สำหรับปี 2018 ที่จะถึงนี้ ภาพการตลาดดิจิทัลเริ่มชัดเจนมากขึ้นว่าจะมีความยาก ความซับซ้อน และสนุกมากขึ้นในตลาดประเทศไทย
คอนเทนต์ยังเป็นเรื่องสำคัญที่แบรนด์ยังคงต้องคอยผลิตให้แปลกใหม่ แตกต่าง น่าสนใจอยู่เสมอ แต่การนำเสนอคอนเทนต์ในรูปแบบต่างๆ ให้โดนใจลูกค้าบนโลกดิจิทัลนั้น ทางทีม STEPS เอง ก็ได้ลองเอา Personality Test หรือ แบบทดสอบการแยกประเภทบุคลิกของคนหลากหลายแบบมาประยุกต์ใช้
แต่สำหรับบทความนี้เราจะนำ Emergnetics Personality Test อีกรูปแบบหนึ่งมาปรับประยุกต์ให้เข้ากับแผนกลยุทธ์คอนเทนต์ปี 2018 กันค่ะ
เราเลยขออนุญาต แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับ Emergenetics มาเพื่อแบ่งปันให้ผู้อ่าน ได้รับประโยชน์มากขึ้นค่ะ จาก EGPROTRAIN โดยการนำเนื้อหาของ Emergenetics มาสรุปว่าจะสามารถช่วยให้เราวางแผนกลยุทธ์ดิจิทัลให้คมมากขึ้น เร็วมากขึ้นได้อย่างไร
ภาพจาก https://www.emergenetics.com/myegstory/
คำว่า Emergenetics มาจากรากศัพท์ 2 คำ คือ emerging (การพัฒนาจนเป็นรูปแบบขึ้นมา) และ genetics (ยีนที่ถ่ายทอดกันมาทางกรรมพันธุ์)
Emergenetics Profile เป็นเครื่องมือประเมินทางจิตวิทยาที่ยึดหลักการทำงานของสมอง โดยผสมผสานทฤษฎีการทำงานของสมองซีกซ้ายและสมองซีกขวาของ Dr.Roger Sperry และทฤษฎีการวิวัฒนาการของสมองทั้งสามชั้นตาม Triune Brain Theory ของ Dr.PaulMacLean มาเป็นพื้นฐานในการประเมินคุณลักษณะทางความคิด (Thinking Attributes) ของคนเรา
ตามหลักการนี้ คุณลักษณะทางความคิด ซึ่งจะขอเรียกสั้นๆ กระชับเนื้อที่ว่า “ความคิด” ของคนเราสามารถจำแนกอย่างอุปมาอุปไมยได้เป็น 4 คุณลักษณะ
1.ความคิดเชิงวิเคราะห์ (Analytical)
ซึ่งแทนด้วย สีน้ำเงิน คือการใช้คุณลักษณะของสมองซีกซ้ายในการวิเคราะห์ไตร่ตรอง หาเหตุผล มีตรรกะ มีความถนัดด้านตัวเลข และการวิเคราะห์เชิงคณิตศาสตร์
คนที่มีความคิดเชิงวิเคราะห์สูง มักสนใจในเทคโนโลยี มักชอบใช้เวลาอยู่กับกระบวนการคิดวิเคราะห์ และค้นคว้าหาข้อมูล มีความสนใจในทฤษฎีและหลักการ คนพวกนี้มักดูเป็นคนช่างคิด มีเหตุผล ช่างวิพากษ์วิจารณ์ และเป็นคนที่ช่างใฝ่หาข้อมูลเพื่อตอบข้อสงสัย
Digital Content Strategy :
หากลูกค้าของเราบนโลกออนไลน์เป็นคนประเภทนี้ เราต้องเตรียมคอนเทนต์ประเภท Web Content ในรูปแบบของ ตัวอักษร ที่มีการให้คำอธิบายอย่างชัดเจน (Definition) การทดลอง ทฤษฎีนั้นๆ พร้อมกับผลสรุป อย่างละเอียด
ลูกค้าที่จะอยู่ในประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่ต้องพิจารณาข้อมูล และ ผลวิจัยมากมาย อาจจะเป็นสินค้าประเภทการแพทย์ สินค้าประเภทอุตสาหกรรม หลังจากเราสามารถวิเคราะห์ลูกค้าได้
ว่าเขาต้องการข้อมูล ต้องการผลลัพธ์ และ หลักเหตุผล ที่สามารถตีค่าเป็นตัวเลขได้ตามเปอร์เซ็นหรือมูลค่าว่าใช้สินค้าของเราแล้วจะทำให้เขาสามารถ ได้ผลลัพธ์มากกว่าปกติ กี่เปอร์เซ็นเป็นต้น
Digital Channel Strategy :
ช่องทางที่เราควรเน้นคือช่องทาง เว็บไซต์เป็นหลัก และเรื่องของการทำ SEO ทั้ง offsite และ onsite เพราะฉะนั้นทีมดิจิทัลจะต้องศึกษาเรื่องของ website strategy , content strategy เพิ่มเติม
2. ความคิดเชิงแบบแผน (Structural)
ซึ่งแทนด้วยสีเขียว คือการใช้คุณลักษณะของสมองซีกซ้ายล่าง ในการเรียบเรียง จัดการ รวมถึงการลำดับขั้นตอนของกระบวนงานและเรียนรู้ใส่ใจในรายละเอียด และมีระเบียบปฏิบัติเด่นชัด
มักดูเป็นคนมีระเบียบเรียบร้อย เชื่อถือได้ เป็นนักปฏิบัติ มีแนวคิดและมีวินัย และมีพฤติกรรมคงที่ และคาดเดาได้ ชอบทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอน หากจะต้องพาคนที่มีความคิดเชิงแบบแผนแบบ Structural ไปเที่ยวดูนิทรรศการศิลปะ เขาจะเป็นคนที่ดูผลงานแบบเรียงลำดับจากชิ้นที่ 1 จนชิ้นสุดท้ายแบบครบถ้วน
