สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน หลายคนคงทราบกันแล้วว่าปัจจุบัน Social Media Platform อย่าง Instagram สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ใช้งานและธุรกิจได้ โดยการสร้างรายได้บน Instagram จะมีหลากหลายวิธีแตกต่างกันออกไป ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกถึงการสร้างรายได้ด้วยกลยุทธ์ Affiliate Marketing ของผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์หรือที่ใครหลายคนเรียกกันว่า Influencer รวมถึงอธิบายให้ผู้อ่านทุกท่านได้รับรู้ว่า เพราะอะไร Influencer หลายคนถึงเลือกที่จะใช้กลยุทธ์นี้ และกลยุทธ์นี้จะมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหนต่อการสร้างรายได้ของพวกเขาบน Instagram หากผู้อ่านท่านใดกำลังสงสัยอยู่ ทาง STEPS Academy ขอเชิญชวนให้ผู้อ่านทุกท่านมาเริ่มทำความรู้จักกับกลยุทธ์ Affiliate Marketing ไปพร้อมๆกันเลยดีกว่าครับ
Affiliate Marketing คืออะไร และเพราะอะไร Influencer ถึงนิยมใช้กลยุทธ์นี้กัน ?
หากจะอธิบายถึง Affiliate Marketing ให้ผู้อ่านทุกท่านเข้าใจได้ง่าย และ เห็นภาพมากที่สุด จะกล่าวได้ว่า Affiliate Marketing คือกลยุทธ์ในการทำ Digital Marketing โดยการนำลิงก์ของเว็บไซต์มาใส่ภายใต้แคปชันของโพสต์ เพื่อให้ผู้อ่านที่สนใจสินค้าสามารถเข้าไปเยี่ยมชมที่หน้าเว็บไซต์ได้ง่ายและไวที่สุด ซึ่งลิงก์ที่ Influencer ได้รับมานั้น จะสามารถนำไปตรวจสอบและวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้ ว่ามีจำนวนการคลิกกี่ครั้ง และมียอดขายเกิดขึ้นจากการคลิกจำนวนเท่าไร โดย Influencer จะได้รับค่าตอบแทนจากการทำ Affiliate Marketing หากมีการซื้อเกิดขึ้นที่เว็บไซต์ซึ่งมาจากการคลิกลิงก์ภายใต้แคปชันที่ Influencer ได้เขียนไว้ภายในโพสต์ไว้ ซึ่งถ้าหากสินค้าสามารถขายได้เยอะ ค่าตอบแทนที่ได้ก็จะสูง
กลับกันถ้าหากสินค้าขายได้น้อยค่าตอบแทนที่ได้รับก็จะต่ำ วิธีนี้หลายธุรกิจจะรู้จักกันดีและเรียกกันว่า Cost Per Acquisition (CPA) หรือการคิดค่าโฆษณาต่อ 1 การกระทำ หรือในบางกรณี บางธุรกิจอาจทำข้อตกลงกับ Influencer โดยการให้ค่าตอบแทนผ่านการคลิกลิงก์เพื่อเข้าชมหน้าเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว ไม่จำเป็นที่จะต้องเกิดการซื้อสินค้า ซึ่งหลายธุรกิจจะเรียกวิธีนี้กันว่า Cost Per Click (CPC) หรือการคิดค่าโฆษณาต่อ 1 การคลิก
เพื่อไม่ให้ผู้อ่านทุกท่านเกิดความสับสนเกี่ยวกับรูปแบบการได้รับค่าตอบแทนของ Influencer เราจะอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CPA และ CPC ในหัวข้อถัดไป ว่าระหว่าง
Cost Per Click กับ Cost Per Acquisition รูปแบบไหนเหมาะกับการสร้างรายได้มากกว่ากัน ?
