ความโดดเด่นของแอพพลิเคชั่น TikTok นั่นก็คือ คอนเทนต์ประเภทความสนุกสนาน ความตลก เสียงเพลง และ ชาเลจน์ต่างๆ มากมาย คอนเทนต์บน TikTok เป็นคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอสั้นๆ ที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ และ ความแปลกใหม่ในการดึงดูดผู้รับชม
จากสถิติของ DataReportal เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลด้านดิจิทัล พบว่าในต้นปี 2021 Tiktok มียอดผู้ใช้งานแบบต่อเนื่อง (Monthly Active Users) อยู่ที่ 689 ล้านคน ต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก และ ผู้ใช้งานส่วนใหญ่มีอายุอยู่ระหว่าง 18 – 34 ปี ทำให้หลายแบรนด์ที่ต้องการเข้าไปเจาะกลุ่มลูกค้าดังกล่าว ตัดสินใจเข้าไปทำการตลาดบน Tiktok กันมากขึ้น งั้นก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าค่ะว่า Tiktok เหมาะกับทุกธุรกิจแบบไหน
แล้วTiktokเหมาะกับทุกธุรกิจหรือไม่
จำนวนผู้ใช้งานบน Tiktok ที่มีตัวเลขเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และ ไม่ได้เป็นเพียงกระแสแค่ชั่วคราวเท่านั้น เพราะด้วยพื้นฐานของแอพพลิเคชั่นที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์ที่ให้ความสนุกสนาน จึงเป็นพื้นที่ที่สามารถใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไป และ สามารถสร้างแทรนด์ใหม่ๆ ออกมาได้อย่างไม่รู้จบ
หลายท่านคงเริ่มสงสัยกันแล้วใช่ไหมคะ ว่าแพลตฟอร์มมาแรงอย่าง Tiktok เหมาะกับธุรกิจประเภทไหนบ้าง ผู้เขียนได้สรุปประเด็นที่แสดงให้เห็นว่า Tiktok เหมาะกับธุรกิจประเภทไหนมาให้ดังนี้ค่ะ
- เป็นธุรกิจที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ในช่วงอายุประมาณ 16 – 30 ปี
- มีความต้องการเพิ่ม Brand awareness หรือ ความเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น
- สามารถอธิบายสินค้าหรือบริการให้สามารถอยู่ในรูปแบบวีดีโอในระยะเวลาสั้นๆ ได้
- เป็นธุรกิจที่มีความเหมาะสมกับคอนเทนต์ประเภทให้ความสนุกสนาน หรือ คอนเทนต์ในเชิงบวก
- เป็นธุรกิจที่ต้องการทดลองสิ่งใหม่ๆ และ สนุกไปกับการทำเทรนด์ใหม่ๆ บนแพลตฟอร์ม
- สามารถให้เวลากับการทดลองคอนเทนต์ใหม่ๆ และ ทดลองแพลตฟอร์มได้
หากท่านใดอยากเริ่มทำคอนเทนต์ลงบน TikTok ทาง STEPS Academy ได้เข้าร่วมกิจกรรม Tiktok Agency Bootcamp และ ได้รวบรวมเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับวิดีโอบน TikTok มาฝากกันค่ะ
7 เทคนิค สำหรับไอเดียทำคอนเทนต์บน TikTok
1. สร้างแฮชแท็กชาเลนจ์ของแบรนด์
ในหลายแพลตฟอร์ม แฮชแท็กเป็นเพียงเครื่องมือในการแยกประเภทของคอนเทนต์นั้นๆ ผ่านการเสิร์ช แต่ใน Tiktok เราสามารถสร้างแฮชแท็กขึ้นมาเพื่อเป็นชาเลนจ์ให้คนอื่นๆ มีส่วนร่วมไปกับเราได้ ชาเลนจ์ ที่สร้างขึ้นมาจะเกี่ยวกับอะไรก็ได้ค่ะ แค่อย่าลืมใส่ความสนุก และ สามารถทำตามได้ง่าย เพื่อให้คนมีส่วนร่วมกับเรา และ จะทำให้สามารถโปรโมทแบรนด์หรือสินค้าของคุณไปในตัวด้วยค่ะ
