ว่ากันด้วยเรื่องของภาพ ทำไมถึงต้องถ่ายเองทั้งที่มี เว๊บไซต์ให้โหลดฟรี มีให้ซื้อ คำตอบคือ
- คุณอาจจะไม่ใช่คนเดียวที่ใช้ภาพนั้น อาจจะไปซ้ำกับคู่แข่งโดยไม่ทันรู้ตัว
- การเดินทางของผู้บริโภคในปัจจุบัน มีการเข้าถึงแหล่งข้อมูลมากขึ้น และรู้ว่าภาพที่คุณใช้นั้นมาจากไหน
- ภาพที่ถ่ายเองไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของลิขสิทธิ์
การใช้ภาพในการสื่อสารมีผลทำให้คนจดจำได้ 80% ในยุคที่คนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น การใช้ภาพเป็น หนึ่งสิ่งที่สามารถทำให้คนสนใจเราได้ ซึ่งภาพที่ใช้ถ้ายิ่งเป็นภาพที่ถ่ายเองจะยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือได้มาก ลองมาทดสอบกันง่ายๆ
1
2
ถามว่าถ้าให้เลือกอาหารจานไหนน่าสนใจมากกว่ากัน หลายคนคงเลือกภาพหมายเลข 1 เพราะว่าดูดีน่าอร่อย มาถึงเรื่องของเราว่าจะทำยังไงให้ภาพออกมาดูดีและสามารถดึงดูดความสนใจได้
ขั้นตอนที่ 1 เลือกเป้าหมาย
ในการถ่ายภาพจะต้องเลือกก่อนว่าเราอยากจะถ่ายอะไร คน อาหาร สิ่งของ วิว หรือ สัตว์ ซึ่งในแต่ละอย่างจะมีเคล็ดลับในการถ่ายไม่เหมือนกัน ในที่นี้จะขอยกมา 2 โมเดล คือ คนกับอาหาร
ขั้นตอนที่ 2 เลือกมุมมองการถ่าย
ต้องขอบอกก่อนว่าในขั้นตอนนี้ไม่มีเคล็ดลับที่ตายตัว ซึ่งในภาพถ่าย 1 ภาพ แต่ละคนจะมีความชอบที่แตกต่างกันและไม่มีสิ่งไหนที่ผิดหรือถูก สำหรับการถ่ายภาพ เพราะมันคือมุมมองที่เราต้องการจะสื่อออกมา ก่อนที่จะไปลงรายละเอียดการถ่ายภาพบุคคล หรือ อาหาร มาทำความรู้จักกับ การวางองค์ประกอบภาพกันก่อน ซึ่งเป็นตัวที่บอกได้เลยว่า ภาพของเราจะน่าสนใจหรือไม่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการที่เราจัดวางสิ่งที่เราต้องการถ่าย
ภาพจาก : http://www.photoble.com/photography-tips-tricks/composition-101-rule-of-thirds-in-photography-with-examples/
จากภาพในการที่วางสิ่งที่เราต้องการถ่ายไม่ว่าจะเป็น บุคคล หรือ อาหาร ไว้ตรงจุดสีแดง จะทำให้ภาพถ่ายของเราดูมีมิติและจะเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น
1
2
จากภาพในภาพที่ 2 ตัวของภาพดูมีอะไรให้น่าติดตามมากกว่า มีพื้นที่ให้ใส่ลูกเล่นมากกว่าเช่น SALE 90%
การถ่ายภาพบุคคล
ในการถ่ายภาพบุคคลสิ่งที่สำคัญ คือ eye contact สิ่งนี้จะทำให้เกิดกาสื่อสารหรือส่งอารมณ์ผ่านภาพถ่ายได้
1. ถ่ายแบบ Headshots
เป็นการถ่ายตั้งแต่ช่วงหัว ถึง ช่วงไหล่ ภาพที่ได้จะใช้สื่ออารมณ์ได้ดีที่สุด
เหมาะกับการใช้โปรโมท สินค้าพวกเครื่องสำอางค์ เครื่องประดับต่างๆ เช่น ตุ้มหู แหวน นาฬิกา หมวก เป็นต้น
Tip : eye contact ที่สื่ออารมณ์ได้ดีที่สุดคือการให้ตัวแบบมองมาที่กล้อง
