ในโลกออนไลน์ที่ทุกอย่างเกิดขึ้น และ เปลี่ยนแปลงไว อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ทำให้การซื้อขายสินค้ากลายเป็นเรื่องง่าย และ เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งการทำโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ตรงจุดประสงค์ และเลือกแพลตฟอร์มได้ตอบโจทย์ คือกุญแจสำคัญที่จะนำกลุ่มเป้าหมายเข้ามายังเว็บไซต์ และ ทำให้เกิดการรับรู้แบรนด์ได้ โดยเหล่าธุรกิจ E-Commerce หรือ ผู้ประกอบการที่มีหน้าร้านบนโลกออนไลน์ย่อมตระหนักดีว่า หนึ่งในแพลตฟอร์มสำหรับสร้างโฆษณาที่มีผู้ค้นหาสินค้าและบริการเป็นจำนวนมาก และ เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปนั่นก็คือ Google Ads นั่นเอง
Google Ads คืออะไร
Google Ads หรือ Google Adwords คือเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ใช้ในการทำโฆษณาออนไลน์โดยอยู่ในเครือข่ายของ Google โดยเครื่องมือชนิดนี้จะช่วยให้ธุรกิจออนไลน์สามารถสร้างโฆษณาได้ตรงกับวัตถุประสงค์ของแบรนด์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเครื่องมือ Google Ads ยังสามารถเก็บ Data เพื่อเก็บข้อมูลในการวิเคราะห์และปรับปรุงแคมเปญโฆษณาในครั้งต่อไป นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้งานบน Google เป็นจำนวน 5.4 พันล้านครั้งต่อวันบน Seach Engine ซึ่งเมื่อเทียบกับ Search Engine แพลตฟอร์มอื่น ๆ แล้วนั้น Google เป็นแพลตฟอร์มที่คนใช้หาข้อมูล และ Keyword มากถึง 90% ดังนั้น การทำโฆษณาจึงเป็นโอกาสทองของแบรนด์ออนไลน์ต่าง ๆ ทั้งขนาดเล็ก และ ขนาดใหญ่ เนื่องจากคนที่เข้ามาค้นหาสินค้าและบริการผ่าน Search Engine มีจำนวนมากโดยเฉลี่ยที่ประมาณ 7 หมื่นครั้งต่อวินาที (ข้อมูลจาก review42.com)
ข้อมูลสถิติแสดงถึง Market Share ที่มีช่อง Search Engine ซึ่ง Google เป็นเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้งานมากถึง 90%
จากภาพด้านบน คุณผู้อ่านจะเห็นว่า Google สามารถสร้างรายได้และเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2020 Google ทำเงินได้มากถึง 1.4 ดอลลาร์สหรัฐ
ทำไม Google Ads จึงสำคัญในการทำธุรกิจ E-Commerce
- สามารถกำหนดเป้าหมายในการทำโฆษณาได้ตรงกับแคมเปญ
- สามารถจัดการบริการงบประมาณได้ Google Ads ไม่มีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ และสามารถเลือกระยะเวลาได้ และเราจะจ่ายเงินโฆษณาก็ต่อเมื่อมีคนคลิกเข้ามายัง Ad ของคุณ
- สามารถเก็บข้อมูลเพื่อนำไปประเมินผล และทำ Data-Driven Marketing ได้ในอนาคต
- มีตัวเลือกในการสร้างแคมเปญที่หลากหลาย ใช้งานง่าย
- สามารถเพิ่มช่องทางในการขายสินค้า ทำให้เกิด Call to Action ที่จะกลายเป็นยอดขายได้ในอนาคต
หากต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อดีในการทำโฆษณาผ่าน Google Ads คลิกที่นี่
8 ประเภทแคมเปญสำหรับทำโฆษณาผ่าน Google Ads
1 Search Campaigns:โฆษณาจากผลลัพธ์การค้นหาบน Search Engine
แคมเปญ Search จะเป็นโฆษณาที่ปรากฏขึ้นเมื่อมีการค้นหา Keyword ต่าง ๆ บน Search Engine โดยแคมเปญ Search นี้จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ Keyword คำเดียวกัน หรือมีความคล้ายคลึงกันกับสินค้าและบริการของแบรนด์สามารถเจอแคมเปญโฆษณา และทำให้คนเข้าชมเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น
ข้อดีในการใช้แคมเปญ Search
- สามารถเพิ่มยอดขายได้ดีขึ้น
- เหมาะกับจุดประสงค์เพิ่มเพิ่มจำนวน Traffic เข้ามายังเว็บไซต์
2 Shopping Campaigns: โฆษณาที่ใช้ในการโปรโมตผลิตภัณฑ์
แคมเปญ Shopping จะเป็นโฆษณาที่ปรากฏขึ้นเมื่อมีการค้นหาสินค้า และ บริการผ่าน Seach Engine แต่การแสดงผลลัพธ์นั้นจะอยู่ในฟีเจอร์ Shopping ซึ่งเป็นเมนูด้านล่างต่อจากช่องค้นหา การโฆษณาผ่านฟีเจอร์นี้ จะมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Keyword แสดงผลอยู่ และ ผู้ใช้งานสามารถเลื่อนภาพไปมาได้โดยที่ไม่ต้องเข้าไปยังเว็บไซต์ ก็สามารถเห็นรายละเอียดสินค้า และบริการได้เลย