Digital Content Strategy :
เรียกว่าชอบคอนเทนต์ประเภท How-To แบบขั้นตอนเป็นที่สุด และต้องบอกว่า Audience ส่วนใหญ่ของไทยในโลกออนไลน์มีความถนัด และ กระบวนการคิดแบบ Structural ค่ะ
ไม่แปลกว่าทำไมคอนเทนต์ประเภท Photo Series คอนเทนต์ประเภท 10 ขั้นตอน 5 ขั้นตอนในการทำภารกิจใดภารกิจหนึ่งถึงประสบความสำเร็จ ตั้งแต่เขียน Headline
Digital Channel Strategy :
เราสามารถใช้ช่องทางใดก็ได้ ตรงนี้แล้วแต่ generation ของผู้บริโภค ซึ่งสามารถดูสถิติการใช้งานของ Social Media ของประเทศไทยในปี 2017 ได้ที่นี่
เพียงแต่วิธีการนำเสนอคอนเทนต์ต้องเป็นขั้นเป็นตอนอย่างชัดเจน ไม่ทิ้งข้อสงสัยอะไรให้คิดต่อเยอะ เหมือนกับเป็นการเฉลยคำตอบอย่างละเอียดไปเลยภายในคอนเทนต์
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงเรียนสอนภาษา
เราจะทำคอนเทนต์เกี่ยวกับวิธีการเตรียมสอบ IELTS ลูกค้าของเราเป็นประเภทชอบความเป็นขั้นเป็นตอน อย่างละเอียด เราต้องนำเสนอคอนเทนต์เป็นขั้นเป็นตอนอย่างละเอียด และไม่ได้นำเสนอแค่ เรื่อง Mindset อย่างเดียว
หมายถึงไม่ควรนำเสนอเพียง
1.นอนให้ไวเตรียมสมองให้พร้อม
2.เตรียมจิตใจให้แจ่มใส
แต่ควรนำเสนอข้อปฏิบัติที่ทำได้จริง เช่นค้นหาแหล่งข้อสอบจากที่ไหนได้บ้าง ต้องเริ่มอ่านหนังสือจากเล่มไหนเป็นเล่มแรก และ ขั้นตอนต่อไปต้องติดต่อเรื่องสอบอย่างไรบ้าง เป็นต้น
3.ความคิดเชิงสานสัมพันธ์ (Social)
ซึ่งแทนด้วยสีแดง คือการใช้คุณลักษณะของสมองซีกขวาในการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น มีอารมณ์อ่อนไหว ชอบสังคม มีญาณหยั่งรู้ในเรื่องคน
คนที่มีความคิดเชิงสานสัมพันธ์สูง มักเป็นคนที่เข้าอกเข้าใจผู้อื่น มีมุมมองเข้าถึงคน และมีลางสังหรณ์เกี่ยวกับคน คนพวกนี้ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ โดยสังเกตการณ์จากการกระทำของคนอื่นและมักสนทนาโดยอ้างอิงประสบการณ์ของตนเอง คนประเภทนี้มักตัดสินใจจากการขอความคิดเห็น หรือ ความช่วยเหลือจากผู้อื่น เพราะฉะนั้นแล้ว
Digital Content Strategy :
สำหรับลูกค้าประเภทนี้เราสามารถเน้นหลักๆจาก testimonials คำบอกเล่าจากลูกค้าคนอื่น เกี่ยวกับปัญหา และ สามารถแก้ไขปัญหาด้วยผลิตภัณฑ์ของเราได้อย่างไรบ้าง หรือสิ่งที่เราควรทำคือเราควรเน้นหลักคอนเทนต์จาก Influencers ต่างๆ หรือกลุ่มคนที่พวกเขาไว้ใจ และส่วนใหญ่แล้วกลุ่มวัยรุ่น จะเป็นประเภทเน้นการตัดสินใจจากความสัมพันธ์ หรือจากกลุ่มเพื่อนนั้นเอง
Digital Channel Strategy :
เราควรเน้นหลักในช่องทางที่ให้คนอื่นพูดถึงเราตัวอย่างเช่น กระทู้ Blogger หรือ Micro Influencers เป็นต้น
4.ความคิดเชิงมโนภาพ (Conceptual)
ซึ่งแทนด้วยสีเหลือง คือการใช้คุณลักษณะของสมองซีกขวาบนในการสร้างมโนภาพ มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ มักตื่นเต้นเมื่อได้พบกับสิ่งใหม่ๆ คนที่มีความคิดเชิงมโนภาพสูง มักเป็นคนที่มีปัญญาญาณทางความคิด กล้าได้กล้าเสีย มองภาพใหญ่ ไม่ชอบลงในรายละเอียด ไม่ชอบอยู่ในกรอบ ทันสมัย และมีสุนทรียภาพ
Digital Content Strategy :
คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมีอาชีพที่ต้องอาศัยความสร้างสรรค์มาประกอบ อาชีพนักการตลาด จึงต้องอาศัยการสื่อสารคอนเทนต์แบบการนำเสนอผ่านทาง Visual Content เป็นหลัก
Digital Channel Strategy :
เราควรเน้นช่องทางที่สามารถสื่อสารให้เห็นภาพได้เช่น YouTube, Facebook, Instagram