6 ขั้นตอนการเขียน Copywriting เพื่อการขาย

6 สเต็ปการเขียนก็อบปี้สำหรับการขาย

หลายๆท่านอาจเคยเจอปัญหาเกี่ยวกับการเขียน Copywriting หรือการเขียนเกี่ยวกับสินค้าของแบรนด์อย่าง…..

  • ไม่รู้จะเริ่มเขียนอย่างไรดี
  • คิดไม่ออกจะเขียนยังไง
  • เขียน Copywriting แล้วแต่ยังขายของไม่ได้
  • เขียนแล้วไม่ดึงดูดผู้อ่าน

วันนี้จินนี่ได้นำความรู้เกี่ยวกับ 6 ขั้นตอนการเขียน Copywriting สำหรับการขาย สำหรับใครที่เคยเจอปัญหาเหมือนที่กล่าวมาข้างต้น หรือยังไม่มีสูตรการเขียน Copy บทความนี้จะช่วยคุณรู้ว่า ขั้นตอนของการเขียน Copywriting เพื่อขายสินค้านั้นต้องเขียนอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

 

หกขั้นตอนสำหรับการเขียนก็อบปี้ สำหรับการขาย

 

1. เริ่มต้นด้วยผลประโยชน์หรือจุดแข็งของสินค้า

ในการทำการตลาดการเขียนคำอธิบายหรือที่หลายๆคนเรียกว่า การเขียน Copywriting เรามักจะเขียนคุณลักษณะ ฟีเจอร์ต่างๆของสินค้า ซึ่งข้อความเหล่านี้มีหน้าที่เพียงบอกไปยังผู้อ่านว่าสินค้าบริการของแบรนด์มีลักษณะเป็นอย่างไร ทำอะไรได้บ้าง แต่สิ่งสำคัญที่ผลกระตุ้นให้ผู้อ่านขยับกลายเป็นผู้สนใจและมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าบริการของเรา อยู่ที่การบอกผู้อ่านได้ว่าประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับจากสินค้าบริการของเราคืออะไร จะช่วยให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นอย่างไร

ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องแสดงให้กลุ่มเป้าหมายเห็นว่าสินค้าของคุณเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาอย่างไร

สิ่งนี้จะเป็นเครื่องเตือนให้คุณมุ่งเน้นไปที่เหตุผล ผลประโยชน์ที่พวกเขาควรซื้อมากกว่าการบอกคุณสมบัติของสินค้า

 

ตัวอย่างที่ 1 :  หลักสูตรการรับรองการทำ CPR จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์คนแรกอย่างครู และผู้ที่ทำงานในฐานะดูแลบุคคลอื่นๆ ในตัวอย่างนี้คุณครูทิช่า ครูโรงเรียนประถมศึกษาและเป็นอาสาสมัครนักผจญเพลิงต้องการหาหลักสูตรที่แบ่งการทำ CPR ออกเป็นช่วงสั้นๆ ที่สามารถจะแบ่งเข้าไปในตารางการทำงานของเธอได้

โดยการใช้ Copy : เรียนรู้การทำ CPR ภายในสามสัปดาห์ – ศึกษา 15 นาทีต่อวัน

ตัวอย่างที่ 2 : ธุรกิจโรงแรมแห่งหนึ่งในหัวหิน ต้องการโฆษณาที่พักสำหรับครอบครัวในช่วงวันหยุด

โดยใช้ Copy : ใช้เวลาวันหยุดร่วมกับคนที่คุณรักเพราะช่วงเวลาสำคัญนี้มีเพียงครั้งเดียว ห้องพักที่ตอบโจทย์ครอบครัวกับลูกน้อยของคุณและกิจกรรมครอบครัวมากมาย

 

แสดงถึงจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ของสินค้า
แสดงถึงจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ของสินค้า

ที่มา klientboost.com

 

ตัวอย่างที่  3 : การเรียนรู้การทำ CPR ให้พลังแก่คุณในการช่วยชีวิตผู้อื่นและคุณจำเป็นต้องมีการรับรองที่สำคัญนี้

ตัวอย่างการเขียนเล่าประโยชน์สินค้าและบริการ

 

2. ขยายประโยชน์ให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น

 

ในขั้นตอนที่สองเราจะนำผลประโยชน์สิ่งที่ผู้อ่านจะได้นั้น มาขยายให้เห็นภาพมากขึ้น และทำให้พวกเขารู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเพิกเฉยได้ โดยการเปลี่ยนมุมมองของผู้อ่านให้เห็นความสำคัญมากยิ่งขึ้น อธิบายถึง ข้อดี จุดเด่น ว่าสินค้าบริการของคุณจะช่วยให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น สะดวก ประหยัดเงิน ประหยัดเวลา อย่างไร 

