คุณรู้หรือไม่ว่าในปี 2017 มีผู้ใช้งานอินสตราแกรมทั่วโลกกว่า 800 ล้านคน และกว่า 80% เลือกกดติดตามธุรกิจบนอินสตราแกรมกันอย่างเหนียวแน่น ถึงแม้โอกาสการติดตามจะมีอยู่มาก แต่อย่าลืมว่า “ผู้ประกอบการบนอินสตราแกรมก็มีมากกว่า 25 ล้านรายเช่นกัน !!”
นอกจากความสนุกบนไอจียังมีสตางค์ซ่อนอยู่หรือที่เรียกว่า โซเชียลคอมเมิร์ซ (Social Commerce) ตอกย้ำความน่าสนใจของแพลตฟอร์มนี้ได้จากพาดหัวตัวโตบนเว็บไซต์ข่าวธุรกิจสัญชาติอเมริกัน Business Insider ว่า “It’s time for retailers to start paying close attention to social media” ถึงเวลาแล้วที่ร้านค้าปลีก เริ่มให้ความสนใจกับโซเชียลมีเดียมากขึ้น
ภายในเนื้อหาข่าว คอปเปอร์ สมิธ (Cooper Smith) จาก BI Intelligence ระบุไว้ในปี 2016 บนเว็บไซต์ Business Insider ว่า “แม้ว่าส่วนแบ่งยอดขายในโซเชียลคอมเมิร์ซจะยังมีไม่มาก แต่นี่เป็นเทรนด์ที่น่าสนใจ และผู้ประกอบการไม่ควรละเลยช่องทางนี้ เนื่องจากผู้คนใช้โซเชียลมากขึ้น และช่องทางเหล่านี้สามารถสร้างแบรนด์ และผลักดันยอดขายได้ เช่น อินสตราแกรมมีการเพิ่มปุ่มกดซื้อชำระเงินได้ทันที ปุ่มกดดาวน์โหลด หรือกดเรียนรู้เพิ่มใต้โพสต์ เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ หรือเพิ่มยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันร้านค้าปลีกได้อีกด้วย”
แล้วธุรกิจอะไรล่ะ ? ควรลงมือทำแพลตฟอร์มอินสตาแกรมหรือไอจี STEPS Academy ขอให้คำตอบว่า “แพลตฟอร์มไอจีเหมาะสำหรับทุกธุรกิจ” ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจอาหาร, ธุรกิจแฟชั่น, ธุรกิจความสวยงามความ, ธุรกิจท่องเที่ยว, ธุรกิจรถยนต์, ธุรกิจประกันภัย หรือธุรกิจเพื่อการศึกษา และธุรกิจอื่น ๆ ที่ต้องการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ นำเสนอเรื่องราว สินค้า บริการและผลิตภัณฑ์ดี ๆ สู่สายตาชาวเน็ต ใช้เป็นหน้าร้านหรือใช้เป็นพื้นที่ประชาสัมพันธ์แคมเปญการตลาด Digital Marketing ก็ได้ บนเป้าหมายหลัก คือ สร้างแรงบันดาลใจ จากภาพสวย ๆ คลิปวิดีโอสวยงาม สานสัมพันธ์ที่ดีกันไปยาว ๆ
นอกจากความน่าสนใจของแพลตฟอร์มขายของบนไอจี สำหรับบทความนี้ STEPS Academy หยิบยก 7 เทคนิคสร้างยอดขายบนอินสตาแกรม (Instagram) หรือไอจี (IG) ฉบับเบื้องต้น มาบอกเล่าให้คุณฟังฉบับเบื้องต้น ดังนี้
ภาพจาก https://entrepreneur.com/content/3×2/1300/20160621172231-instagram-mobile-smartphone-social-networking-iphone.jpeg
1. ความน่าเชื่อถือ ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง
