ในปัจจุบัน นอกจากเราต้องคิดในการวางแผนสินค้า และ การบริการที่ตอบโจทย์กับลูกค้าแล้ว สิ่งนึงที่สำคัญ คือ การวิเคราะห์คู่แข่งประกอบกันไปด้วย เพราะการที่สินค้า และ การบริการที่ของเราคล้ายกับคู่แข่ง ทำให้ต้องดูในเรื่องของเทรนด์การบริโภค และ เทคโนโลยี ในเรื่องของการทำแคมเปญตลาด เพื่อการสื่อสารที่ตอบโจทย์กับลูกค้ามากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ Marketing Technology หรือ Martech สามารถทำได้ วันนี้ทาง STEPS Academy จะพาไปรู้จักกับ Martech และแนะนำ 10 เครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์คู่แข่งแบบออนไลน์ ใช้งานได้ง่าย และ สะดวกครับ
Marketing Technology คืออะไร ?
Marketing Technology หรือ Martech คือเทคโนโลยีที่รวมถึงเครื่องมือ (Tools) และ ระบบ (Platform) ที่พัฒนาเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในด้านกิจกรรมทางการตลาด (Marketing) ทั้งเพื่อการจัดการแคมเปญทางการตลาดที่ง่ายขึ้น การสื่อสารกับลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น และการวัดผลได้แม่นยำขึ้น เป็นต้น
วิดีโออธิบายเกี่ยวกับ Marketing Technology
“ดังนั้น ผู้ประกอบการที่กำลังเริ่มทำ Digital Marketing รวมถึงนักการตลาด สามารถใช้ Martech ช่วยในการวิเคราะห์คู่แข่งเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่ใช้ในการทำการตลาด และยังช่วยในการสร้างปฎิสัมพันธ์กับลูกค้าได้อีกด้วยครับ ”
ทำไมเราถึงควรใช้ Marketing Technology ?
ในการทำช่องทางดิจิทัล (Digital Marketing) เราก็อยากสร้าง Awareness ให้กับธุรกิจของเรา หรือ เพิ่ม Conversion และปรับปรุงการมีส่วนร่วม และ จะเพิ่มประสิทธิภาพในแคมเปญส่งเสริมการขายได้อย่างไรบ้าง คำตอบทั้งหมดคือการใช้เทคโนโลยี Martech ร่วมกับการทำการตลาด ซึ่งจุดเด่นของ Marketing Technology มีดังนี้ครับ
- ช่วยเร่งกระบวนการทำงาน : การใช้ Martech จะช่วยเพิ่มความเร็วให้กระบวนการทำงานและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น Email Marketing สามารถตั้งการทำงานอัตโนมัติได้และมีส่วนร่วมกับ Lead กับลูกค้าได้ทันที
- ใช้ประโยชน์จากข้อมูลของลูกค้า : การที่เราได้ Lead จากลูกค้าของเรา มีข้อมูลที่สามารถนำไปต่อยอดได้ เช่น การแบ่งประเภท Content ตามความสนใจของลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยใช้เครื่องมือ Martech ในการแบ่งประเภท เป็นต้น
- เพิ่มโอกาสในการสร้างการรับรู้แบรนด์(Brand Awareness) : การที่จัดการแคมเปญการตลาดด้วยตัวเองจะใช้เวลานานและไม่มีประสิทธิภาพ Martech จึงเป็นตัวเลือกในการส่งออกแคมเปญไปยังลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณได้อย่างต่อเนื่อง
- สามารถวางแผนการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ : ช่วยให้สามารถตั้งค่าการเดินทางของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มต้นบน Social Media ของเรา และ จบลงด้วยการซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราครั้งสุดท้าย ด้วยเทคโนโลยี Martech เราสามารถจัดการแนะนําและตรวจสอบผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าของเราได้ในทุกขั้นตอน
เครื่องมือ Martech ที่ช่วยในการวิเคราะห์คู่แข่งมีอะไรบ้าง ?
