Content Marketing เครื่องมือสำคัญในการสื่อสารตัวตนของแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย ด้วยจุดประสงค์ในการทำการตลาดที่แตกต่างกันออกไป เนื่องด้วยแนวทางในการสร้างสรรค์ Content Marketing มีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาสอดคล้องไปกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปค่ะ
วันนี้ STEPS Academy มี 6 แนวทางในการทำ Digital Content Marketing ที่ควรหันมาให้ความสำคัญในปี 2022 มาฝากผู้อ่านทุกท่านกันค่ะ
1. More “Humanized” Contents ผู้คนมองหาคอนเทนต์ที่มีความเป็นมนุษย์
ในยุค Digitalization เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำการตลาดในทุกแง่มุม ซึ่งรวมถึงการเข้ามาของ AI หรือ Artificail Intelligence ให้สามารถเขียนคอนเทนต์เพื่อทำการตลาดแทนมนุษย์ได้ค่ะ แต่ในปัจจุบันผู้อ่านกำลังมองหาคอนเทนต์ที่สามารถสื่อสารออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ (Authentic) และมีความแปลกใหม่มากยิ่งขึ้น จึงต้องเป็นคอนเทนต์ที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นกันเอง และตรงใจ(Resonate) กับผู้อ่านนั่นเองค่ะ ดังนั้นแนวทางในการสร้างคอนเทนต์จึงมีดังต่อไปนี้
- Resonate with Audience : การทำให้ผู้อ่านรู้สึกคุ้นเคยผ่าน Content Marketing โดยการทำคอนเทนต์อย่างมี Strategy ด้วยการทำความเข้าใจ Customer Personas เพื่อทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย (Audience) อย่างแท้จริงก่อนทำการสื่อสาร
- Brand Voice of Tone : โทนของการสื่อสาร แม้ว่าคอนเทนต์จะอยู่ในรูปแบบ บทความ วิดีโอ ภาพถ่าย หรือ Infographic ทั้งหมดล้วนสามารถสื่อสารได้ว่าแบรนด์ต้องการที่จะสื่อสารต่อกลุ่มเป้าหมายอย่างไร ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบของประโยคที่ใช้ในการสื่อสาร, สรรพนามที่เลือกใช้เรียกแทนบุคคลที่ 2 หรือ 3 , เทคนิคในการเขียน เป็นต้น
- Original Content: นำเสนอเรื่องราวของคอนเทนต์ใกล้ตัวเช่น Real life story, Case Studies, Interview เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นคอนเทนต์ที่สามารถจับต้องได้ง่าย สื่อสารได้อย่างจริงใจต่อกลุ่มเป้าหมาย
- Go Beyond Algorithm: ใช้คอนเทนต์ที่สื่อสารให้เกินกว่าที่ Algorithm สามารถทำได้ซึ่งอาศัยการคำนึงถึงแนวทางต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองค่ะ
ตัวอย่างคอนเทนต์
2. Keep Track Audience Shifted Need ตามทันความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเข้ามาของ Pendamic ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนให้แตกต่างออกไปจากเดิม โดยเฉพาะรูปแบบการทำงานที่ต้องทำงานที่บ้านมากยิ่งขึ้น ผู้คนส่วนใหญ่จึงใช้เวลาภายในบ้านกันมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้เองส่งผลต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปค่ะ การทำคอนเทนต์ในรูปแบบเดิมๆ อาจจะไม่สามารถส่งผลลัพธ์ได้เท่าเดิมอีกต่อไป ในการทำ Content Marleting จึงต้องปรับรูปแบบตามไปด้วย ดังนี้
- Up to Date Content : คอยตรวจสอบคอนเทนต์เพื่อให้แน่ใจว่ามีการอัปเดตข้อมูลที่สอดคล้องไปกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นคอนเทนต์เหล่านั้นอาจจะไม่เกิดประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายอีกต่อไป
- Voice Search & Conversational Tone : วิธีการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ตด้วยคำพูด หรือคำสั่งเสียง จากนั้นระบบการค้นหาจะใช้ AI (Artificial Intelligence) ในการประมวล Keyword เหล่านั้นเพื่อแสดงผลลัพธ์การค้นหา เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่แบรนด์ควรหันมาให้ความสำคัญเพื่อให้ตอบรับกับ Customer Experience ค่ะ
3. Create Valuable Story that match Customer Need สร้างคอนเทนต์อย่างเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภค
การนำเสนอสินค้าชนิดเดียวกันสามารถนำเสนอได้หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่ามีจุดประสงค์ที่ต้องการจะสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายใด นั่นเป็นเพราะลูกค้าที่กำลังมองหาสิ้นค้าชนิดเดียวกันแต่มีข้อจำกัดและข้อกังวลที่แตกต่างกัน การทำ Content Marketing จึงต้องอาศัยการทำความเข้าใจลูกค้าเพื่อการนำเสนอด้วย Storytelling ได้อย่างตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย โดยแนวทางในการทำ Content Marketing ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค นักการตลาดควรตอบคำถามดังต่อไปนี้
- พวกเขากำลังคิดอะไร ?