เรียกได้ว่า การมาของแพลตฟอร์มออนไลน์โซเชียลคอมเมิร์ซ (Social Commerce) ช่วยพลิกโฉมการค้าปลีกไปโดยปริยาย ถึงการเปิดร้านออนไลน์จะฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และดูเป็นเรื่องง่ายที่ใครก็ทำได้ แต่จะทำได้ดีคงจะต้องใช้เวลา พร้อมกับความเข้าใจที่ถูกต้องเพื่อเนรมิตร้านค้าเสมือนในโลกดิจิทัลให้มีชีวิตชีวาน่าซื้อ น่าติดตาม ราวกับร้านค้าปลีกออฟไลน์หรือห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
การที่ร้านค้าออนไลน์จะยืนหยัดบนแพลตฟอร์มร้านค้าบนมือถือท่ามกลางคู่แข่งมากมาย สร้างยอดขายต่อเนื่อง และมีชุมชนฐานแฟนคลับมีผู้ติดตาม จะต้องเริ่มสร้างโปรไฟล์ร้านค้าบนอินสตราแกรมให้มีความน่าเชื่อถือ น่าซื้อ และมีตัวตนอยู่จริง นี่เป็นป้อมปราการด่านแรกที่ธุรกิจคุณจะต้องมี พร้อมกันนี้แบรนด์ธุรกิจต้องชัดเจน โดดเด่น เห็นแล้วต้องจำได้ จำง่าย รับรู้ทันทีว่า “ร้านนี้ขายอะไร” ตอบได้ทันทีแบบลูกค้าไม่ต้องเดาต่อ
หรือตั้งชื่อ IG ตรงตามสินค้าที่วางเป๊ะ ๆ แบบไม่ให้ลูกค้าต้องเสี่ยงทายเลย เช่น “ร้านลิปสติก ฟรุ้งฟริ้ง สีติดทนนาน, ขายกระเป๋าหนัง ถือแล้วเก๋ไก๊เลิศเวอร์” มองในแง่มุมลูกค้า เมื่อพบกับร้านค้าไอจีที่มีชื่อแบบนี้ ถ้าจะซื้อสินค้าก็คงรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ และต้องใช้เวลาตัดสินใจอยู่พักใหญ่
เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาเช็คลิสต์สิ่งที่ร้านค้าบน Instagram Business ควรมีเพื่อสร้างความน่าเชือถือและความเป็นมืออาชีพให้กับร้านของคุณมีอะไรบ้าง เราสรุปคร่าว ๆ ไว้ให้แล้ว
- ชื่อบัญชีเป็นทางการ ชัดเจน เข้าใจง่าย เพราะการตั้งชื่อบัญชีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้ลูกค้าค้นหาง่าย และเข้าใจได้ทันทีว่าจำหน่ายสินค้าและบริการหรืออะไร ไม่ควรตั้งชื่อบัญชีที่เข้าใจยาก หรือยาวจนเกินไป
- ภาพโปรไฟล์ต้องเชื่อมโยงกับแบรนด์สินค้า ธุรกิจส่วนใหญ่นิยมใช้โลโก้แบรนด์เป็นภาพโปรไฟล์ สร้างความจดจำให้กับลูกค้าแบบเบื้องต้น
- คำอธิบายในส่วนโปรไฟล์ต้องครอบคลุมภายใน 150 ตัวอักษร คุณควรกรอกข้อมูลให้กระชับได้ใจความเล่าให้ตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม แถมด้วยช่องทางติดต่อเพิ่มเติม เช่น มีลิงก์เว็บไซต์หลัก, ไลน์แอท (Line@) และเบอร์โทรระบุไปด้วยจะดีมาก
หากเช็คลิสต์คร่าว ๆ แล้ว พบว่าร้านค้าในไอจีของคุณมีไม่ครบ หรือขาดตกบกพร่องข้อใดไป รีบแก้ไขใหม่ตอนนี้ก็ยังทัน !!!
ยกตัวอย่าง: Pomelo (@pomelofashion)
ภาพจาก https://www.instagram.com/pomelofashion/
ชื่อบัญชี IG : pomelofashion ชัดเจนว่าจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับแฟชั่น
คำบรรยายในส่วน Profile IG : Pomelo Fashion born in Asia. On trend. Online.