ตัวอย่างที่ 1  : ห้องพักที่ความเป็นส่วนตัวและเตียงสำหรับลูกน้อย พร้อมกับเครื่องเล่นต่างๆ ที่ทำให้คุณได้มีช่วงเวลาที่พิเศษกับครอบครัวอย่างอบอุ่น พร้อมกับกิจกรรมการทำขนมเค้กที่จัดขึ้นพิเศษให้คุณและเด็กได้ทำกิจกรรมร่วมกัน

 

3. การแสดงหลักฐานยืนยัน

 

ตัวอย่างการเขียนเพื่อแสดงหลักฐานยืนยัน
ตัวอย่างการเขียนเพื่อแสดงหลักฐานยืนยัน

ที่มา  klientboost.com

 

กลุ่มเป้าหมายของคุณจะให้ความสนใจกับข้อความที่มีสถิติ การรับรองจากลูกค้า หรือการรีวิวนั้นเองค่ะ ซึ่งพวกเขาให้ความสนใจและเวลาในการอ่านโฆษณา หรือคำอธิบายที่มาจากธุรกิจของเรา แต่พวกเขาก็ไม่ได้เชื่อในสิ่งที่เราบอกฝ่ายเดียวว่า สินค้าของเราดี สินค้าของเราทันสมัยกว่า แต่พวกเขาต้องหลักฐานยืนยันด้วยว่า สินค้าบริการของคุณดีกว่าอย่างไร

ซึ่งยิ่งในยุคของโลกออนไลน์แล้วผู้บริโภคมักมีความสงสัยและต้องการข้อมูลหลักฐาน ดังนั้นคุณควรมอบความน่าเชื่อถือให้กับพวกเขา

ตัวอย่างที่ 1 : การทำ CPR สามารถช่วยเหลือชีวิตคนนับล้านทั่วโลกในแต่ละปี ซึ่งจอนส์เป็นอาจารย์สอนการทำ CPR ที่ได้รับการรับรองจากครูและพนักงานอาสาสมัครดับเพลิงหลายท่าน โดยใช้ทักษะการทำ CPR เพื่อช่วยให้ผู้ที่ตกเป็นเหยือหลายสิบคนยังคงมีชีวิตอยู่

 

ตัวอย่างที่ 2 : โรงแรมของเราเหมาะสำหรับการมาพักแบบครอบครัวโดยเฉพาะจากคำแนะนำ XX กว่าครอบครัวในทุกปีที่เลือกมาพักกับเรา

 

4. บอกถึงสิ่งที่พวกเขาต้องสูญเสีย

 

ผู้คนมักมีแรงผลักดันที่จะหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด ความรู้สึกไม่สบาย มากกว่าที่พวกเขาจะได้รับความเพลิดเพลิน ซึ่งเป็นกฏของธรรมชาติที่สามารถเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้ดี จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องบอกกลุ่มเป้าหมายของคุณใน Copywriting ว่าพวกเขาจะต้องสูญเสียอะไรบ้างหากมองข้ามสินค้าบริการของคุณ เพราะเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าลงมือตัดสินใจไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจสูญเสียอะไรบางอย่าง

 

ตัวอย่างที่ 1 : คุณไม่ต้องเข้าคอร์สนี้คุณก็สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนกระทั่งวันหนึ่งที่คุญต้องเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่คุณไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้

ตัวอย่างที่ 2 : การพักผ่อนเราสามารถไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ช่วงเวลาที่คุณจะได้ดูลูกน้อยของคุณสนุกสนานและช่วงเวลาที่ได้ใช้ด้วยกันมีเพียงครั้งเดียว

5. สรุปผลประโยชน์ที่สำคัญที่สุด

 

สรุปผลประโยชน์ที่สำคัญที่สุดที่ลูกค้าจะได้รับ
สรุปผลประโยชน์ที่สำคัญที่สุดที่ลูกค้าจะได้รับ

https://keap.com

 

เมื่อคุณได้แสดงให้พวกเขาเห็นถึงความเจ็บปวดแล้ว ในขั้นตอนนี้คุณเตือนพวกเขาว่าไม่จำเป็นต้องเจอสถานการณ์เหล่านั้นที่พวกเขาอ่านไป โดยการสรุปประโยชน์ที่ยอดเยี่ยม ที่พวกเขาจะได้รับตั้งแต่แรกเพื่อบอกให้กลุ่มเป้าหมายรู้ว่าทำไมถึงต้องกระตุ้น เพราะว่าเราหวังดีและไม่อยากให้ลูกค้าของเราต้องเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้ายเหล่านั้น