ข้อดีในการใช้แคมเปญ Shopping
- ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่าน Google Ads ได้
- ผู้ค้นหาสินค้า และ บริการไม่ต้องเข้ามายังเว็บไซต์ก็สามารถมองเห็นสินค้าจากทางเว็บไซต์ได้ ทำให้น่าสนใจมากกว่าการอ่านเพียงแค่หัวข้อ
- สามารถใช้รูปในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้ตัดสินใจซื้อได้ดีขึ้น
3 Display Campaigns: โฆษณาแบบรูปภาพในเว็บไซต์
Display เป็นแคมเปญโฆษณาที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมทั้งการบริการของ Google เช่น แพลตฟอร์ม YouTube ทำให้กลุ่มเป้าหมายสนใจ และคลิกเข้ามายังเว็บไซต์ได้อีกช่องทางหนึ่งนอกเหนือจาก Search Engine
ข้อดีในการใช้แคมเปญ Shopping
- เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
- ทำให้เกิดการรับรู้แบรนด์ และการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
4 Video Campaigns: โฆษณาวิดีโอบน YouTube
แคมเปญ Video เป็นโฆษณาที่ปรากฏอยู่บน YouTube โดยโฆษณาประเภทนี้จะปรากฏคั่นกลางระหว่างการรับชมวิดีโอ และ เป็นโฆษณาที่ปรากฏอยู่ด้านล่างการค้นหาของ YouTube Search
ข้อดีในการใช้แคมเปญ Shopping
- แคมเปญโฆษณาประเภทวิดีโอมักได้รับความนิยมมากว่าโฆษณาประเภทอื่น ๆ ดังนั้น แบรนด์สามารถขยายฐานลูกค้าได้ง่ายขึ้น เมื่อรูปแบบโฆษณามีความน่าดึงดูด
- สามารถกระตุ้นให้เกิด Conversion ในการขาย
ตัวอย่างแคมเปญวิดีโอที่แสดงผลลัพธ์บนหน้าของสมาร์ทโฟน
5 App Campaigns: โฆษณาโปรโมตแอปเพื่อให้เกิดการดาวน์โหลด
หากแบรนด์มีจุดประสงค์ในการทำโฆษณาเพื่อเพิ่มยอดขายจากช่องทางแอปพลิเคชัน App Campaigns แคมเปญนี้จะปรากฏอยู่ในช่องทางที่หลากหลายเพื่อช่วยกระตุ้นการดาวน์โหลดแอป
ข้อดีในการใช้แคมเปญ Shopping
- แคมเปญนี้เหมาะสำหรับการโปรโมตแอปพลิเคชัน เพื่อให้เกิดการดาวน์โหลด และเพื่อพิ่มจำนวนผู้ใช้งานแอป
6 Smart Campaign: แคมเปญที่สามารถทำงานได้อัตโนมัติ
โฆษณาแคมเปญแบบ Smart เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นทำโฆษณา และ ธุรกิจขนาดเล็ก เนื่องจากระบบอัลกอริทึมของ Google Ads จะช่วยแบรนด์กำหนดเป้าหมาย กำหนดเวลา และสร้างรายได้คุ้มค้าอย่างมากที่สุด
ข้อดีในการใช้แคมเปญ Shopping
- เหมาะกับมือใหม่ที่เริ่มต้นใช้เครื่องมือ เนื่องจากระบบจะช่วยกำหนดค่าต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์กับธุรกิจ ด้วยระบบอัลกอริทึมขั้นสูง
- ช่วยเพิ่มยอดขายได้ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก
7 Discovery Campaigns: โฆษณาในฟีดออนไลน์
Google Discovery Campaigns คือ โฆษณาในฟีดของแอป Google ที่มีรูปแบบเนียนไปกับคอนเทนต์ในแพลตฟอร์ม ซึ่งแคมเปญนี้สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้จากความสนใจของผู้ใช้งาน (Interest) ซึ่งจะต่างกับแคมเปญที่เก็บข้อมูลจาก Keyword บน Search Engine
ข้อดีในการใช้แคมเปญ Shopping
- Google Discovery Ads แสดงผลบนแอป Google รวมทั้งหน้าโฮมของ YouTube และ Gmail ทำให้แบรนด์มีโอกาสเพิ่มขึ้นหลายช่องทาง
- สามารถทำ Remarketing เพื่อให้คนที่เคยเข้าเว็บไซต์เราได้เห็นโฆษณาอีกครั้ง
- เหมาะกับจุดประสงค์ในการสร้างการรับรู้แบรนด์ และ การเพิ่มยอดขายให้เติบโตขึ้น
8 Local Campaign: โฆษณาที่ช่วยโปรโมตร้านค้า และ ธุรกิจในพื้นที่
แคมเปญนี้ เหมาะสำหรับการโปรโมตธุรกิจท้องถื่น หรือ สินค้า และ บริการที่อยู่ในพื้นที่ ๆ กำหนด ทำให้ผู้ค้นหาสามารถเจอร้านค้าจริง รวมทั้งเว็บไซต์ของเรา
ข้อดีในการใช้แคมเปญ Shopping
- สามารถนำกลุ่มเป้าหมายบนโลกออนไลน์มายังหน้าร้านค้าจริงได้
- เพิ่มยอดขายในการซื้อสินค้า และ บริการแบบออฟไลน์
- สามารถโปรโมต และ อัปเดตข่าวสารต่าง ๆ จากทางร้านค้าผ่านโฆษณาได้
ที่มา
digitalmarketer
review42.com