2. ถ่ายแบบ Medium shot
เป็นการถ่ายตั้งแต่ช่วง หัว ถึง บริเวณสะโพกหรือต้นขาได้ตามความเหมาะสมของชุดที่ใส่ ภาพที่ได้จะมีท่าทางประกอบมากขึ้น ใช้การสื่ออารมณ์ผ่านทางภาษากายมากขึ้น
เหมาะกับการใช้โปรโมท สินค้าพวกเสื้อผ้า หมวก กระเป๋า เครื่องประดับ
ภาพรูปแบบของ Medium shot จะทำให้เห็นภาพสินค้าโดยรวมมากขึ้น
Tip : ตั้งแต่ภาพแบบ Medium shot เป็นต้นไป ท่าทางการโพสของตัวแบบเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
3.ถ่ายแบบ Long shot
เรียกง่ายๆ ว่าเป็นการถ่ายทั้งตัว ทำให้เห็นถึงภาพรวมทั้งหมดของการแต่งกาย การโพสท่าสำคัญมากจะเป็นจุดที่บ่งบอกถึงบุคคลิกภาพของตัวแบบ
ในแต่ละภาพจะให้อารมณ์ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ ประเภทสินค้าที่เอามาประกอบ
การถ่ายอาหารและสิ่งของ
ทั้ง 2 สามารถใช้มุมมองหรือแนวคิดเดียวกันในการถ่ายได้ คือ การจัดองค์ประกอบของฉากให้สอดคล้องกับวัตถุที่เราต้องการจะถ่าย
1. ถ่ายแบบ Close up
เป็นลักษณะการถ่ายที่เน้น ตัววัตถุเป็นหลัก ทำให้เห็นรายละเอียดที่ชัดเจน
เหมาะสำหรับการถ่ายสินค้าทุกชนิด
ในการจัด ฉากพื้นหลัง สามารถ เลือกได้ตามความเหมาะสม
2. ถ่ายแบบ bird eye view
เป็นลักษณะการถ่ายมุม กดจากที่สูงมา เปรียบเหมือนกับที่นกมองลงมา ส่วนมากเหมาะกับการถ่ายจำพวก อาหาร
Tip : จุดสำคัญสำหรับการถ่าย สินค้า และ อาหาร คือ การจัดฉากหลัง
ขั้นตอนที่ 3 แสดงถึงความเป็นเจ้าของ
ในขั้นตอนนี้คนส่วนใหญ่มักจะพลาดเพราะคิดว่า ภาพถ่ายของเรายังไงก็ไม่มีใครเอาไปใช้ ตรงจุดนี้ถือเป็นช่องที่ทำให้คู่แข่งเอาภาพของคุณไปใช้ได้โดยที่คุณอาจจะไม่รู้ตัว เพราะฉนั้นจุดสำคัญที่ควรระวัง
- ไม่ได้ใส่โลโก้ของแบรนด์
- ใส่โลโก้ที่จมหายไปกับภาพ
ถ้าไม่สังเกตให้ดีจะมองไม่เห็นโลโก้เลย
มองเห็นชัดเจนรู้ว่ามาจากที่ไหน
สรุป
- ภาพถ่ายบุคคล เหมาะกับ สินค้าประเภทแฟชั่น
- การถ่ายแบบ Headshots เป็นลักษณะภาพที่สื่ออารมณ์ได้ดีที่สุด
- การถ่ายแบบ Medium shot เป็นภาพที่เห็นการแต่งกายส่วนบนที่ชัดเจน
- การถ่ายแบบ Long shot เป็นภาพถ่ายทั้งตัว จะสามารถเห็นการแต่งกายโดยรวมได้ดีที่สุด
- การถ่ายภาพอาหารหรือสินค้า
- การถ่ายแบบ Close up เป็นภาพถ่ายที่เน้นความชัดของวัตถุ
- การถ่าบแบบ Bird eye view เป็นภาพมุมสูง
- การถ่ายภาพไม่มีผิดหรือถูก มีแต่เหมาะสมหรือป่าว สวยหรือไม่ เท่านั้น แล้วถ้าไม่สวยก็เพียงกดถ่ายใหม่ง่ายใช่ไหมครับ
อ้างอิงจาก:
- https://blog.hubspot.com/marketing/power-of-visual-communication-infographic
- https://static1.squarespace.com/static/52470f11e4b025e8f32a5071/t/5695bb76a12f44ae2824c602/1452653431682/HP-power-of-visual-communication.pdf