อธิบายประวัติความเป็นมาว่าเป็นแฟชั่นที่ก่อกำเนิดในทวีปเอเชีย เป็นแฟชั่นนำสมัย บนสื่อออนไลน์
ภาพโปรไฟล์ : ชัดเจน ตรงตัวด้วยตัวหนังสือ Pomelo
ข้อมูลเพิ่มเติม : มีลิงก์ Website ให้เลือกซื้อสินค้า www.pomelofashion.com , แฮชแท็ก #IAMPOMELO ตามด้วยลิงก์แนะนำให้เลือกซื้อสินค้า Summer Collection ใหม่ล่าสุด: Landing Page นำไปสู่เว็บไซต์หลักของ Pomelo มีส่วนลด 20-30% และโค้ดให้เลือกใช้งานตามการจับจ่าย
น่าเรียนรู้: หน้า IG ดังกล่าวได้สร้างลิงก์ UTM tags เพื่อทำการวัด Traffic (ปริมาณการเข้าเว็บไซต์) อยู่ด้วย (ตัวอย่าง) https://www.pomelofashion.com/global/features/spring-sale/?utm_source=IG&utm_medium=bio&utm_campaign=springsale-apr3&p=2
ปัจจุบันมียอดผู้เข้าชม Instagram 260,800 ราย (ไตรมาส 1/2018) อ้างอิงข้อมูลจาก iprice insights
ภาพจาก https://www.pomelofashion.com/global/features/spring-sale/?utm_source=IG&utm_medium=bio&utm_campaign=springsale-apr3&p=2
(ข้อมูลวันที่ 19/04/2018)
2. ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ เล่าเรื่องผ่านภาพได้
หากพูดถึงแอปพลิเคชัน Instagram สิ่งแรกที่นึกถึงคงหนีไม่พ้นรูปภาพสวย ๆ ที่จุดประกายไอเดีย สร้างแรงบันดาลใจให้กับชีวิต ดังนั้น การให้ข้อมูลสินค้าและบริการ หรือธุรกิจของคุณมากขึ้นจะต้องครีเอทผลงานที่ดีที่สุด ตราตรึงใจเลือกภาพที่เยี่ยมที่สุด สะกดสายตาตั้งแต่วินาทีแรกที่ลูกค้าพบโพสต์เราบนไอจี เรียกยอดไลค์ (Like) และเพิ่มยอดผู้ติดตาม (Follower) เพื่อยอดขายในลำดับต่อไป
แต่คุณอย่าลืมว่าลูกค้าในอินสตราแกรมถึงจะมีจำนวนมาก พวกเขาก็สามารถเลือกสิ่งที่สนใจได้ พร้อมกับเพิกเฉยสิ่งที่ไม่ชอบได้เช่นเดียวกัน
ก่อนลงมือสร้างคอนเทนต์คุณภาพเยี่ยมไว้ป่าวประกาศให้ชาวไอจีได้รับรู้ คุณจะต้องเป็น ‘นักเล่าเรื่องที่ดี’ ค้นหาเรื่องราวแบรนด์ และมีเรื่องให้เล่าต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องผลิตภัณฑ์และบริการของธุรกิจคุณ หากคิดไม่ออกไม่รู้จะสร้างตัวตนอย่างไร ลองหาคำตอบจาก 2 คำถามเบื้องต้นที่ STEPS Academy เตรียมไว้ให้ดูสิ
| คำถามที่ 1 | คุณต้องการให้ลูกค้าจำธุรกิจคุณแบบไหน ?
เช่น สนุกสนาน, มีความสุข, อบอุ่น, เป็นมิตร ฯลฯ |
| คำถามที่ 2 | คุณต้องการถ่ายทอดเรื่องราวอะไรให้ลูกค้า ?