สำหรับรูปแบบ Cost Per Click (CPC) ค่าตอบแทนที่ได้รับจะไม่สูงเท่ารูปแบบ Cost Per Acquisition (CPA) เพราะถ้าหากเปรียบเทียบกันในเชิงธุรกิจแล้ว การได้มาซึ่งยอดขายย่อมสมเหตุสมผลมากกว่าที่จะได้รับค่าตอบแทนมากกว่าการที่มีคนกดคลิกลิงก์เพียงอย่างเดียว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ตาม ปัจจุบันก็ยังมี Influencer อีกหลายคนเลือกใช้รูปแบบ CPC กันอยู่ เพราะอะไรกันนะ
หากท่านผู้อ่านสงสัย เรามาเริ่มอ่านไปพร้อมๆกันดีกว่าครับ ว่าทั้งสองรูปแบบมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร
Cost Per Acquisition (CPA) หรือการคิดค่าโฆษณาต่อ 1 การกระทำ
ข้อดี
ได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า CPC หากเกิดยอดขายหรือการซื้อสินค้า
ร้านค้าปลีกส่วนใหญ่เลือกใช้วิธีนี้กัน จึงทำให้มีโอกาสเกิดการซื้อสินค้าสูง เพราะสินค้าส่วนใหญ่ราคาจับต้องได้และมีจำนวนมาก
ข้อเสีย
ระยะเวลาในการรอรับค่าตอบแทนนานถึง 60 – 90 วัน
Cost Per Click (CPC) หรือการคิดค่าโฆษณาต่อ 1 การคลิก
ข้อดี
ยิ่งจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่มาจากการกดคลิกลิงก์มากเท่าไร ค่าตอบแทนที่จะได้รับก็จะยิ่งสูง ไม่จำเป็นที่จะต้องเกิดยอดขายหรือการซื้อสินค้า
ระยะเวลาในการรอรับค่าตอบแทนน้อยกว่ารูปแบบ CPA
ข้อเสีย
อัตราค่าตอบแทนที่จะได้รับค่อนข้างน้อยถ้าเทียบกับรูปแบบ CPA
ร้านค้าปลีกส่วนใหญ่ไม่นิยมเลือกใช้วิธีนี้กัน แต่จะเป็นร้านค้าที่สินค้ามีราคาสูงที่นิยมใช้วิธีนี้ สินค้าส่วนใหญ่มีราคาที่จับต้องได้ค่อนข้างยาก จึงทำให้ได้รับความสนใจและเกิดการคลิกค่อนข้างน้อยกว่าสินค้าที่มาจากร้านค้าปลีก
สรุปก็คือ ถึงแม้รูปแบบ CPA และ CPC จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่ก็ไม่มีวิธีใดที่ถูกหรือผิด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเลือกใช้เสียมากกว่า
หากคุณเป็น Influencer ที่มีทักษะในสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้ดี และมีความอดทนมากพอสมควร การเลือกใช้รูปแบบ CPA จะเป็นรูปแบบที่น่าสนใจและเหมาะสมสำหรับคุณ เพราะสามารถสร้างรายได้ได้ค่อนข้างสูง
แต่ถ้าหากคุณเป็น Influencer ที่กำลังอยู่ในระหว่างการเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์คอนเทนต์ และไม่ชอบในการรอเป็นระยะเวลานาน การเลือกใช้รูปแบบ CPC ก็ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะคุณจะมีโอกาสได้เรียนรู้และสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ค่อนข้างหลากหลาย และได้รับค่าตอบแทนไวกว่าการเลือกใช้รูปแบบ CPA
และ สุดท้าย สำหรับธุรกิจที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเลือกใช้รูปแบบไหนดี ระหว่างรูปแบบ CPC และ CPA ทางผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านทุกท่านเริ่มทบทวนวัตถุประสงค์เหมือนกันกับ Influencer เพราะถ้าหากธุรกิจของคุณต้องการสร้างการรับรู้ การเลือกใช้ Influencer ด้วยรูปแบบ CPC จะเหมาะสมกว่า แต่ถ้าหากธุรกิจของคุณต้องการที่จะปิดการขาย แน่นอนว่าการเลือกใช้ Influencer ด้วยรูปแบบ CPA จะสามารถตอบโจทย์ได้ดีกว่าแน่นอน
อ่านมาถึงตรงนี้ ผู้อ่านทุกท่านคงจะทราบแล้วว่ากลยุทธ์ Affiliate Marketing คืออะไร และเพราะอะไร Influencer ถึงนิยมใช้กลยุทธ์นี้กัน รวมถึงยังได้เรียนรู้เพิ่มเติมอีกว่ารายได้หรือค่าตอบแทนที่ Influencer ได้รับนั้นมีที่มาอย่างไร
