนอสินค้าได้อย่างทรงพลังมากขึ้น มี 3 ขั้นตอนตามรายละเอียดดังนี้
1.Features (คุณสมบัติ)
รวบรวมคุณสมบัติ หรือลักษณะเฉพาะของสินค้าทั้งหมด เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราต้องการนำเสนอด้านใดของสินค้า หรือสินค้าสามารถทำอะไรได้บ้าง เช่น
- ส่วนประกอบของสินค้า
- รูปแบบวัสดุของสินค้า
- หรือ รายละเอียดของสินค้าที่สามารถสร้างข้อได้เปรียบกับคู่แข่งได้
ตัวอย่างเช่น
- กล่องพลาสติคจากวัสดุ PP (Food Grade)
- ผ้าบุโซฟาทำจากเส้นใยธรรมชาติ ลินิน
2.Advantages (ข้อดี)
เลือก 3 คุณสมบัติที่เป็นข้อดีของสินค้า หรือถือเป็นจุดเด่นของสินค้าที่ทำให้สินค้าโดดเด่นจากคู่แข่ง เพื่อนำเสนออีกด้านของ Product Feature ที่มีการขยายความให้สามารถเข้าใจได้ง่าย และ เห็นภาพมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น
- กล่องพลาสติคมีความแข็งแรง คงทนกว่าพลาสติคทั่วไป
- ผ้าบุโซฟามีความแข็งแรง ทนทานต่อการขัดถูได้ดี มีความนุ่มและระบายความร้อน
3.Benefits (ประโยชน์)
พิจารณา 1-2 Advantages จากข้อที่แล้ว เพื่อนำเสนอประโยชน์ ที่ผู้ใช้งานจะได้รับจากการใช้สินค้า ที่สามารถแสดงให้เห็นว่าสินค้ามีความหมายต่อผู้ใช้งานอย่างไร
ตัวอย่างเช่น
- กล่องพลาสติคที่คงสภาพอาหารในขณะขนส่งให้สามารถส่งมอบถึงลูกค้าได้อย่างน่ารับประทาน รักษาคุณภาพของอาหารและไม่เป็นพิษต่อร่างกายของมนุษย์
- ผ้าบุโซฟาที่ง่ายต่อการดูและรักษา ทำให้สินค้ายังดูเหมือนใหม่แม้ใช้งานมายาวนาน อีกทั้งสัมผัสที่นุ่มนวลทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกผ่อนคลายในทุกครั้งที่ได้ใช้งาน
สำหรับผู้อ่านที่ต้องการเพิ่มโอกาสเติบโตทางธุรกิจด้วยการวางกลุยทธ์การตลาดออนไลน์อย่างถูกวิธีให้กับองค์กร STEPS ACADEMY ได้พัฒนา และปรับเปลี่ยนรูปแบบหลักสูตรให้ตอบโจทย์กับสถานการณ์ของกร และเทรนด์การเปลื่ยนแปลงในปัจจุบัน
STEPS Academy จึงมีบริการจัดฝึกอบรม และให้คำปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ภายในองค์กร (In-House Training) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสนใจลงทะเบียนได้ที่ : คลิก
สรุป
การเขียน Product Description ด้วย FAB Techniques เป็นขั้นตอนที่สามารถช่วยให้นักการตลาดสามารถนำเสนอสินค้าได้ตรงใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ซึ่งประกอบด้วย
- Features (คุณสมบัติ)
- Advantages (ข้อดี)
- Benefits (ประโยชน์)
ที่มา
https://business.trustedshops.com
https://www.lumitos.com
https://www.emarketer.com