5 Business Model แปลกใหม่ที่เกิดขึ้นในยุค Digital Transformation

5 Business Model แปลกใหม่ที่เกิดขึ้นในยุค Digital Transformation

เมื่อยุค Digital Transformation เริ่มเข้ามามีบทบาทในโลกธุรกิจ การปรับ Business Model สู่การเป็นองค์กรดิจิทัลให้ทันโลก มุ่งเน้นเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นหัวใจหลัก เป็นหมากสำคัญในการบริหารธุรกิจไปโดยปริยาย

ในที่นี้ยุค Digital Transformation คืออะไร ? พิมพ์นิภา บัวแสง นักวิเคราะห์จาก Economic Intelligence Center (EIC) กล่าวอธิบายไว้ว่า “ยุค Digtal Transformation เป็นยุคสมัยที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว เห็นได้จากการมีระบบคลังเก็บข้อมูล Cloud, Big Data, Internet of Things (IoT), สมาร์ทโฟน, ดีไวซ์, โซเชียลมีเดีย และเทคโนโลยีอื่น ๆ อีกมากมาย

โดยหัวใจหลัก ๆ ของยุค Digital Transformation คือ การมุ่งเน้นนำ Digital Technology มาปรับใช้กับทุกส่วนของธุรกิจ

ตั้งแต่กระบวนการทำงาน, สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์, การตลาด, วัฒนธรรมองค์กร และการกำหนดเป้าหมายการเติบโตในอนาคต เพื่อให้ธุรกิจปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์ธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกทุกวันนี้” พิมพ์นิภา เธอขยายความเอาไว้คร่าว ๆ ในนิตยสารการเงินการธนาคาร ฉบับเดือนมกราคม 2018 ที่ผ่านมา

สรุปว่า Age of Digital Transformation เป็นยุคทอง หรือแค่ยุคลองของ ?

นอกเหนือจาก Business Model โมเดลธุรกิจหารายได้ เงินทุนหมุนเวียน การจัดหาเงินทุน และ Business Model บริหารงาน เพื่อก้าวข้าม Comfort Zone ให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจมากกว่าที่เคย

แน่นอนว่า การเปลี่ยนผ่านองค์กรเข้าสู่ยุค Digital Transformation นั้นไม่มีสูตรตายตัว ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จากสถิติสำรวจของนิตยสารธุรกิจชั้นนำระดับโลก Forbes พบว่า กว่า 84% ขององค์กรธุรกิจต้องพลาดฝัน ในยุค Digital Transformation

สำหรับเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้บริษัทฯ ล้มเหลวในการเปลี่ยนเข้าสู่ยุค Digital Transformation คือ ผู้นำองค์กรยังขาดความชัดเจนในการวิเคราะห์ให้ขาด ตรงจุดว่า ดิจิทัลจะนำมาปรับใช้ในองค์กรได้อย่างไร และไม่มีการวางแผนที่เป็นระบบให้เหมาะสมกับสภาพจริงของธุรกิจนั้นเอง

ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า มีธุรกิจที่ตื่นตัวกับยุค Digital Transformation เช่น ธุรกิจค้าปลีก, ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และมีเดีย, อุตสาหกรรมการผลิต, อุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร, การประกันภัย, ขนส่งและโลจิสติกส์,สาธารณูปโภค, การแพทย์และสุขภาพ เป็นต้น

 

ผู้เล่นรายใดบ้างที่กระโดดเข้าสู่ยุค Digital Transformation แล้ว

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ตัวอย่างกรณีน่าศึกษาในเมืองไทยเช่น นิตยสารแพรวที่ส่ง Celeb Blog ดังเป็นพลุแตกด้วย สู่ขวัญ  บูลกุล ที่หันมาทำ content วิดีโอร่วมกับนิตยสารแพรว ราวกับชุบชีวิตนิยตสารแฟชั่นในตำนานให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในสนามใหม่

หรือแม้กระทั่งการใช้ Line Beacon โดยโรงพยาบาลสมิติเวช เข้ามาช่วยให้บริการแก่ลูกค้าโรงพยาบาลที่มาใช้บริการในโรงพยาบาล บนแนวคิดว่า “ไม่มีใครอยากมาโรงพยาบาล” เพื่อสร้างความประทับใจครั้งใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่มีการใช้งานระบบนี้