 

นี้เป็นโอกาสสุดท้ายของคุณที่จะบอกถึงคุณค่าของสินค้าบริการของแบรนด์ซึ่งจะนำไปสู่ผู้อ่าน และเป็นโอกาสที่จะขยับจากผู้ที่ให้ความสนใจกลายเป็นลูกค้าในที่สุด

ตัวอย่างที่ 1 : ความฝันการเป็นครู โค้ช หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ นักดับเพลิง เป็นฝันที่ดีเลิศและสวยงาม แต่คุณจะต้องลงทุนด้วยตนเอง หยุดการพลัดวันประกันพรุ่ง หลักสูตรนี้ให้พลังชีวิตและความตายอยู่ในมือของคุณ และช่วยให้คุณมั่นใจในการก้าวไปสู่อาชีพที่มีความหมายกับชีวิตคุณมากขึ้น

ตัวอย่าง2 : อย่าปล่อยให้ช่วงเวลาและประสบการณ์ที่น่าจดจำระหว่างคุณกับลูกน้อยได้ผ่านไปอย่างไม่มีความหมาย เพียงคุณมาพักผ่อนใช้เวลาที่โรงแรมของเรา และมาทำกิจกรรมที่สุดแสนพิเศษด้วยกัน พิเศษจองภายในเดือนนี้รับฟรีภาพถ่ายระหว่างกิจกรรมเก็บไปเป็นที่ระลึก

 

6. จบท้ายด้วย Call-to-action

 

ตัวอย่างการเขียนปิดท้ายด้วย Call to Action
ตัวอย่างการเขียนปิดท้ายด้วย Call to Action

ที่มา adespresso.com

 

หากคุณไม่ได้ขอให้ผู้อ่านดำเนินการบางอย่างหรือต้องทำอะไรต่อในตอนท้ายของ ก็เหมือนกับคุณไม่ได้เขียนข้อความใดๆมาก่อน ต่อให้คุณเขียนได้น่าสนใจมากแค่ไหนแต่ตอนท้ายไม่มีขั้นตอนถัดไปที่ชัดเจนว่าให่พวกเขา สอบถามข้อมูล ลงทะเบียน ฯลฯ การเขียนครั้งนี้อาจไม่ได้ผลใดๆ ดังนั้นให้เขียน Call to action ที่เข้าใจง่ายและตรงไปตรงมา อย่าทำให้ผู้อ่านต้องคิดเยอะหรือทำความเข้าใจนาน

 

ตัวอย่าง1 : ลงทะเบียนเพื่อเรียนรู้การทำ CPR วันนี้ สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ www.pppp.com

หรือโทรหาเราที่ 08x-xxxx-xxx เรียนการทำ CPR

ตัวอย่าง2 : อย่าปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป สามารถลงทะเบียนของได้ที่ www.hotelsss.com

หรือโทรติดต่อได้ที่ 09x-xxxx-xxx

 

ตัวอย่าง เทคนิกการเขียนแบบ Call to Action ที่ระบุประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ
ภาพจาก https://www.elenadefrancisco.com

 

สรุป

ขั้นตอนการเขียน Copywriting ที่สามารถนำไปใช้แล้วได้ผล ทำให้แบรนด์สามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้า มีเทคนิคดังนี้ค่ะ

  1. เริ่มต้นด้วยผลประโยชน์หรือจุดแข็งของสินค้า
  2. ขยายประโยชน์ให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น
  3. การแสดงหลักฐานยืนยัน
  4. บอกถึงสิ่งที่พวกเขาต้องสูญเสีย
  5. สรุปผลประโยชน์ที่สำคัญที่สุด
  6. จบท้ายด้วย call-to-action

 

ที่มา:

  • https://blog.hubspot.com
  • https://www.learndash.com
  • https://www.websites24-7.co.uk

เรียนสอบถาม คอนเทนต์นี้ คุณชอบไหมคะ

ความคิดเห็นของคุณมีความสำคัญกับเรา ขอบคุณนะคะ

Learn More

E-A-T : 3 เทคนิคการเขียน SEO ให้ถูกใจ Google
5 ปัจจัยในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า พร้อมยอดขายบนโลกออนไลน์ด้วย Engagement Marketing