เช่น ประวัติความเป็นมา, คุณสมบัติสินค้า, ความพิเศษของผลิตภัณฑ์และบริการ หรืออื่น ๆ |
เมื่อได้คำตอบของคุณแล้ว มาเริ่มออกแบบ Signature Look ให้คาแรคเตอร์ธุรกิจให้สอดคล้องกับ Mood & Tone โทนสีบ่งบอกความเป็นแบรนด์ หาสไตล์การเล่าเรื่อง รวมทั้งใช้ภาษาที่ทำให้ลูกค้าปลื้ม หากคุณยังไม่มีไอเดีย ทาง Instagram Business แนะนำมือใหม่หัดขายไว้ว่า
- การสร้างแบรนด์ร้านค้าบนไอจีต้องมีความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนจนเกินไป
- ต้องมีความรักและความใส่ใจในการทำโฆษณา มุ่งเน้นสร้างแรงบันดาลใจ
- บอกเล่าเรื่องราวให้สนับสนุนเป้าหมายและผลิตภัณฑ์
- สร้างสรรค์ผลงานโฆษณาภาพถ่ายและวิดีโอที่มีคุณภาพ สวยงาม ข้อมูลครบครัน บ่งบอกความเป็นแบรนด์อย่างแท้จริง
- ทุกรูปภาพ และวิดีโอที่โพสต์ลงไอจีจะต้องมีโลโก้ทุกครั้ง
- หากธุรกิจของคุณมีหน้าร้าน ตอนโพสต์ก็สามารถปักหมุดโลเคชันร้านได้เช่นกัน
จำไว้ว่า กฎหลักที่จะทำให้ธุรกิจร้านค้าบนไอจีเติบโตได้ คือ คุณต้องเล่าเรื่องราวอย่างต่อเนื่อง เช่น การนำเสนอความเคลื่อนไหวล่าสุดของธุรกิจและสินค้า, พรีเซนต์สินค้าใหม่, ถ่ายภาพสินค้าในมุมมองต่าง ๆ ที่หลากหลาย, ภาพเบื้องหลังการผลิตหรืออื่น ๆ รวมทั้งการนำเสนอเรื่องราวที่ตามกระแสสอดคล้องกับแบรนด์ เช่นเดียวกับโฆษณาคลิปวิดีโอล้อเลียนนักมายากลชื่อดัง หวังแนะนำช่องทางอีคอมเมิร์ซซื้อขายออนไลน์น้องใหม่ให้แตกต่างอย่าง Bukalapak (@bukalapak) จากอินโดนีเซีย ที่ปล่อยโฆษณาชุดนี้ผ่าน IG สามารถเข้าถึงคนอินโดนีเซียได้ถึง 31 ล้านรายภายใน 16 วัน
คลิปตัวอย่างโฆษณา:
ปัจจุบัน Bukalapak ยังคงคอนเซปต์ความเป็นแบรนด์จากอินโดนีเซีย พร้อมกับโลโก้ BL โทนสีแดงชมพูที่จำง่ายไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ด้วยมียอด Follower IG ติดตาม 263,000 ราย (เก็บข้อมูลวันที่: 20/24/2018)
ภาพจาก https://www.instagram.com/bukalapak/
โพสต์ IG ช่วงเวลาไหนเวิร์ค
คุณอาจจะเลือกเวลาที่เหมาะสมในการโพสต์ลงไอจี ผ่านการพิจารณาข้อมูล Instagram’s Insights ในแอปพลิเคชันว่ามีช่วงใดมีผู้เข้าชมเพจสูงสุด หรือเลือกโพสต์ช่วงที่คนว่าง หรือเดินทางกลับถึงบ้าน
หากให้เจาะลึกข้อมูลลงไปอีกเวลาที่เหมาะสมจะโพสต์ภาพลงในไอจี แบ่งออกเป็น 3 ช่วง ดังนี้
- ช่วงเช้า 07.00 – 09.00 น. เวลาตื่นนอน ชาวเน็ตอาจเช็คข้อมูลก่อนเริ่มวันใหม่เล็กน้อย
- ช่วงเที่ยง 11.00 – 14.00 น. เป็นช่วงเวลาหยุดพักผ่อน และเล่นโซเชียล
- ช่วงเย็น 17.00 – 19.00 น. เลิกเรียนและเลิกงาน เป็นช่วงเวลาผ่อนคลายที่สุด