สำหรับรายละเอียดการใช้ของ Line Beacon เทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการส่งข้อมูลระยะสั้นผ่าน Bluetooth Low Energy เมื่อเดินเข้าไปในพื้นที่ Line Beacon จะส่งข้อมูลที่น่าสนใจ คูปองมีความจำเป็น เชิญชวนให้ไปใช้งาน หรือเลือกประยุกต์ใช้ได้ตามความต้องการของผู้ให้บริการได้เลย

เพื่อกระโดดเข้าสู่ The golden age of Digital Transformation ยุคทองของการนำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจ เรามารู้จัก 5 Business Model ไอเดียธุรกิจแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อใช้จุดประกายในทำธุรกิจที่เรารักไปพร้อมกันเลยดีกว่า

 

#1 ลดราคาก่อน ไว้โกยกำไรทีหลัง

สำหรับ Business Model ลดราคา กวาดส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ในอุตสาหกรรม เพื่อฟันกำไรในภายหลัง

อธิบายให้เห็นชัดเจนขึ้น เกี่ยวกับ Business Model นี้ ผู้ที่นำเทรนด์นี้ไม่ใช่ใครอื่น อีคอมเมิร์ซค่าย Amazon กำหนดเป้าหมายตลาดใหญ่

การจู่โจมตลาดและลูกค้า ด้วยการขายสินค้าในราคาที่ต่ำสุดด้วยการเจรจาร่วมกับคู่ค้าซัพพลายเออร์ลงทุน และไม่ลืมดูแลการจัดส่งให้รวดเร็ว และบริการที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นแม่เหล็กสำคัญในการชิงเค้กก้อนโตแย่งส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

อย่างไรก็ดี รูปแบบธุรกิจของ Amazon เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้บริษัทเติบโตคิดเป็นร้อยละ 27 ต่อปี ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

ขณะที่ธุรกิจ Priceline ในฟากการให้บริการห้องพัก รถเช่า และตั๋วเครื่องบินอย่างธุรกิจ OTA หรือ Online Travel Agency ที่โลดแล่นมาก ๆ ในสังเวียนออนไลน์

พูดว่า Priceline อาจจะยังไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่า Agoda และ Booking คงจะต้องร้อง “อ้อ !!” ไปตาม ๆ กัน เพราะ บริษัทนี้เป็นเจ้าของทั้งสองเว็บไซต์ดังกล่าว

ถึงจะมีคู่แข่งมากหน้าหลายตา และไม่มีโรงแรม หรือสินทรัพย์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวสักชิ้น แต่ Priceline ก็ทำธุรกิจนี้ได้ ด้วยการพัฒนาระบบจองให้ดีเยี่ยม โฆษณาให้มียอดจองกระเตื้อง พร้อมกับนำเสนอราคาที่ไม่แพง หวังเคลมผู้บริโภคให้ติดอกติดใจใช้งานบ่อย ๆ

เมื่อมียอดจองโรงแรม หรือบริการต่าง ๆ เกิดขึ้นผ่านระบบ บริษัท Priceline ก็รับค่าคอมมิชชั่นไปนอนกอดเต็ม ๆ

 

#2 เสนอขายด้วยราคาแพงที่สุด

การถือข้อมูลมหาศาล Big Data อาจจะไม่ทำให้คุณชนะในธุรกิจได้ แต่วิเคราะห์ข้อมูลให้ได้ และนำมาใช้ให้ถูกต้อง กลายเป็นอาวุธสำคัญของธุรกิจ

ดังเช่น การค้นหาลูกค้าที่มองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่มีใครสามารถให้ได้ นวัตกรรมที่เหนือระดับ เพื่อให้ลูกค้ายอมจ่ายเงินเกือบครึ่งล้านเหรียญต่อปี นั่นคือสิ่งที่ Alexion Pharmaceuticals ทำ

จากสถิติผู้ป่วยชาวอเมริกันกว่า 8,000 รายที่ป่วยด้วยโรคระบบภูมิคุ้มกันเกี่ยวกับเลือด Paroxysmal nocturnal hemoglobinuria (PNH) บางส่วนของคนเหล่านี้จัดให้มี บริษัท ประกันหรือรัฐบาลสหรัฐฯจ่ายเงิน $ 569,000 ต่อปี เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ยา Soliris ราคาแพงของ Alexion เพื่อมีชีวิตอยู่รอดได้