เห็นไหมครับว่า กลยุทธ์ Affiliate Marketing นี้ไม่ได้มีขั้นตอนการทำที่ซับซ้อนและสามารถเข้าใจได้ง่าย จึงทำให้ Influencer และหลายธุรกิจนิยมเลือกใช้วิธีนี้กัน
ผู้อ่านหลายท่านในตอนนี้ที่ไม่เคยทราบมาก่อน คงเริ่มที่จะอยากเป็น Influencer กันบ้างแล้วใช่ไหมครับ ถ้าอย่างงั้น หลังจากนี้เรามาเจาะลึกเพิ่มเติมกันดีกว่าครับ ว่าถ้าหากเราต้องที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเราเองให้เป็น Influencer ที่สามารถสร้างรายได้บน Instagram ได้นั้น เราควรที่จะเริ่มต้นอย่างไร ผู้เขียนรับรองว่าหลังจากอ่านหัวข้อถัดไป ผู้อ่านทุกท่านจะได้รับรู้ว่า
การสร้างรายได้แบบ influencer บน Instagram ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด
เริ่มต้น สิ่งที่ผู้อ่านทุกท่านต้องเตรียมให้พร้อมมากที่สุดคือ ความมุ่งมั่นและความตั้งใจ เพราะถ้าหากเราขาด 2 สิ่งที่กล่าวไปข้างต้น อาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานในฐานะ Influencer ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการได้
ซึ่งหลังจากเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว ลำดับแรก ผู้อ่านทุกท่านจะต้องทำความรู้จักกับ Affiliate Network หรือระบบ Affiliate Platform ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเพื่อเชื่อมระหว่างเจ้าของสินค้าหรือร้านค้า (Advertiser) และผู้เผยแพร่โฆษณา (Publisher) ให้มาเจอกัน โดยที่เจ้าของสินค้าหรือร้านค้าไม่จำเป็นที่จะต้องไปรับสมัครผู้เผยแพร่โฆษณาเอง และผู้เผยแพร่โฆษณาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาไปกับการติดต่อหรือเดินทางไปสมัครกับร้านค้าด้วยตัวเอง เพราะ Affiliate Network รวบรวมร้านค้าไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง 1 ใน Affiliate Network ในประเทศไทยที่ทางผู้เขียนอยากแนะนำให้ผู้อ่านทุกท่านได้รู้จักคือ Accesstrade เป็นเว็บไซต์ที่เหมาะสำหรับการทำ Affiliate Marketing โดยเฉพาะ ผู้อ่านที่เริ่มต้นที่จะเป็น Influencer สามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ที่กล่าวข้างต้นได้เลยครับ
ลำดับต่อมาผู้อ่านจะต้องเลือกสินค้าหรือร้านค้าที่ต้องการ และศึกษารายละเอียดข้อตกลง ข้อปฏิบัติทั้งหมดที่ทางเจ้าของสินค้าหรือร้านค้าระบุไว้ให้ละเอียด ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจว่ารายละเอียดทั้งหมดเหมาะสมและตอบโจทย์ระหว่างร้านค้ากับเราหรือไม่
นอกเหนือจากการเลือกสินค้าหรือร้านค้าที่ต้องการใน Affiliate Network แล้ว ผู้อ่านสามารถหาสินค้าหรือร้านค้าอื่นๆเพิ่มเติมจากหน้าเว็บไซต์ของแบรนด์ต่างๆ หรือตามช่องทาง Social Media ได้เช่นกัน เพื่อเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในหัวข้อนี้ทางผู้เขียนได้นำรูปภาพเกี่ยวกับรายละเอียดข้อตกลงระหว่างแบรนด์ MEJURI กับ Influencer มานำเสนอให้ผู้อ่านทุกท่านได้รับชมกัน เพื่อเป็นตัวอย่างให้ผู้อ่านทุกท่านสามารถเห็นภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งผู้อ่านทุกท่านสามารถดูจากภาพด้านล่างได้เลยครับ