- ส่วนการโพสต์คลิปควรเลือกเวลาเลิกงาน/หลังเลิกเรียน ช่วงค่ำ ๆ เนื่องจากผู้คนถึงบ้าน และดูคลิปวิดีโอได้อย่างจุใจด้วยอินเทอร์เน็ต Wifi
สำหรับช่วงเวลาข้างต้นเป็นเพียงไอเดียคร่าว ๆ เท่านั้น เนื่องจากเวลาที่ดีในโพสต์ IG ร้านค้า คุณควรเป็นผู้กำหนดเอง จากข้อมูลที่มีในระบบจะแม่นยำกว่า จงจำไว้ว่าการขายของบนไอจีคุณควรเล่าเรื่องราวเรื่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ ห้ามโพสต์พร่ำเพรื่อเกินความจำเป็น ควรโพสต์วันละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอ
3. เข้าใจไลฟ์สไตล์ลูกค้า
เมื่อออกแบบคาแรคเตอร์ มีเรื่องเล่าที่เป็นสไตล์ของคุณแล้ว คงไม่เวิร์คแน่ ๆ หากเราเล่าเรื่องราวธุรกิจบนไอจีแต่ไม่มีใครสนใจ หรือไม่มีการตอบรับจากลูกค้า
สำหรับเทคนิคข้อนี้ขั้นตอนนี้ STEPS Academy ขอแนะนำการสร้างชุมชนให้กับร้านค้าในไอจีให้เข้าถึงใจลูกค้า โดยผู้ประกอบการจะต้องวิเคราะห์ Customer Persona หรือทำความรู้จักพฤติกรรมผู้บริโภค หรือกลุ่มลูกค้าที่แท้จริงร่วมไปด้วย เพื่อเฟ้นหาคอนเทนต์รวมทั้งการโฆษณาลงไอจีให้ถูกใจนั้นเอง
ใกล้ชิดลูกค้า ด้วยคำถาม 3W1H
หากจับต้นชนปลายไม่ถูก มาเริ่มจากการวิเคราะห์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย (Target) ของเราจากข้อมูลพื้นฐานเช่น เพศ, นิสัย, อาชีพ, ช่วงรายได้, ความคิดเป้าหมายการใช้ชีวิต หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต ฯลฯ หรือจะลองใช้คำถามหลัก 3W1H หาคำตอบ Customer Persona ก็ได้
- Who ลูกค้าของเราคือใคร
- What ลูกค้ามองหาอะไร เช่น เป้าหมายชีวิต
- Why ทำไมลูกค้าต้องซื้อสินค้าและบริการจากเรา
- How ลูกค้าพบเราได้อย่างไร มีวิธีการซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางไหน เป็นต้น
สำหรับผู้อ่านที่สนใจการเข้าใจลูกค้าออนไลน์มากยิ่งขึ้น สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่บทความ Customer Personas : ทำความรู้จักตัวตนของลูกค้าคุณ แน่นอนว่า หลังจากได้คำตอบคุณจะเห็นภาพธุรกิจชัดเจนขึ้น นำไปสู่การสร้างธีมแบบฉบับของคุณที่เล่าเรื่องแบรนด์ตรงกับสิ่งที่ลูกค้ามองหา เลือกเครื่องมือให้เหมาะสม นำเสนอให้หลากหลายไม่ซ้ำซากจำเจ เช่น รูปภาพ แสงต้องสวย, คลิปวิดีโอ ไม่ยาวเกินไป, ถ่ายทอดสดผ่าน Instagram Live และ Instagram Story ฯลฯ
4. คำบรรยายต้องครบถ้วน งาน #Hashtag ต้องมา
เพราะไอจีไม่ต่างจากนิตยสารเคลื่อนที่ย้ายจากกระดาษมาอยู่ในสมาร์ทโฟนแทน นอกจากรูปสวย จัดองค์ประกอบเป๊ะแล้ว STEPS Academy ขอย้ำเลยว่า แคปชันจะต้องเด็ดสะกดชาวเน็ตให้ได้!!!
