Update ! การเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ จาก Facebook และ Instagram ประจำเดือนมิถุนายน และ กรกฎาคม 2021

สถานการณ์ในปัจจุบัน การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ยังไม่มีแนวโน้มจะลดลง ทำให้หลายธุรกิจได้รับผลกระทบที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และในขณะเดียวกัน ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากนี้ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เป็นที่นิยมของผู้คนทั่วโลกอย่าง Facebook และ Instagram ได้เริ่มพัฒนาฟีเจอร์และฟังก์ชันใหม่ ๆ ที่จะสามารถตอบโจทย์การทำธุรกิจ และ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบัน 

ในบทความนี้ทาง STEPS Academy ได้รวบรวมข้อมูล และ ข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งฟีเจอร์อัปเดตใหม่ๆบนแพลตฟอร์ม Facebook และ Instagram ตลอดเดือนมิถุนายนและเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มานำเสนอให้ผู้อ่านทุกท่านได้อ่านกัน ซึ่งแต่ละฟีเจอร์ที่ได้เพิ่มเข้ามาจะเป็นประโยชน์ และสามารถช่วยเหลือธุรกิจได้อย่างไรนั้น เรามาดูไปพร้อมกันเลยดีกว่าครับ โดยหัวข้อแรกที่ผู้เขียนจะเริ่มอธิบายคือ…

 

การอัปเดตของ Instagram ในเดือนมิถุนายนและเดือนกรกฎาคม

 

1. Security Checkup ป้องกัน Instagram ถูกแฮ็ก  

ในปัจจุบันแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Instagram เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานหรือเจ้าของธุรกิจสามารถหารายได้บนแพลตฟอร์มได้แล้ว จึงทำให้ผู้ใช้งานให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งทางทีมผู้พัฒนา Instagram ก็เล็งเห็นถึงปัญหาที่ผู้ใช้งานกังวลว่าจะมีโอกาสถูกแฮ็กหรือไม่ จึงได้เริ่มพัฒนาฟีเจอร์ที่สามารถตรวจสอบความปลอดภัยของบัญชี และ ป้องกันไม่ให้เกิดการถูกแฮ็ก ซึ่งก็คือฟีเจอร์ Security Checkup 

ฟีเจอร์นี้มีขั้นตอนการใช้งาน ๆ โดยจะเริ่มต้นจากการตรวจสอบข้อมูลโปรไฟล์ของผู้ใช้งาน เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน พร้อมทั้งให้กรอกข้อมูลที่สามารถติดต่อกลับได้ในกรณีที่เกิดปัญหา เพื่อที่จะสามารถกู้คืนบัญชีของผู้ใช้งานได้ ยกตัวอย่างเช่น หมายเลขโทรศัพท์ หรืออีเมล

เพราะการทำธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย คงไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอนถ้าหากช่องทางสำหรับการดำเนินธุรกิจของเราไม่มีการรักษาความปลอดภัยใด ๆ เลย เราจึงต้องเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง

2. Instagram สามารถซ่อนยอด Like ของแต่ละโพสต์ได้แล้ว

ทีมผู้พัฒนา Instagram ต้องการพัฒนาฟีเจอร์ที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้งาน Instagram ได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ จึงได้เพิ่มฟีเจอร์ “Hide Like Count” เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าโพสต์ใน Instagram ของตัวเองไม่ให้แสดงจำนวนยอดไลค์ได้แล้วในตอนนี้ ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าว ทางทีมผู้พัฒนาได้เริ่มต้นเปิดให้ทดลองใช้งานก่อน 6 ประเทศ ได้แก่ 

• ไอร์แลนด์
• อิตาลี
• ญี่ปุ่น
• บราซิล
• ออสเตรเลีย
• นิวซีแลนด์

ซึ่งหลังจากเปิดให้ผู้ใช้งานทั้ง 6 ประเทศได้ทดลองใช้ฟีเจอร์แล้ว ผลตอบรับที่ได้เป็นไปในทางที่ดี จึงทำให้ทีมผู้พัฒนาได้เพิ่มฟีเจอร์ “Hide Like Count” ไปยังอีกหลายประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน 

สำหรับฟีเจอร์นี้ ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพราะมีเพียง 3 ขั้นตอนง่าย ๆ เท่านั้น ได้แก่ 

• เลือกรูปภาพที่ต้องการซ่อนจำนวนไลค์
• แตะที่มุมขวาบนของรูปภาพที่มีไอค่อน 3 จุด
• กดเลือก “Hide Like Count”