หลังจากที่ผู้อ่านทุกท่านทราบแล้วว่าต้องเริ่มต้นอย่างไรในการจะเป็น influencer ถัดมาเรามาดูกันดีกว่าครับ ว่าเราจะเริ่มสร้างรายได้บน Instagram ในฐานะ Influencer ด้วยวิธีใดได้บ้าง ซึ่งวิธีที่ผู้เขียนจะนำเสนอต่อจากนี้ก็คือ
5 เคล็ดลับสร้างรายได้ให้กับ Influencer ด้วยกลยุทธ์ Affiliate Marketing
หากผู้อ่านรู้แล้วว่าจะเริ่มต้นอย่างไรในการจะเป็น Influencer และได้เตรียมความมุ่งมั่นและความตั้งใจมาอย่างเต็มเปี่ยม สิ่งต่อไปที่ผู้อ่านทุกท่านต้องเรียนรู้คือเรื่องของเทคนิคในการสร้างรายได้อย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้เสียแรงและเวลาโดยเปล่าประโยชน์ เพราะโดยปกติแล้วผู้ที่ต้องการเป็น Influencer หรือ Influencer รายใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นทำ มักจะให้ความสำคัญในส่วนที่ไม่จำเป็นมากเกินไป จนทำให้เกิดความกังวลว่าจะสร้างสรรค์คอนเทนต์ออกมาได้ไม่ดีเหมือนกับผลงานของ Influencer รายอื่นๆ ทางผู้เขียนจึงขอเริ่มต้นอธิบายด้วยเคล็ดลับแรกที่สะดวกและง่ายที่สุด ได้แก่
1.ยกระดับคุณภาพของคอนเทนต์ด้วยการใส่ Affiliate Link ลงบนโพสต์ Instagram
Affiliate Link หรือลิงก์ช่วยขาย คือ ลิงก์ที่หลายธุรกิจมักจะให้ Influencer นำไปใช้เพื่อการโปรโมตสินค้า โดยจะนำไปใส่ไว้ในแคปชันของโพสหรือโปรไฟล์ของ Influencer เพื่อให้ผู้อ่านที่สนใจสินค้าสามารถกดคลิกลิงก์เพื่อทำการเยี่ยมชมเว็บไซต์และซื้อสินค้าได้ โดยแต่ละลิงก์จะเชื่อมต่อกับระบบ ทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่าแต่ละลิงก์มีจำนวนการกดคลิกลิงก์กี่ครั้ง และเกิดยอดขายหรือการซื้อขึ้นที่ลิงก์ใดบ้าง เพื่อที่จะสามารถจ่ายค่าตอบแทนให้กับ Influencer ได้อย่างถูกต้อง
วิธีนี้ Influencer ที่มีชื่อเสียงมักจะนิยมใช้กัน โดยอาจจะใช้วิธีออกแบบเนื้อหาของคอนเทนต์ให้ดึงดูด น่าสนใจ ทำให้ผู้อ่านคล้อยตามและอ่านจนจบ จากนั้นจึงปิดท้ายประโยคด้วย Affiliate Link เพื่อกระตุ้นให้ผู้อ่านกดคลิกเพื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์และซื้อสินค้า ซึ่งวิธีนี้เราสามารถเรียกว่า Call to Action ได้เช่นกัน
เห็นไหมครับ เพียงแค่ออกแบบเนื้อหาคอนเทนต์ให้น่าสนใจ และปิดท้ายด้วยการแนบลิงก์เล็กน้อย ก็สามารถช่วยยกระดับคุณภาพคอนเทนต์ของผู้อ่าน และช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ของผู้อ่านทุกท่านได้แล้วครับ
เรามาต่อกันที่เคล็ดลับถัดไปกันดีกว่าครับ เคล็ดลับถัดไปจะเป็นเคล็ดลับที่ช่วยให้การสร้างรายได้บน Instagram ของผู้เริ่มต้นเป็น Influencer ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดและไม่ป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดระหว่างการทำ Affiliate Marketing โดยเคล็ดลับต่อไปคือ
2.วิธีทำ Affiliate Marketing เพื่อปิดการขายให้ได้ผลมากที่สุดบน Instagram
ในหัวข้อที่ผ่านมา ผู้อ่านทุกท่านคงจะทราบกันแล้วว่าหนึ่งในวิธีที่สามารถยกระดับคุณภาพของคอนเทนต์ คือ การแนบ Affiliate Link เพื่อให้ผู้อ่านที่สนใจกดเข้าชมเว็บไซต์และเกิดการซื้อสินค้า แต่การที่จะเกิดยอดขายได้นั้น การแนบลิงก์ไว้เพียงอย่างเดียวไม่สามารถการันตีหรือวางใจได้ว่าผู้อ่านจะทำทุกขั้นตอนครบถ้วนไปจนถึงกดซื้อสินค้า เพราะผู้อ่านบางรายอาจสนใจสินค้าแต่เลือกที่จะทำการซื้อสินค้าชิ้นนั้นผ่านช่องทางหรือวิธีอื่น ซึ่งการที่ Influencer ที่เลือกใช้รูปแบบ CPA จะได้รับค่าตอบแทนนั้น จำเป็นที่ผู้อ่านจะต้องกดลิงก์ที่ทาง Influencer ได้แนบไว้และทำการซื้อครบถ้วนทุกขั้นตอนภายในลิงก์นั้นเท่านั้น