วันนี้เราขอแนะนำ 10 เครื่องมือ Martech ที่ช่วยในการวิเคราะห์กลยุทธ์ของคู่แข่งของคุณ ดังนี้
1. Ubersuggest
2. Google Keyword Planner
3. SimilarWeb
4. Alexa
5. BuzzSumo
6. Sprout Social
7. SpyOnWeb
8. Competitor Analysis from WooRank
9. Ahrefs
10. Feedly
1. Ubersuggest
เป็นเครื่องมือ SEO แบบ All-in-One ที่ให้การวิเคราะห์การแข่งขันและข้อมูล SEO เราสามารถใช้เพื่อสํารวจแนวคิดเนื้อหาใหม่ ค้นหาKeywordและได้ว่าคู่แข่งของเรากำลังทำอะไรอยู่ นอกจากนี้ยังมีส่วนขยาย Chrome Ubersuggest เพื่อให้เราได้รับข้อมูลเกี่ยวกับ keyword ในการเข้าชมเว็บไซต์ที่เราสนใจ
การใช้งานที่ดีที่สุดสําหรับเครื่องมือนี้ :
- ดู Content และ Keyword ใดที่ทํางานได้ดีที่สุดสําหรับคู่แข่งของเรา
- ค้นหา Keyword ที่จะกําหนดเป้าหมาย
- รับแรงบันดาลใจจาก Content
- ค้นหาคู่แข่งใหม่
ราคา : ฟรีแต่ใช้ฟังก์ชันได้แบบจำกัด หรือสามารถรับแผนชําระเงินเริ่มต้นที่ $ 29 ต่อเดือน
2. Google Keyword Planner
เป็นเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นโดย Google เอง เหมาะสำหรับคนที่วางแผนลงโฆษณาผ่านทาง Google Adwords ช่วยในการค้นหา Keyword ที่คนทั่วโลกใช้ในการค้นหาผ่านทาง Google ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์คู่แข่งโดยเฉพาะ แต่เหมาะกับการค้นหาข้อมูลคู่แข่งของเราเพื่อในการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้น
การใช้งานที่ดีที่สุดสําหรับเครื่องมือนี้ :
- ค้นหาข้อมูล Keyword ของคู่แข่ง (แบบชําระแล้วและแบบ Organic)
- ตรวจสอบเว็บไซต์ของเราเองรวมถึงคู่แข่งของเรา
ราคา : ฟรี แต่ต้องลงทะเบียนสําหรับบัญชี AdWords ฟรีเพื่อเข้าถึง
3. SimilarWeb
เครื่องมือที่ช่วยให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่เราเข้าชม ไม่ว่าจะคู่แข่ง หรือเว็บไซต์ของตัวเอง เพียงแค่พิมพ์เว็บไซต์ เราจะได้เห็นผลลัพธ์ในรูปแบบแบบอันดับโลก, อันดับประเทศ และอันดับหมวดหมู่ของเว็บไซต์
นอกจากนี้ เครื่องมือยังสามารถแสดงกราฟที่บอกจํานวนผู้เข้าชมรายสัปดาห์ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา สามารถที่จะดูจํานวน Lead ที่มาจากโซเชียล,การค้นหา,การอ้างอิงโฆษณาแบบดิสเพลย์ เป็นต้น
การใช้งานที่ดีที่สุดสําหรับเครื่องมือนี้ :
- รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเว็บไซต์ที่เราสนใจ ข้อมูลออกมาเป็นกราฟิก
- รับข้อเสนอแนะของคู่แข่งที่คุณอาจต้องการดู
ราคา : มีบัญชีฟรีพื้นฐานที่มีตัวชี้วัดและข้อมูลที่จํากัด สามารถติดต่อบริษัทหากสนใจในแพ็คเกจองค์กร
4. Alexa
เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ดี และ ได้จัดอันดับเว็บไซต์มาเป็นเวลานาน (เหมือน PageRank) เครื่องมือนี้สามารถใช้ในการสอดแนมคู่แข่งของเรา (การเชื่อมโยง,การเข้าชม,Keyword ฯลฯ ) และเป็นทรัพยากรที่ดีมาก หากคู่แข่งของคุณเป็นสากล
การใช้งานที่ดีที่สุดสําหรับเครื่องมือนี้ :
- รับข้อมูลจากคู่แข่งระหว่างประเทศ
- รับการจัดอันดับของเว็บไซต์สําหรับภาพรวม
ราคา : แผนขั้นสูงคือ $ 149 / เดือนสําหรับผู้ใช้หนึ่งรายและหนึ่งเว็บไซต์ ซึ่งสามารถอัปเกรดเป็นแผนเอเจนซี่เพื่อรวมผู้ใช้ 20 คน และ เว็บไซต์ 35 แห่ง และสามารถเริ่มต้นด้วยการทดลองใช้ฟรี 14 วัน
5. BuzzSumo
เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถติดตาม Viral Content ได้ทั่วทุกมุมโลก ทั้งจาก Keyword ที่ค้นหา และ จากคู่แข่งของเรา
การใช้งานที่ดีที่สุดสําหรับเครื่องมือนี้ :
- ติดตามประเภทของเนื้อหาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสําหรับ Keyword ที่เรากําหนด
- ค้นหาเนื้อหาที่แชร์คล้ายกับของเรา