กล่าวคือคำบรรยายบนอินสตราแกรมจะเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการแบบตรง ๆ ระบุราคาและรายละเอียดเพิ่มเติมลงไปด้วย พร้อมกับมี #Hashtag (แฮชแท็ก) เข้ากับคำบรรยาย และสร้างแฮชแท็กของธุรกิจคุณด้วย เพื่อให้การค้นหาข้อมูลบนหน้า Feed ง่ายขึ้น หากคอนเทนต์ดีโดนใจ อาจเพิ่มจำนวนผู้ติดตาม (Follower) และเปลี่ยนคนเหล่านี้ให้กลายเป็นยอดขายได้ในขั้นถัดไป
ภายใต้โจทย์หลักที่ว่า “แคปชันต้องมีรายละเอียดครบถ้วน ไม่ควรยาวเหยียด และอย่าใช้แฮชแท็กสิ้นเปลือง” เพราะคุณมีโอกาสเล่าเรื่องให้ลูกค้าอยากอ่านต่อ ผ่านประโยคเพียง 2-3 บรรทัดเท่านั้น คำถาม หรือโปรโมชันก็ได้ ช่างเป็นภารกิจที่ท้าทายสุด ๆ สำหรับการเขียนคำบรรยายให้โดนใจ และเคล็ดลับการหาแฮชแท็กฮิตให้เหมาะกับธุรกิจดิจิทัลบน Instagram หาอย่างไร ผู้เขียนจะมาบอกเล่าตอนถัดไป
ตัวอย่าง Lays (@lays) ขนมมันฝรั่งทอดเลย์ที่หันมาใช้ไอจีประชาสัมพันธ์รสชาติใหม่ แคมเปญการตลาดสลับกับเฟซบุ๊ก โดยชุดโฆษณา 4 คลิป กระตุ้นให้ผู้คนลงคะแนนให้รสใหม่ที่ชอบ มีการเข้าถึงเพิ่มขึ้น 5% และค่าใช้จ่ายลดลงถึง 3% เมื่อเทียบกับเฟซบุ๊ก
ภาพจาก https://business.instagram.com/success/lays/
เรียนรู้ความสำเร็จที่แคปชันขนมเลย์:
“The best way to chip in for that barbecue on the beach! #Lays #SpringBreak”
ภาพจาก https://www.instagram.com/p/Bgy-Pw2ABDE/?taken-by=lays
น่าเรียนรู้: ออกแนวชักชวนให้ผู้ติดตามและเพื่อน ๆ ลิ้มลองเลย์รสชาติบาบีคิวริมชายหาดด้วยการแชร์กันซื้อ แบ่งปันกันทานถึงจะอร่อยที่สุด โฆษณาสินค้ารสชาติ Barbecue ของเลย์ ใช้แฮชแท็กเล่นกับฤดูกาล Spring Break เป็นช่วงวันที่วัยรุ่นอเมริกันปิดเทอม #SpringBreak มีผู้ใช้งานมากถึง 8.3 ล้านโพสต์เชียว สุดท้ายเลย์ไม่ลืม #Lays แบรนด์ของตน เรียกได้ว่าสั้น ๆ ง่าย ๆ ได้ใจ
ภาพจาก https://www.instagram.com/explore/tags/springbreak/
5. ดูแลลูกค้าให้มากกว่า “การฝากร้าน”
“ฝากร้านหน่อยจ้า” เรามักจะเห็นการโปรโมทร้านด้วยวิธีการอยู่บ่อยครั้ง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการเข้าถึงลูกค้าด้วยการตามคอมเมนต์ในไอจีดารา หรือไอจีคนดัง ถ้าขืนยังฝืนทำเช่นนี้ บอกเลยว่า “มีแต่พังกับพัง” และไม่ใช่เรื่องดีกับร้านค้าไอจีของคุณแน่นอน
ลองเปลี่ยนเป็นการดูแลให้มากขึ้น เช่น แนะนำสินค้าที่เหมาะสมกับลูกค้า มอบบริการต้องดีเลิศอย่าปล่อยให้ลูกค้ารอนาน รวมทั้งตอบคำถามคาใจเกี่ยวกับสินค้าและผลิตภัณฑ์ของเรา แนะนำการใช้งาน และพร้อมรับออเดอร์อยู่เสมอ
และเตรียมบริการหลังการขาย สร้างความประทับใจด้วยการแจกส่วนลดมีลูกเล่นน่าติดตาม เช่น โพสต์ส่วนลด โปรโมชันพิเศษ หรือโค้ดส่วนลดสินค้าให้แฟนคลับตัวจริงลงใน Instagram Stories ที่กำหนดเวลา 24 ชั่วโมง สร้างความต่อเนื่องในการติดตาม และเพิ่มยอดขายได้ด้วย