นอกเหนือจาก Instagram แล้ว แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook ก็จะสามารถซ่อนยอด Like ได้เช่นกัน โดยฟีเจอร์สำหรับการซ่อนยอด Like ของ Facebook จะใช้ชื่อฟีเจอร์ว่า “Reaction Counts” ซึ่งตอนนี้ทางทีมผู้พัฒนาได้เปิดให้ผู้ใช้งาน Facebook ได้ทดลองใช้กันแล้ว ซึ่งผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม Facebook ในประเทศไทยก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

 

3. วิเคราะห์คอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ธุรกิจที่สุดด้วยฟีเจอร์ Reels

อีกหนึ่งฟีเจอร์บนแพลตฟอร์ม Instagram ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่อย่าง Reels ถือเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจและได้รับความนิยมหลังจากเพิ่มเข้ามาได้ไม่นาน เพราะฟีเจอร์ Reels ช่วยให้ครีเอเตอร์และธุรกิจสามารถประเมินประสิทธิภาพของคอนเทนต์ได้  โดยจะมีข้อมูลเมตริกต่าง ๆ ระบุไว้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น  

• Plays (จำนวนครั้งในการเล่น)
• Accounts Reached (จำนวนบัญชีที่สามารถเข้าถึง)
• Likes (จำนวนการกดถูกใจ)
• Comments (จำนวนความคิดเห็น)
• Saves (จำนวนการบันทึก)
• Shares (จำนวนการแชร์)

ซึ่งข้อมูลเมตริกทั้งหมดที่ได้จากฟีเจอร์ Reels ถือเป็นข้อมูล Insight ที่สำคัญและเป็นประโยชน์เป็นอย่างมากต่อการทำธุรกิจ หากนำไปวิเคราะห์และวางแผนอย่างรอบคอบ จะช่วยให้ธุรกิจได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่ได้วางแผนไว้แน่นอน 

4. Instagram ลดอคติทางเชื้อชาติของผู้คน โดยการเพิ่มความเท่าเทียม 

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางทีมผู้พัฒนา Instagram ได้ออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนว่า พวกเขาได้เพิ่มมาตรการใหม่ที่เกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์ม Instagram เข้ามา โดยมาตรการดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อลดอคติทางเชื้อชาติของผู้คนบนแพลตฟอร์ม ซึ่งจะมีอัลกอริทึมตรวจจับข้อความที่มีการสื่อสารในเชิงสนับสนุนความรุนแรง หรือเหยียดเชื้อชาติ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างผู้ใช้งานด้วยกันเอง และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีในการใช้งาน Instagram 

จบไปแล้วกับหัวข้อ การอัปเดตของ Instagram ในเดือนมิถุนายนและเดือนกรกฎาคม ถัดมาผู้เขียนจะอัปเดตให้ผู้อ่านทุกท่านทราบเกี่ยวกับ 

 

การอัปเดตของ Facebook ในเดือนมิถุนายน และเดือนกรกฎาคม

 

1. Facebook ลงทุนมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อส่งเสริมครีเอเตอร์

Facebook ตั้งเป้าหมายในการส่งเสริมการสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์ม โดยเริ่มต้นลงทุนเพื่อพัฒนาฟีเจอร์หรือเครื่องมือต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม Facebook เพื่อดึงดูดความสนใจให้ผู้ใช้งานได้ทดลองสร้างเนื้อหาที่แปลกใหม่ และกลายเป็นครีเอเตอร์หน้าใหม่ที่สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อให้ผู้คนชื่นชอบได้   

พิเศษไปกว่านั้น ทาง Facebook จะมอบโบนัสหรือข้อเสนอสุดพิเศษให้กับครีเอเตอร์ที่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ทาง Facebook ได้กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น 

• In-stream Bonus : รูปแบบนี้ ครีเอเตอร์จะได้รับรายได้ถ้าหากวิดีโอคอนเทนต์ของตนถูกนำไปใช้เป็นโฆษณา
• Stars Bonus : นอกจากครีเอเตอร์ที่สร้างสรรค์วิดีโอแล้ว โบนัสรูปแบบนี้ยังสามารถมอบให้กับครีเอเตอร์ด้านเกมด้วย ซึ่งผู้ที่จะได้รับโบนัสนั้น จำเป็นที่จะต้องรวบรวมดาวได้ครบตามเกณฑ์ที่ Facebook ได้กำหนดไว้ 

2. Facebook ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ โดยการออกแบบสติ๊กเกอร์เพื่อสนับสนุน LBGTQ+

Facebook ได้ร่วมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจของชุมชน LGBTQ+ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยร่วมฉลองพร้อมกับพันธมิตรขององค์กรอย่าง NGO ในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา 