ในหัวข้อนี้ทางผู้เขียนจึงขอแนะนำวิธีที่สามารถดึงดูดให้ผู้อ่านทำการซื้อสินค้าภายในลิงก์ที่ influencer ได้แนบไว้บนโพสต์ Instagram และสามารถปิดการขายได้ดีที่สุด ซึ่งวิธีที่กล่าวถึงคือ ผู้อ่านจำเป็นที่จะต้องระบุให้ชัดเจนว่าการซื้อสินค้าผ่านการกดคลิกลิงก์ที่แนบมาในโพสต์มีข้อดีอย่างไร และคุ้มค่ากว่าการเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางหรือวิธีอื่นอย่างไร เพียงเท่านี้ก็จะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่านและช่วยให้พวกเขาตัดสินใจในการซื้อสินค้าผ่าน Affiliate Link ที่เราได้แนบไว้แล้วครับ
เคล็ดลับในการสร้างรายได้หัวข้อถัดไป เป็นเคล็ดลับที่ใครหลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขนาดนี้ อีกทั้งยังสามารถทำได้ง่ายดาย โดยเคล็ดลับที่ว่าก็คือ
3.การรีวิวด้วยความจริงใจ
ปัจจุบัน ยังมีอีกหลายธุรกิจที่ตัดสินใจเลือกใช้ Influencer ที่มีชื่อเสียงเพื่อการโปรโมตสินค้า เหตุผลเพราะว่า Influencer เหล่านั้นมีจำนวนผู้ติดตามสูง เลยเข้าใจว่าจะสามารถทำให้เกิดยอดขายหรือการซื้อสินค้าได้สูงเช่นเดียวกัน ซึ่งความเป็นจริงแล้วส่วนใหญ่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นมักจะสวนทางกัน แล้วเพราะอะไรถึงเป็นอย่างนั้นผู้อ่านรู้ไหมครับ
คำพูดที่ว่า หากเลือกใช้ Influencer ที่มีจำนวนผู้ติดตามสูงแล้ว ก็ควรที่จะต้องได้ผลลัพธ์ที่สูงเช่นเดียวกัน อาจจะเป็นอย่างนั้นถ้าหากย้อนกลับไปสัก 10 ปีที่แล้วในยุคที่ Digital Marketing ยังไม่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมากเท่าปัจจุบัน
เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงสินค้าและแบรนด์ต่างๆได้ด้วยตนเองในปัจจุบัน ทำให้ทุกวันนี้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการตัดสินใจที่ค่อนข้างหลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีพฤติกรรมการตัดสินใจเพื่อซื้อสินค้าที่เปลี่ยนไปจากเดิม
หาก Influencer เลือกที่จะรีวิวสินค้าโดยใช้ข้อความที่ดูเป็นทางการมากเกินไป หรือแสดงออกว่าถูกว่าจ้างมาเพื่อให้รีวิวเพื่อทำการโปรโมตสินค้า ผู้บริโภคก็พร้อมที่จะปฏิเสธและไม่ให้ความสนใจในทันที อีกทั้งยังทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์นั้นกลายเป็นเชิงลบ กลับกันหากเป็น Influencer ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากเท่าไร แต่รีวิวสินค้าด้วยความซื่อตรง จริงใจ และไม่ได้แอบแฝงเจตนาอื่นๆ ผู้บริโภคก็พร้อมจะอ้าแขนรับไว้เพื่อพิจารณา และสนับสนุน Influencer รายนั้นในครั้งต่อไปหรืออาจจะระยะยาวเสียด้วยซ้ำ
เห็นไหมครับว่าเคล็ดลับที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับ Influencer นี้ เป็นเคล็ดลับที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวพวกเราเลยสักนิด ขอเพียงแค่ผู้อ่านเริ่มต้นจากความจริงใจ สิ่งที่สื่อสารออกไปผู้บริโภคต้องรับรู้ได้อย่างแน่นอนครับ
สำหรับเคล็ดลับต่อไป เป็นเคล็ดลับที่ผู้อ่านหลายท่านอาจจะเผลอทำไปในชีวิตประจำวันโดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อน ซึ่งบางคนอาจจะทำไปหลายครั้งแล้วด้วยซ้ำ โดยเคล็ดลับนี้ทางผู้เขียนมั่นใจว่าผู้อ่านหลายท่านที่เพิ่งเริ่มต้นที่จะเป็น Influencer ต้องสามารถทำออกมาได้ดีอย่างแน่นอน เพราะเคล็ดลับนี้คือ