- พวกเขามีความรู้สึกอย่างไร ?
- พวกเขามีความกังวลเกี่ยวกับอะไร ?
- พวกเขามีความคาดหวังอย่างไร ?
- พวกเขามีการวางแผนสำหรับการแก้ปัญหาอย่างไร ?
- พวกเขามีความเชื่อในสิ่งใด ?
หลักจากการตอบคำถามของ Costomer Persona เหล่านี้ได้แล้ว นักการตลาดทุกท่านก็สามารถนำเสนอคอนเทนต์ด้วยหลักการ Storytelling ผ่านการทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคเพื่อสร้องคอนเทนต์ได้อย่างตรงใจกับกลุ่มเป้าหมายค่ะ
ตัวอย่างคอนเทนต์
Goal : คุณนิชาต้องการเปลี่ยนสายงานจาก Offline Marketing มาสู่ Digital Marketing เนื่องจากมีความต้องการของตลาดเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น
Problem : ยังไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นศึกษาอย่างไรบ้างจึงยังไม่ทราบว่าคอร์สเรียนแบบไหนที่จะเหมาะกับตนเอง
ตัวอย่าง Introduction ของ Copywriting : คอร์สเรียน Digital Marketing Strategy เข้าใจ Digital Marketing ‘รอบด้าน’ เพื่อการวางกลยุทธ์ที่ ‘ครบถ้วน’ ที่จะเปลี่ยนคุณนักการตลาดออนไลน์ ‘เต็มตัว’ จาก STEPS Academy
4. Focus on Click Through Rate (CTRs) ให้ความสำคัญกับยอดคลิกมายังเว็บไซต์
คนส่วนใหญ่มักไปให้ความสำคัญกับอันดับของ Search Ranking โดยลืมที่จะคำนึงถึงความสำคัญของ Click Through Rate (CTRs) หรืออัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น ควบคู่ไปด้วย แต่ในการวัดผลสำเร็จในการทำ Content Marketing นั้น นักการตลาดควรให้สำคัญเช่นเดียวกันค่ะ โดยแนวทางในการเพิ่ม CTR มีดังนี้
- Repurpose into other Media
สร้างคอนเทนต์ในเนื้อหาเดียวกันแต่หลากหลายรูปแบบ เพราะให้ตอบโจทย์กับผู้บริโภคที่มองหาคอนเทนต์แตกต่างกัน ดังเช่นข้อมูลจาก Responsive Inbound Marketing บริษัทจัดหาเครื่องมือทางการตลาดให้แก่ธุรกิจ ระบุว่า การใส่ VDO บนหน้า Landing page หรือ หน้าเว็บไซต์ที่ต้องการให้คนคลิกเข้ามา สามารถเพิ่ม Conversion ที่สามารถนำไปสู่การขายได้มากถึง 80% นั่นหมายความได้ว่า VDO ส่งผลต่อการจัดอันดับบนหน้า SERFs ด้วยเช่นเดียวกันค่ะ
เลือกใช้ Long-Tail Keyword กลุ่มคำ หรือวลีมากกว่าสองคำขึ้นไป ที่มีความเจาะจงถึงแบรนด์ สินค้า และ บริการ ตัวแคมเปญ หรือ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ และ ยอดมีการค้นหา หรือ Search Volume ค่อนข้างต่ำกว่า Keyword แบบสั้น ๆ แต่มี CTR ค่อนข้างสูงสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่จะเกิด Conversion ได้ง่ายกว่า
- Avg. Search Volume and CTR
เปรียบเทียบ Avg. Search Volume หรือ จำนวนการค้นหาโดยเฉลี่ยต่อเดือนไปพร้อมกับ CTR เพื่อวิเคราะห์หาคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิเหมาะกับการเลือกโฟกัสมากที่สุด
5. More Short form Video Content ให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอสั้น