ตัวอย่าง แฮชแท็ก ชาเลนจ์ที่เป็นที่นิยมในขณะนี้คือ #กักตัวChallenge ที่มียอดวิวรวมสูงถึง 17.2 ล้านวิวค่ะ เป็นชาเลนจ์ท่าเต้นง่ายๆ ประกอบเพลงกักตัว ที่สามารถชวนแฟนหรือเพื่อนมาเต้นไปด้วยกันได้ ซึ่งเป็นการโปรโมทเพลงกักตัวของ วี วิโอเลต ไปด้วยนั่นเองค่ะ
@ningarisaaกักตัวแบบนี้มาเล่นแมวที่ห้องมั้ย😳🔥 #กักตัวChallenge♬ กักตัว – Dance Challenge – Violette Wautier
ในส่วนของขั้นตอนการสร้างแฮชแท็กชาเลนจ์ สามารถทำได้โดย โพสต์คลิปวิดีโอที่ต้องการชาเลนจ์ จากนั้นติดแฮชแท็ก ไว้ในคำบรรยายของวิดีโอ เพียงเท่านี้ก็จะเป็นการสร้างแฮชแท็กชาเลนจ์ให้ผู้รับชมสามารถเข้ามาร่วมสนุกด้วยกันได้แล้วค่ะ
2. ทำคอนเทนต์ให้ความรู้
หลายท่านอาจคิดว่าคอนเทนต์บน TikTok มีแค่รูปแบบตลก ให้ความสนุกสนาน ไม่จริงจังมากนักใช่ไหมคะ แต่จริงๆ แล้วบน TikTok ก็มีคอนเทนต์ให้ความรู้เช่นกันค่ะ แต่เป็นรูปแบบการให้ข้อมูลแบบกระชับ ได้ใจความ และ ตรงประเด็นค่ะ เพราะในหลายแอคเคาท์ดังบน TikTok กลับเป็นคุณหมอที่มาให้ข้อมูลต่างๆ ทางการแพทย์ ซึ่งการทำคอนเทนต์ที่เน้นความรู้จะเป็นการเพิ่ม Brand Awareness และความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มเป้าหมาย ทำให้เกิดความไว้วางใจในการใช้สินค้า และ บริการ และ เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ได้ค่ะ
@mamadoctorjonesExtra Uterus? #medicalfacts♬ original sound – Mama Doctor Jones
3. ร่วมมือกับ Influencer
อีกหนึ่งเทคนิคที่หลายแบรนด์เอาไปใช้คือ การร่วมมือกับ Influencer ค่ะ การทำคอนเทนต์โดยใช้ Influencer จะทำให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้รับชมของ Influencer ท่านนั้นๆ และจะได้รับทั้งไอเดียใหม่ๆ และ ความครีเอทีฟ ตามสไตล์ของแต่ละ Influencer นั่นเองค่ะ
แต่ถึงอย่างไรก็ตามการร่วมมือกับ Influencer ไม่ใช่เพียงการเลือกจากผู้ที่มีผู้ติดตามเยอะๆ เพื่อให้สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้นอย่างเดียวนะคะ แต่ในการเลือกใช้ Influencer มีเทคนิคดังนี้ค่ะ
-
- หา Influencer ที่เหมาะกับแบรนด์ เพราะ Influencer ที่คุณเลือกจะต้องเป็นคนที่สามารถแสดงความเป็นแบรนด์ของคุณได้ดี
- ไม่กำหนดกรอบของงานจนเกินไป การกำหนดกรอบของงานมากเกินพอดีจะเป็นการจำกัดความคิดสร้างสรรค์ของงาน ซึ่งแน่นอนค่ะว่าจะทำให้ขัดแย้งกับรูปแบบคอนเทนต์บน Tiktok เพราะการสร้างโฆษณาบน TikTok ที่ดี จะต้องเป็นการสร้างคอนเทนต์ให้เนียนไปกับวิดีโออื่นๆ นั่นเองค่ะ
- ใช้ข้อมูลหลังบ้านให้เป็นประโยชน์ นำข้อมูลหลังบ้านเพื่อนำมาใช้ในการวัดผลของโฆษณาตามกลยุทธ์ทางการตลาดที่คุณวางไว้ เพื่อเป็นเครื่องมือในการวัดผลงานของ Influencer
4. ร่วมเฉลิมฉลองไปกับโอกาสพิเศษต่างๆ