4.การแบ่งปันประสบการณ์ในการใช้งานสินค้า
ในชีวิตประจำวันทุกคนต้องเคยพูดคุยเกี่ยวกับการใช้งานสินค้าที่ซื้อมาให้ผู้อื่นได้ฟังแน่นอน ไม่ว่าสินค้านั้นจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า มือถือ ของใช้ส่วนตัว หรืออะไรก็ตาม ซึ่งการเริ่มต้นพูดคุยกันอย่างปกติในทุกๆวันถือเป็นการแบ่งปันประสบการณ์ในการใช้งานรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะพูดคุยผ่านการพบปะเจอหน้ากัน พูดคุยผ่านการติดต่อทางโทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งพูดคุยผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ
ในหัวข้อนี้ หากผู้อ่านทุกท่านใช้ประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานสินค้าในชีวิตประจำวัน โดยการนำสิ่งเหล่านั้นมาแบ่งปันประสบการณ์ผ่านรูปแบบการโพสต์บน Instagram และ ส่งเสริมเนื้อหาด้วยการอธิบายเหตุผลให้ผู้อ่านคนอื่นๆทราบว่า เพราะอะไรสินค้าชิ้นนี้ถึงเหมาะสมและคุ้มค่าที่จะซื้อมาใช้ ซึ่งผู้อ่านที่กล่าวถึงก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเพื่อนและคนรู้จักของเราบน Instagram นั่นเอง มั่นใจได้เลยว่าความรู้สึกของผู้ที่ได้อ่านต้องรู้สึกสนใจและอยากจะรีบไปซื้อสินค้ามาใช้แน่นอน เพราะไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการที่เพื่อนแนะนำสิ่งดีๆให้กับเพื่อน จริงไหมครับผู้อ่านทุกท่าน
เพียงเท่านี้สิ่งธรรมดาที่แสนจะคุ้นเคยที่เรามักจะทำอยู่เป็นประจำในชีวิตประจำวันก็สามารถช่วยให้เราสามารถสร้างรายได้บน Instagram ได้แล้วครับ
หัวข้อถัดไป หรือเคล็ดลับสุดท้ายที่จะช่วยให้ผู้อ่านทุกท่านสามารถสร้างรายได้บน Instagram ได้มากยิ่งขึ้นก็คือการ
5.ใช้เครื่องมือ Analytics เพื่อส่งเสริมกลยุทธ์ Affiliate Marketing บน Instagram
การที่เราใช้เครื่องมือในการวัดผลอยู่เป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน จะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ได้ว่าคอนเทนต์รูปแบบใดหรือ Influencer คนใดมีแนวโน้มที่จะสามารถส่งเสริมการทำ Affiliate Marketing ของเราได้ อีกทั้งยังช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ได้อีกว่าเพราะอะไรผู้บริโภคถึงให้ความสนใจกับคอนเทนต์หรือ Influencer รายนั้น พวกเขาส่วนใหญ่เข้าถึงข้อมูลที่ไหน และเมื่อไร เป็นต้น ซึ่งข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาจากการใช้เครื่องมือ Analytics จะช่วยให้เราสามารถนำไปวางแผนธุรกิจในอนาคตได้อย่างแน่นอน
สรุป
เป็นอย่างไรบ้างครับกับบทความ การสร้างรายได้บน Instagram ด้วยกลยุทธ์ Affiliate Marketing สำหรับ Influencer หลังอ่านจบแล้ว ผู้อ่านหลายท่านคงอยากจะรีบนำไปปรับใช้ในการทำธุรกิจกันเลยใช่ไหมครับ บทความนี้นอกเหนือจากความรู้ที่เกี่ยวกับ Affiliate Marketing แล้ว ยังสอดแทรกไปด้วยคำศัพท์ที่ใช้ในการทำธุรกิจ เรื่องราวความเข้าใจผิดต่างๆเกี่ยวกับการใช้ Influencer ในการทำการตลาด และเทคนิคที่สามารถช่วยให้ผู้อ่านทุกท่านที่อยากจะเป็น Influencer สามารถสร้างรายได้บน Instagram ได้ด้วยตัวเองด้วยครับ
อ้างอิง
https://later.com