6. โปรโมทร้านใน IG ให้ครบครันทุกช่องทาง
ไม่ใช่ว่าช่องทางอินสตราแกรมไม่ดี การพีงพาเพียงช่องทางเดียวอาจทำให้ไม่เห็นผลเท่าที่ควร อย่างที่เราทราบว่า เมื่อปี 2012 เฟซบุ๊กซื้ออินสตราแกรมด้วยราคา 1,000 ล้านดอลลาร์ ดังนั้น การโปรโมทให้ครอบคลุมทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Tumblr, Pinterest เป็นต้น
ภาพจาก https://blog.kissmetrics.com/social-media-measurement/
การเชื่อมต่อบนช่องทางโซเชียลทุกรูปแบบให้ชาวเน็ตรู้จักร้านค้าบนไอจีของคุณก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย รวมทั้งช่องทางออฟไลน์ด้วยก็ได้ เพื่อติดปีกให้ธุรกิจดิจิทัลออนไลน์ไปได้ไกลกว่าที่คุณคิด
7. การซื้อสินค้าและบริการต้องเป็นเรื่องง่าย
เล่าเรื่องการโพสต์รูปเล่าเรื่อง โพสต์เล่าแบรนด์ธุรกิจในไอจีแล้ว มาถึงขั้นตอนลูกค้าอยากซื้อต้องได้ซื้อ !! แบบ One Stop Servies ให้ช้อปได้ฟินแบบไร้รอยต่อกับฟีเจอร์ Shoppable Posts ให้เพิ่ม Shopping Bag ลงใน IG เพิ่มป๊อปอัพไอคอนถุงช้อปปิ้งจิ๋วสีขาวให้ลูกค้า แตะดูรายละเอียดเพิ่มเติม กดซื้อได้ทันทีเมื่อถูกใจไม่ต้องสลับแอปพลิเคชันไปมา แต่จะเพิ่มฟีเจอร์นี้ได้คุณจะต้องมีบัญชี Shopify และบัญชีเฟซบุ๊กด้วย
ตัวอย่าง Kate Spade New York (@katespadeny) ภาพกระเป๋าสีชมพู Cameron Street Lane กดไปจะพบกับรายละเอียด ราคากระเป๋า และราคาแอสเซสเซอรี่ที่อาจต้องซื้อเพิ่ม เมื่อกดไปจะเจอกับ ปุ่ม Shop Now หากคุณถูกใจก็คลิก และไปเจอหน้าซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ Kate Spade ทันทีล่ะ
ภาพจาก https://www.allure.com/story/instagram-shop-now-feature
ลองซื้อโฆษณาดูไหม
หากการทิ้งลิงก์เว็บไซต์ไว้ใต้แคปชัน หรือแจกลิงก์พร้อมกับฟีเจอร์ Instagram Story แต่ยังไม่ได้ผลลัพธ์เท่าที่ควร!!! คุณอาจเลือกลดความซ้ำซ้อน ด้วยการใช้เครื่องมือ ซื้อโฆษณากับอินสตาแกรม (Instagram Ads) โดยมีทางเลือกดังนี้
- โฆษณารูปภาพ (Photo Ads) ภาพนิ่งเดี่ยว ๆ โฆษณาชัดเจนในโพสต์เดียว
- โฆษณาวิดีโอ (Video Ads) กำหนดความยาวสูงสุดไม่เกิน 1 นาที
- โฆษณาภาพสไลด์ (Carousel Ads) สามารถเลื่อนดูภาพและวิดีโอได้ครบภายในโพสต์เดียว
- โฆษณาเรื่องราว (Stories Ads) จะเป็นภาพนิ่ง เคลื่อนไหว คลิปวิดีโอ (ความยาวไม่เกิน 15 วินาที) ส่วนใหญ่มุ่งเน้นสร้าง Conversion ทันทีทันใด
สำหรับขั้นตอนการลงโฆษณาบนไอจีจะต้องซื้อผ่านเฟซบุ๊กเท่านั้น ถือเป็นไฟท์บังคับที่ร้านค้าในอินสตาแกรมจะต้องมีเพจบนเฟซบุ๊กด้วย คุณถึงจะซื้อโฆษณา Instagram Ads ได้ !!!