อีกไอเดียการทำคอนเทนต์บน TikTok ที่น่าสนใจคือ การสร้างคอนเทนต์ร่วมเฉลิมฉลองไปกับวันพิเศษต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับแบรนด์ของคุณให้ไปสู่ผู้รับชมได้นั่นเองค่ะ ซึ่งในส่วนนี้หากแบรนด์สามารถนำวันสำคัญต่างๆ ที่มี มาใส่ความครีเอทีฟ และ ความน่าสนใจลงไป ผู้เขียนเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้อย่างแน่นอนค่ะ
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ในเดือนมิถุนายนนี้ เป็นเดือนของ Pride Month หรือ เดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งสายรุ้ง โดยใน TikTok ได้เกิด #ForYourPride ทำให้มีผู้ร่วมสนุกกับแฮชแท็กดังกล่าวมากมาย ทั้งวิดีโอแต่งหน้าแบบสายรุ้ง วิดีโอแต่งตัว วิดีโอร่วมงานเทศกาล หรือแม้กระทั่งวิดีโอให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของเทศกาล ก็สามารถสร้าง Engagement หรือ การมีส่วนร่วมของผู้ชมได้ดีเช่นกันค่ะ
วันนี้ผู้เขียนได้นำตัวอย่างจากแบรนด์อย่าง hammondscandies แบรนด์ร้านขนมหวานในอเมริกา ที่ได้ลงคอนเทนต์เบื้องหลังในการทำลูกอมลายสายรุ้ง และ ได้ติดแฮชแท็ก #ForYourPride และ #pridemonth2021 ซึ่งทำให้มียอดผู้เข้าชมในคลิปนี้สูงถึง 5 ล้านวิวด้วยกันค่ะ
@hammondscandiesHappy Pride Month! #foryourpride #pride2021🏳️🌈 #pridemonth♬ Kings & Queens – Ava Max
การร่วมฉลองวันสำคัญจึงเป็นเทคนิคสำคัญที่แบรนด์สามารถเข้าไปร่วมกิจกรรมวันพิเศษต่างๆ และ หากวันพิเศษเหล่านั้นสามารถสร้างความเชื่อมโยงกับแบรนด์ได้ ยิ่งเป็นผลดีในการเผยแพร่เรื่องราวของแบรนด์ไปด้วยอย่างแน่นอนค่ะ
5. ทำคอนเทนต์แบบ How-to
คอนเทนต์บอกเล่าขั้นตอนหรือวิธีการต่างๆ เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่แบรนด์สามารถนำไปใช้ได้เช่นกันค่ะ เพราะอีกเคล็ดลับบน Tiktok คือการกดไลค์เพื่อเก็บวิดีโอนั้นไว้ดูย้อนหลัง และ เนื่องด้วยการทำวิดีโอคอนเทนต์แบบ How-to เป็นการสรุปเนื้อหาออกมาโดยแบ่งประเด็นสั้นๆ ให้สามารถเข้าใจวิธีการทำสิ่งต่างๆ ได้แบบง่ายๆ ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที และเป็นการทำให้ผู้ชมกดไลค์เก็บวิดีโอนั้นไว้ทำตามในภายหลัง
@fentybeautyIssa contour #makeuphack with @priscillaono with SUN STALK’R BRONZER and PRO FILT’R SETTING POWDER! #tutorial♬ original sound – Priscillaono
ถึงแม้จะเห็นได้ว่า คอนเทนต์วิดีโอแบบ How-to ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับวิดีโอความสวยงาม เช่น ขั้นตอนในการสอนแต่งหน้า จากแบรนด์เครื่องสำอางค์อย่าง Fentybeauty แต่ที่จริงแล้ว มีคอนเทนต์แบบ How-to หลายอย่างที่ทางแบรนด์สามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์ได้
เช่น วิธีการทำอาหาร การออกกำลังกายง่ายๆ ที่บ้าน ขั้นตอนหรือเคล็ดลับการใช้ Tiktok เป็นต้น