เป็นรูปแบบธุรกิจที่ยอดเยี่ยมเลยก็ว่าได้ นอกจากยาราคาแพงแล้ว Alexion ยังมีนวัตกรรมอื่น ๆ ที่ผลิตมา เพื่อบำบัดโรคอื่น ๆ และยาควบคุมภูมิคุ้มกันสำหรับคนไข้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะอีกด้วย

ช่วง 10 ปี ที่ผ่านมาหุ้นของ Alexion พุ่งทะยานขึ้นร้อยละ 2,250 ต่อปี ขณะที่รายได้ของบริษัท Alexion ขยายตัว 106 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ก้าวสู่ 1,600 ล้านดอลลาร์

 

#3 ล้ำสมัย เติมความสะดวกสบาย

เมื่อระบบ AI เข้ามามีส่วนในชีวิตประจำวันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อนาคตของระบบรถยนต์ไร้คนขับที่กำลังจะเกิดขึ้นจริง ๆ เห็นว่า ล่าสุดรถยนต์ไร้คนขับของ Google ได้ทดสอบการทำงาน โดยวิ่งในถนนไปแล้วกว่า 1.5 ล้านไมล์

ร้านค้าไร้แคชเชียร์ก็เป็นอีกโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจสุด ๆ เป็นเรื่องที่น่าสนใจเลยทีเดียว  เป็นสิ่งที่น่าจับตามองไม่น้อย จากการตัดสินใจ Back to basic แบบ Online to offline (O2O)ก้าวจากโลกออนไลน์สู่โลกจริง ๆ ของยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ Amazon

หลังจากเลือกกว้านซื้อหุ้นของร้านค้าปลีกโชว์ห่วย Whole Food ที่ซื้อมาเมื่อปี 2017 เพื่อนำมาทำร้านค้าไร้แคชเชียร์ เรียกเสียงฮือฮาอย่างมากชนิดที่ตีพิมพ์ข่าวลงทุกสื่อ

การผนวกทุกอย่างที่มีเข้าด้วยกันอย่างสมูทไร้ที่ติ ตั้งแต่ระบบแอปพลิเคชัน ระบบจ่ายเงิน ระบบร้านค้า และอื่น ๆ ของอเมซอน นั่นทำให้ทั้งโลกต้องหันมาปรับตัวกันยกใหญ่อีกครั้ง

 

#4 ทดลองใช้ก่อน พอใจค่อยซื้อ

เคยไหมก่อนจะซื้อสินค้าอะไรสักชิ้น ต้องยืนทดลองสินค้าเป็นเวลานานสองนาน จะซื้อก็ไม่กล้าซื้อ โดยเฉพาะเครื่องสำอางใหม่ ๆ ที่ไม่เคยใช้ หากซื้อไปก็หวั่นใจ กลัวว่าใช้ไปหน้าจะพัง

เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับ Business Model ขายเครื่องสำอางออนไลน์ แบบให้เทสก่อน ชอบซื้อทีหลัง

สำหรับการใช้งาน อีคอมเมิร์ซแหวกแนวภายใต้ชื่อ Birchbox ถูกใจใช้ดีแล้วค่อยซื้อ ก็ไม่ยากเย็นเลย ทาง Birchbox จะส่งกล่องมาให้ที่บ้านของสมาชิก

คล้ายกับการรอของขวัญจากซานต้าครอสยังไงอย่างนั้น เพราะก่อนที่จะได้รับสินค้าสมาชิกต้องกรอกข้อมูลสำคัญของตนเองให้ครบครันก่อน เช่น สภาพผิว สีผม การแต่งตัว สไตล์การแต่งหน้า ข้อมูลทุกอย่างต้องแน่น เพื่อให้ทาง Birchbox ส่งสินค้ามาให้ทดลอง 4-5 ชิ้นต่อเดือน เฟ้นหาเครื่องสำอางตามข้อมูลที่ลูกค้าระบุไว้ข้างต้น (ค่าสมัครสมาชิกประมาณ 10 ดอลลาร์/เดือน) คือถ้าสนใจก็กลับมาซื้อบนแพลตฟอร์ม Birchbox ได้