ในการร่วมฉลองในครั้งนี้ Facebook ได้เพิ่มฟีเจอร์ Sticker รูปแบบใหม่ ที่สามารถใช้ใน Messenger หรือโพสต์ต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม Facebook เพื่อให้ผู้คนได้ตระหนักและรับรู้ว่ารสนิยมทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศในปัจจุบันไม่ใช่สิ่งที่แปลกแยก หรือแตกต่าง ทุกคนล้วนมีความเท่าเทียม อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนชุมชน LGBTQ+ เพื่อให้เกิดความมั่นใจและภูมิใจในสิ่งที่เลือกอีกด้วย 

 

5. Facebook เพิ่มฟีเจอร์สำหรับการชำระเงินไปยังแพลตฟอร์ม Whatsapp 

ผู้อ่านทุกท่านอาจจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook มีฟีเจอร์ Facebook Pay ที่ให้ผู้ใช้งานใช้สำหรับการทำธุรกรรม โดยสามารถชำระเงินงานผ่าน Messenger อีกทั้งยังสามารถเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถระดมทุนได้อีกด้วย สามารถทำได้ทั้งรูปแบบลิงก์ และ QR Code ซึ่งฟีเจอร์นี้ได้รับผลตอบรับในทางที่ดี และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมได้สะดวกมากยิ่งขึ้น 

ไม่เพียงแต่สามารถชำระเงินผ่าน Messenger แต่ทางทีมผู้พัฒนา Facebook ยังได้นำฟีเจอร์ Facebook Pay ไปประยุกต์ใช้กับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Instagram ด้วยเช่นกัน 

ล่าสุด หลังจากเปิดให้ผู้ใช้งานบน Facebook และ Instagram ได้ทดลองใช้ฟีเจอร์ Facebook Pay แล้ว ทางทีมผู้พัฒนาได้มองเห็นโอกาสและเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการใช้งานฟีเจอร์ Facebook Pay จึงได้พัฒนาฟีเจอร์สำหรับการทำธุรกรรมไปยังแอปพลิเคชัน Whatsapp โดยใช้ชื่อฟีเจอร์ว่า Whatsapp Pay  

ปัจจุบันฟีเจอร์ Whatsapp เปิดให้ใช้งานแล้วในประเทศบราซิล ซึ่งเร็ว ๆ นี้ Facebook ได้วางแผนที่จะขยายขอบเขตการใช้งานฟีเจอร์ไปยังประเทศอื่น ๆ  ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมครับกับการอัปเดตในครั้งนี้ 

 

6. เพิ่มประสิทธิภาพการตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว 

อีกหนึ่งความน่าสนใจของการอัปเดตบนแพลตฟอร์ม Facebook ในครั้งนี้คือ ทีมพัฒนา Facebook ได้พัฒนาฟีเจอร์ Messenger เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ในการแชทที่สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถกดดูรูปภาพหรือวิดีโอที่ได้รับจากคู่สนทนา พร้อมทั้งตอบกลับข้อความในรูปภาพหรือวิดีโอดังกล่าวได้ในทันที อีกทั้งยังสามารถแสดงความรู้สึกโดยการใช้อิโมจิเพื่อตอบกลับข้อความได้อีกด้วย 

ซึ่งอาจดูเหมือนเป็นการอัปเดตเพียงเล็กน้อย แต่การอัปเดตในครั้งนี้สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดี และทำให้พวกเขาสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วย 

 

สรุป

จบไปแล้วครับกับบทความ Update! การเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ จาก Facebook และ Instagram ประจำเดือนมิถุนายน และ กรกฎาคม  2021 ซึ่งเป็นบทความเกี่ยวกับการอัปเดตของ Facebook และ Instagram ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม หรือ 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เราได้รับรู้ว่าถึงแม้สถานการณ์ Covid-19 ในปัจจุบันจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากเพียงใด ทีมผู้พัฒนา Facebook และ Instagram ก็ไม่คิดที่จะหยุดพัฒนาและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่จะสามารถช่วยเหลือเศรษฐกิจและธุรกิจต่าง ๆ ของผู้คนในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ดีสำหรับการทำธุรกิจ เพราะถึงแม้ว่าธุรกิจจะประสบปัญหามากแค่ไหน ก็ควรที่จะมองหาทางออกและวิธีรับมืออยู่เสมอ รวมถึงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อที่ธุรกิจจะสามารถดำเนินต่อไปได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน 

https://embedsocial.com