ตัวอย่างการซื้อโฆษณาไอจีจาก Audible (@audible_com)
ภาพจาก https://thrivehive.com/examples-instagram-ads/
Call to Action: Listen Now
เป้าหมาย: ชักชวนให้มีการกดเรียนรู้เพิ่มเติม โดยแจกหนังสือเสียงฟรี 4 เล่มให้ทดลอง ถ้าชอบค่อยซื้อ
น่าเรียนรู้: ในแคมเปญเดียวกัน Audible เลือกใช้คำบรรยายเดียว แต่เปลี่ยนภาพ
“Life changing listens from Audible! Insightful audiobooks on conquering anxiety and overthinking. Try Audible with a FREE audiobook of your choice!”
การเลือกอธิบายตรง ๆ ไม่อ้อมค้อมเน้นให้คนมีส่วนร่วมไปเลยว่า “Life changing listens from Audible! ฟังแล้วชีวิตเปลี่ยน ลองเลือกดูหนังสือเสียง (Audiobook) ดูสิ แถมเน้นคำว่า FREE กระตุ้นให้คนสนใจตัวโต ๆ อีกต่างหาก
Instagram Ads ไม่ได้มีแค่ปุ่ม Listen Now
การโฆษณายังถึงใจได้อีก ด้วยแถบปุ่มกด Call to Action สีฟ้าสดใสในตัวโฆษณาและเลือกต่อได้อีกทั้ง ปุ่ม Shop Now, Learn More, Sign Up, Book Now หรือ Listen Now ฯลฯ เพื่อใช้สร้างคอนเวอร์ชั่น (Conversion) ให้คนรับรู้ทันทีทันใดว่า “แบรนด์คุณต้องการดำเนินการอะไรกับโพสต์” ดังกล่าว
ทั้งหมดนี้ เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยลดขั้นตอนการซื้อสินค้าและบริการ ช่วยให้ธุรกิจในโลกดิจิทัลปิดยอดขายได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้ง เพิ่มยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน หรือสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างลูกค้าและร้านค้าได้เป็นอย่างดี
ก่อนทุ่มงบซื้อโฆษณาคุณจะต้องศึกษากลุ่มเป้าหมายให้ดี ระวังอย่าใส่ลิงก์ Landing Page ที่ยุ่งยากจนลูกค้าเกิดความสับสน หรือเสียเวลาโหลดนาน แทนที่จ่ายเงินซื้อ Instagram Ads จะสร้างยอดขาย อาจกลับกลายเป็นสร้างความรำคาญใจแทนได้
เป็นอย่างไรบ้าง 7 เทคนิคการขายของใน IG ให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าฉบับเบื้องต้น ถ้าเริ่มได้ไอเดียแล้ว ก็ลุยได้เลย !!!
Kanokwan Chantorn
Content Team (STEPS ACADEMY)
แหล่งข้อมูล:
http://www.businessinsider.com/social-commerce-2015-report-2016-4-1
https://stepstraining.co/social/instagram-marketing-2
https://business.instagram.com/
https://business.instagram.com/blog/improve-direct-response-ads/
https://www.facebook.com/business/e/instagram-business/tips-for-advertising
https://www.cio.com/article/3187172/e-commerce/11-ways-to-sell-on-instagram.html
https://blog.wishpond.com/post/115675437315/how-to-sell-on-instagram
https://www.socialmediaexaminer.com/6-tools-for-selling-products-on-instagram/
https://www.socialmediaexaminer.com/5-tips-for-selling-products-on-instagram/
https://www.lifewire.com/best-time-of-day-to-instagram-3485858
http://theinspirededitorial.com/instagram-ads/
https://aggregateblog.com/instagram-ad-examples/
https://business.instagram.com/advertising/
https://www.wordstream.com/blog/ws/2017/05/22/best-instagram-ads
https://thrivehive.com/examples-instagram-ads/
https://business.instagram.com/success/lays/
https://www.socialmediaexaminer.com/instagram-shoppable-posts-shopping-on-instagram/