- ค้นหาว่าคู่แข่งของคุณได้รับส่วนแบ่งมากที่สุดในการแชร์ผ่านช่องทางไหน
ราคา : ทดลองได้ฟรี 1 เดือน แผนการชําระเงินมีตั้งแต่ $ 79 / เดือนถึง $ 299 / เดือนเมื่อเรียกเก็บเงินเป็นรายปี
6. Sprout Social
เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถค้นหา และ เชื่อมต่อกับผู้คนที่รักแบรนด์ของเรา ด้วยเครื่องมือในการเปรียบเทียบการวิเคราะห์ทาง Social, การมีส่วนร่วมทาง Social, การเผยแพร่ทางSocial และ รายชื่อทาง Social นอกจากนี้ เรายังสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของแฮชแท็กและบทวิจารณ์ Facebook ติดตามการมีส่วนร่วมบน LinkedIn, Facebook, Instagram และ Twitter ได้อีกด้วย
การใช้งานที่ดีที่สุดสําหรับเครื่องมือนี้ :
- ฟังสิ่งที่ผู้ชมของเราต้องการ
- ติดตามการมีส่วนร่วม
- ตรวจสอบประสิทธิภาพของแอชแท็ก
ราคา : ทดลองได้ฟรี 1 เดือน แผนการชําระเงินมีตั้งแต่ $ 99 / เดือนถึง $ 249 / เดือน
7. SpyOnWeb
เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างมากเพราะการใช้งานที่เข้าใจได้ง่าย ด้วยเครื่องมือนี้เราสามารถที่จะป้อน URL, โค้ด Google AdSense หรือ Google Analytics หรือที่อยู่ IP เพื่อค้นหาว่าทรัพยากรใดบ้างที่เป็นของเจ้าของเดียวกัน อีกนัยหนึ่งคือเมื่อเราพิมพ์โดเมนจะได้รับผลลัพธ์สําหรับที่อยู่ IP ที่แตกต่างกันทั้งหมดจากนั้นรายการโดเมนที่มีที่อยู่ IP เดียวกัน (ในบางกรณีไซต์จะมีที่อยู่ IP มากกว่าหนึ่งที่อยู่)
การใช้งานที่ดีที่สุดสําหรับเครื่องมือนี้ :
- ค้นหาที่อยู่ IP อื่นเพื่อค้นหาข้อมูลโดเมน
ราคา : ฟรี
8. WooRank
เป็นเครื่องมือที่มีข้อมูลคู่แข่ง ในด้านของการวิเคราะห์ Target Keyword สร้าง Project ของตัวเองจากนั้นจะช่วยติดตามและเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของ
การใช้งานที่ดีที่สุดสําหรับเครื่องมือนี้ :
- สร้าง Project เพื่อติดตาม
- เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของเราตามผลลัพธ์ของ Project
- สอดแนมคู่แข่งของเรา
ราคา :สําหรับเอเจนซี่พวกเขาแนะนําแผนพรีเมี่ยมสําหรับ $ 179 / เดือน สําหรับเว็บมาสเตอร์พวกเขาแนะนําแผน PRO (เพียง 1 Pro) ในราคา $ 59 / เดือน แต่เราสามารถเริ่มต้นด้วยการทดลองใช้ฟรีได้
9. Ahrefs
เป็นอีกเครื่องมือยอดนิยม มันจะแสดงให้เราได้เห็นสิ่งต่าง ๆ เช่น หน้าแรก IP และลิงก์ภายนอกเกี่ยวกับคู่แข่งของเรา เว็บไซต์มีการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยมและทํางานร่วมกับเราเพื่อให้แน่ใจว่าเราได้รับสิ่งที่ต้องการอย่างเพียงพอ
การใช้งานที่ดีที่สุดสําหรับเครื่องมือนี้ :
- ค้นหา IP และลิงก์ภายนอกไปยังคู่แข่งของเรา
ราคา :สามารถเริ่มทดลองใช้ในราคา $ 7.00 จากนั้นอัปเกรดเป็นแผนที่หลากหลายเริ่มต้นราคาที่ $ 99.00 / เดือน
10. Feedly
เป็นเครื่องมือที่ช่วยเราสามารถรู้ได้ว่า การที่คู่แข่งของเรากําลังเผยแพร่ Content ตลอดเวลา แต่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะตรวจสอบ Blog ของคู่แข่งที่มีหลายสิบ Blog ที่เราต้องการติดตาม การที่จะรู้ได้ว่าคู่แข่งของเรากําลังเผยแพร่ Content อะไร เครื่องมือตัวนี้จะช่วยตอบโจทย์ให้เราได้รับการอัปเดตเมื่อใดก็ตามที่คู่แข่งปล่อย Content ใหม่
การใช้งานที่ดีที่สุดสําหรับเครื่องมือนี้ :
- ติดตามกลยุทธ์ทางการตลาด Content ของคู่แข่งและรับการอัปเดตทันทีเมื่อเผยแพร่เนื้อหาใหม่
- ติดตาม Blog การตลาดที่คุณชื่นชอบและเรียนรู้เทคนิคใหม่ ๆ ทันทีที่เปิดตัว
ราคา : ฟรีสําหรับแหล่งข้อมูลสูงสุด 100 รายการ แผนการชําระเงินเริ่มต้นที่ $ 6 ต่อเดือน
สรุป
อ้างอิงจาก
https://neilpatel.com
https://jumpdigitaltransformation.com
https://strategyzer.com