ถ้าถูกใจใช้ดีก็ไปคอมเมนต์บอก หรือถ้าใช้แล้วไม่โอเคก็บอกได้ สมาชิกก็จะได้รับแต้มพิเศษเพื่อแลกสินค้าขนาดปกติ หรือแนะนำเพื่อนมาใช้ก็จะได้สิทธิพิเศษอื่น ๆ มากมาย

โดยแนวคิดดังกล่าวเกิดจาก Hayley Barna และ Katia Beauchamp สองสาวพนักงานออฟฟิศที่รักการแต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจ ประสบความสำเร็จอย่างมากในสหรัฐอเมริกา และแคนาดา

 

#5 เข้าถึง เข้าใจผู้บริโภคอย่าง Exclusive

สำหรับ Business Model นี้ ขอยกตัวอย่างธุรกิจ Hukkster ก่อตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายให้สิทธิพิเศษกับลูกค้าตั้งแต่เปิดเข้ามาหน้าเว็บไซต์

ช้อปปิ้งให้ฟินเหมือนหาคู่รัก แปลกยังไงก็แค่ช่องทางอีคอมเมิร์ซช้อปปิ้งแล้วมีส่วนลด ด้วยแคมเปญที่สนุกยิ่งกว่า ด้วยการกดรับส่วนลดสูงสุด 70% แบบ Real Time สำหรับซื้อสินค้า ช่วยกระตุ้นยอดขาย

Hukkster ก่อให้เกิดการช้อปปิ้งคล้าย ๆ กับแอปพลิเคชันหาคู่ Tinder ยังไงอย่างนั้น เห็นว่าลูกค้าที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Hukkster ติดหนึบชนิดที่ต้องติดตามโปรโมทชั่นใหม่ ๆ อยู่ทุกวันผ่านอีเมล และการแจ้งเตือนผ่านมือถือ

แม้จะเป็นเว็บไซต์ขายของ แต่ Hukkster มีรายได้หลักจากพาร์ทเนอร์ที่ยินดีจ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับปรับแต่งอีเมลการแจ้งเตือนการขายที่ดีกว่า

นอกจากนี้ยังมีคอนเทนต์สายไลฟ์สไตล์จาก Popsugar ที่สามารถดึงดูดให้ผู้ชมดูวิดีโอบนเฟสบุ๊คเพจได้นานถึง 30 วินาที หรือนานมากกว่านั้น โดยผู้บริหารเลือกเล่าเรื่องให้เด็ดตั้งแต่ 2-3 วินาทีแรกที่วิดีโอเริ่ม

เรียกได้ว่า Popsugar นำเสนอข้อมูลทุกอย่างที่คุณอยากรู้แบบเข้าใจแล้ว ยังมีกิจการเสิร์ชเอ็นจิ้นด้านการช้อปปิ้งอย่าง ShopStyle เข้ามาช่วยเสริมแกร่งให้แบรนด์ปังดังแรง ด้วยจำนวนผู้ชมกว่า 41 ล้านคน และเพจที่มียอดวิวรวมกว่า 234 ล้านครั้งต่อเดือน

 

ข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของ Business Model ในยุค Digital Transformation เท่านั้น เมื่อการเปลี่ยนแปลงมาถึง แล้วคุณล่ะพร้อมแค่ไหน ?

 

Kanokwan Chantorn
Content Team (STEPS ACADEMY)

 

Source:
https://www.forbes.com/sites/ericwagner/2013/05/23/5-key-business-model-components/#2c2e6a2f4051

https://www.entrepreneur.com/article/233451

https://www.scbeic.com/th/detail/product/4327

https://mashable.com/2014/06/16/unique-business-models/#Pky9GEACggqi

How PopSugar gets people to watch its Facebook videos for 30 seconds

 

เรียนสอบถาม คอนเทนต์นี้ คุณชอบไหมคะ

ความคิดเห็นของคุณมีความสำคัญกับเรา ขอบคุณนะคะ

Learn More

Adapt or Die เมื่อ Digital Economy รุกคืบนักธุรกิจไทยควรรับมืออย่างไร?
23 เว็บไซต์ แหล่งเครื่องมือทำ Content สำหรับผู้ประกอบการ