ในช่วงปี 2021 ที่ผ่านมานี้ เราจะเห็นได้ว่ากระแสความนิยมของคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอสั้นๆ ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกระแสความฮิตนี้ได้เริ่มมาจากแพลตฟอร์มมาแรงอย่าง Tiktok ที่มียอดผู้ใช้งานแบบต่อเนื่อง (Monthly Active Users) พุ่งสูงในต้นปี 2021 อยู่ที่ 689 ล้านคน ต่อเดือน ตามมาด้วย Instagram ที่ได้ปล่อยตัวคอนเทนต์ในรูปแบบ Instagram Reels และ Youtube Shorts ตามมาค่ะ ซึ่งทั้งหมดล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของคอนเทนต์แบบวิดีโอสั้นๆ โดยแนวทางในการคอนเทนต์วิดีโอสั้นมีดังนี้ค่ะ
- Collab with Influencer :การทำคอนเทนต์โดยใช้ Influencer จะทำให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้รับชมของ Influencer ท่านนั้นๆ และจะได้รับทั้งไอเดียใหม่ๆ และ ความครีเอทีฟ ตามสไตล์ของแต่ละ Influencer
- How-to :คอนเทนต์บอกเล่าขั้นตอนหรือวิธีการต่างๆ เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่แบรนด์สามารถนำไปใช้ได้เช่นกันค่ะ พร้อมทั้งเป็นคอนเทนต์ที่สามารถสรุปเนื้อหาออกมาโดยแบ่งประเด็นสั้นๆ ให้สามารถเข้าใจวิธีการทำสิ่งต่างๆ ได้แบบง่ายๆ ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
- Educational: รูปแบบการให้ข้อมูลแบบกระชับ ได้ใจความ และ ตรงประเด็นค่ะ ซึ่งการทำคอนเทนต์ที่เน้นความรู้จะเป็นการเพิ่ม Brand Awareness และความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มเป้าหมาย ทำให้เกิดความไว้วางใจในการใช้สินค้า และ บริการ และ เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ได้ค่ะ
ตัวอย่างคอนเทนต์
@steps_academy ตัวย่อที่นักการตลาดต้องรู้ 🧐#stepsacademy #digitalmarketing #digitalmarketingtips #การตลาดออนไลน์ #tiktokแนะแนว #tiktokthailand #tiktokuniversity
6. Use more Data ใช้ Data จากเครื่องมือ Martech อย่างเป็นประโยชน์
คอนเทนต์ที่แบรนด์ใช้สื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นงานเขียนบทความ วิดีโอ รูปภาพ อัลบั้มรูปภาพ และ อื่น ๆ อีกมากมาย โดยนักการตลาดจะต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ และช่องทางที่ลูกค้าใช้บนโลกออนไลน์ เพื่อให้คอนเทนต์ของเราเกิดการรับรู้แบรนด์ และเข้าถึงได้มากที่สุด หากแบรนด์เลือกช่องทางผิด และ ทำคอนเทนต์ไม่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายก็จะทำให้คอนเทนต์เหล่านั้นได้รับ Performance ที่ไม่ตรงไปตามเป้า ซึ่งจะส่งผลถึงยอดขายด้วยเช่นกัน ซึ่งเครื่องมือ Martech จะเป็นตัวช่วยในการบอกถึงข้อมูลเชิงลึก (Insight) ของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อการวางแผนการทำ Content Marketing อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ เช่น
- Google Analytic
เครื่องมือจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเมตริกเว็บไซต์ที่สำคัญ และแสดงผลออกมาบนหน้า Dashboard โดยข้อดีของเครื่องมือนี้มีระบบที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์ Data ในระดับเชิงลึก เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าบนว็บไซต์ การปรับปรุง Conversion Rates การพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ และ การทำคอนเทนต์
- Google Search Console
ที่มา
https:// www.semrush.com