@kikifitnessno dumbbells needed💪🏼♬ Ayy Ladies – Travis Porter
ดังนั้นแล้วไม่ว่าแบรนด์ของคุณจะเกี่ยวข้องกับอะไรก็ตาม คุณก็สามารถทำคอนเทนต์ในรูปแบบ How-to ออกมาให้ผู้รับชมได้ค่ะ
6. ทำคอนเทนต์ตามเทรนด์ Viral
วิดีโอ Viral บน Tiktok อาจเป็นเพียงแค่เทรนด์ที่มีผู้ให้ความสนใจแค่เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่หากแบรนด์สามารถสร้างคอนเทนต์ให้สนุกไปกับเทรนด์ Viral นั้นๆได้ ย่อมเป็นช่องทางในการสร้าง Awareness หรือ ความเป็นที่รู้จักให้แก่แบรนด์ เพื่อให้เข้าถึงผู้รับชมจำนวนมากที่มีความสนใจในเทรนด์นั้นๆ ได้ค่ะ เพราะความโดดเด่นของการสร้างโฆษณาบน TikTok คือ การโฆษณาโดยทำให้ผู้รับชมรู้สึกเหมือนได้รับชมวิดีโอทั่วไปบนหน้า Feed บน TikTok หรือการนำเสนอสินค้าหรือบริการแบบเนียนๆ นั่นเองค่ะ
ตัวอย่างเช่นในวิดีโอด้านล่างนี้ เป็นเทรนด์แชร์การแต่งตัวบน Tiktok ด้วยการนับถอยหลังพร้อมไปกับการแต่งตัวค่ะ วิดีโอนี้จึงเป็นการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าจากแบรนด์ Pomelo ทั้งหมด เพียงเท่านี้ก็เป็นการขายเสื้อผ้าเนียนๆ อย่างไม่น่าเบื่อแล้วค่ะ
@kengmumiมาแต่งตัวแบบเหล่ท่อกันหน่อย 😎✨ #BeBoldBeYou #pomelofashion #pomeloxtiktok #foryoupage #fyp #คลาสแฟชั่น #แฟชั่น #fashion♬ CountDown – T.M.T
โดยในส่วนของแนวทางในการทำคอนเทนต์ตามเทรนด์ Viral คือ การอัพเดตเทรนด์บน Tiktok อย่างสม่ำเสมอค่ะ เนื่องจากเทรนด์ Viral เกิดขึ้นใหม่และจบลงอย่างรวดเร็ว ในฐานะของนักการตลาดสายคอนเทนต์จึงต้องคอยอัพเดตแทรนด์และหยิบยกเทรนด์นั้นๆ เพื่อเป็นโอกาสมาใช้ในการทำการตลาดและต่อยอดให้แก่ธุรกิจ
7. สร้างแบรนด์ฟิลเตอร์
ฟิลเตอร์บน TikTok เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการเพิ่มสีสันให้แก่วิดีโอ หากแบรนด์สร้างฟิลเตอร์ของแบรนด์ขึ้นมา สามารถเป็นอีกช่องทางการโปรโมทแบรนด์อย่างไม่รู้จบ เพราะใครก็ตามบน TikTok สามารถนำฟิลเตอร์นั้นไปใช้ได้ ซึ่งสามารถนำไปสู่ Organic traffic หรือ การดึงผู้ชมให้รู้จักสินค้าหรือแบรนด์ของคุณแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย
ตัวอย่างเช่น แบรนด์เสื้อผ้าอย่าง SHEIN ได้สร้างฟิลเตอร์ของแบรนด์ขึ้นมา เพื่อเปรียบเสมือนการเดินแบบในงาน Fashion show ซึ่งจะเห็นได้ว่าแม้ทางแบรนด์มีการร่วมมือกับ Influencer แต่ก็ทำให้มีผู้ร่วมสนุกเข้าร่วมใช้ฟิลเตอร์ดังกล่าว และสร้างคอนเทนต์ขึ้นในรูปแบบของตัวเอง ถือเป็นการช่วยโปรโมทแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้นไปด้วยค่ะ
@rhea.k_official#SHEINfashionweek #meetshein #sheinfashionshow @shein_official #tiktok_india #foryou #foryoupage #trending #fashiontest♬ Pew Pew! (Part 2) – CHUNNYT
อ้างอิง
https://blog.hootsuite.com
https://www.oberlo.com
https://www.forbes.com