ในยุคที่คอนเทนต์จากช่องทางต่าง ๆ มีการแข่งขันกันสูงมาก หลาย ๆ แพลตฟอร์มจึงหันมาทำโปรแกรม Subscriptions เพื่อกระตุ้นให้ครีเอเตอร์ใส่ใจพัฒนาคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์กลุ่มแฟนคลับมากขึ้น ในขณะเดียวกันฝั่งแฟนคลับตัวยงก็จะสามารถแสดงความชื่นชอบผ่านการจ่ายเงินสนับสนุนเหล่าครีเอเตอร์ในดวงใจได้อีกด้วย
ระบบ Subscriptions คืออะไร ?
ระบบ Subscription คือโมเดลธุรกิจที่ให้เหล่า Followers ของโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ สามารถสมัครเป็น Subscribers ได้ผ่านการจ่ายค่าสมาชิกรายเดือนแก่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่พวกเขาชื่นชอบและเป็นแฟนคลับตัวยง แลกกับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่พวกเขาจะได้รับมากกว่าผู้ติดตามทั่วไป เช่น ได้รับชมคอนเทนต์สุดพิเศษ ได้เห็นอินไซต์ ได้พูดคุยกับครีเอเตอร์อย่างใกล้ชิดขึ้น เป็นต้นค่ะ
อ่านรายละเอียดหลักสูตร Digital Marketing Strategy ได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ
https://stepstraining.co/digital-marketing-specialist
1.Facebook Subscriptions
ข้อดีของการทำ Facebook Subscriptions คือตัวครีเอเตอร์จะมีรายได้รายเดือนที่แน่นอนขึ้น ทำให้วางแผนได้อย่างเป็นระบบมากขึ้นว่าจะนำเงินทุนนั้นไปพัฒนาคอนเทนต์อย่างไรค่ะ
ในฝั่งของผู้ติดตามก็จะได้แสดงความชื่นชอบและให้การสนับสนุนเป็นตัวเงินนอกจากการกด Like กด Share เพียงอย่างเดียว แลกกับเครื่องหมายบอกความเป็นสมาชิก และการได้รับชมคอนเทนต์สุดพิเศษ อย่างเช่นคอนเทนต์เบื้องหลังต่าง ๆ หรือไลฟ์สดสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เป็นต้นค่ะ
เมื่อทั้งครีเอเตอร์และผู้ Subscribe ได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น ฝั่งครีเอเตอร์ก็จะจดจำ Subscribers ว่าใครเป็นแฟนคลับตัวยงได้มากขึ้น ทำให้ผลิตคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนกลุ่มนี้ได้ดีขึ้นด้วย
ซึ่งถ้าเจ้าของเพจคนไหนอยากเข้าร่วมโปรแกรม Facebook Subscriptions ก็จำเป็นต้องอยู่ในเงื่อนไขต่อไปนี้นะคะ คือ
- มีผู้ติดตามเพจ 10,000 คน หรือ มีผู้ที่กลับมารับชมคอนเทนต์อย่างน้อย 250 คน ในช่วง 60 วันที่ผ่านมา
- มียอดการมีส่วนร่วมกับโพสต์ 50,000 ครั้ง (Post Engagements)
- มียอดการรับชมวิดีโอรวม 180,000 นาที (Watch minutes)
ถ้าเพจของเราตรงตามเงื่อนไขต่อไปนี้ เราก็สามารถใส่ Call To Action ให้คนกด Subscribe ได้ภายใต้โพสต์ต่าง ๆ ที่เราสร้าง ค่ะ
นอกจากนี้ เพจที่เป็นสายเกมก็สามารถเข้าร่วมโปรแกรม Subscriptions ได้เช่นกัน แต่ต้องมีคุณสมบัติต่อไปนี้นะคะ
- มีการสตรีมเนื้อหาและแท็กเกมอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ภายใน 2 วัน จากช่วงเวลา 14 วันที่ผ่านมา
- ผู้ดูแลเพจมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
- มีผู้ติดตามอย่างน้อย 100 คน
พอคุณสมบัติผ่านแล้ว ทางเพจเกมจะเปิดรับ Subscriptions ได้ก็ต่อเมื่อสมัครเข้าโปรแกรม Level Up ก่อน ค่ะ ทั้งนี้ประเทศที่พร้อมให้บริการ Level Up ก็ยังมีอยู่จำกัดนะคะ เช่น บราซิล ออสเตรเลีย ไทย แคนาดา เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร
อ่านรายละเอียดหลักสูตร Digital Marketing Strategy ได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ
https://stepstraining.co/digital-marketing-specialist
2.Instagram Subscriptions
ผู้ที่เป็น Subscribers ของครีเอเตอร์ใน Instagram จะได้รับสิทธิประโยชน์หลายอย่าง เช่น
- ได้รับชมไลฟ์สำหรับ Subscribers : ภายในไลฟ์จะมีแค่ Subscribers ที่ข้ามาดูได้ แตกต่างจากไลฟ์ปกติที่ Followers ทั่วไปสามารถเข้ามาชมปน ๆ กับแฟนคลับตัวยง
- ได้ดู Story สำหรับ Subscribers : ครีเอเตอร์สามารถสร้าง Story สำหรับ Subscribers โดยเฉพาะ และสามารถใช้สติกเกอร์แบบอินเทอร์แอคทีฟกับ Subscribers ได้ โดยจุดสังเกตคือรอบ Story จะมีวงแหวนสีม่วงอยู่
- ได้เห็นโพสต์รูปภาพและ Reels สุดเอ็กซ์คลูซีฟ : พร้อมแคปชันสุดอินไซต์ที่จะมีแค่ Subscribers ได้เห็นเท่านั้น
- ได้เข้าร่วมแชทกลุ่มเฉพาะสำหรับ Subscribers : ทางครีเอเตอร์สามารถสร้าง Group Chat ที่มีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 30 คน เพื่อให้ Subscribers ได้พูดคุยกัน แต่กลุ่มแชทนี้จะอยู่ได้เพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น เพื่อไม่ให้รบกวนทางครีเอเตอร์มากจนเกินไป
- ได้เครื่องหมายมงกุฏสีม่วง : ฝั่งครีเอเตอร์จะทราบว่าใครเป็น Subscribers ได้โดยดูจากเครื่องหมายสำหรับสมาชิกที่แสดงอยู่ข้างๆ ชื่อแอคเคาท์ของ Subscribers คนนั้น ๆ เมื่อพวกเขาคอมเมนต์หรือส่งข้อความมา
โดยวิธีการดูคอนเทนต์สุดพิเศษในรูปแบบต่าง ๆ คือเมื่อเรา Subscribe แอคเคาท์ของ
ครีเอเตอร์คนไหนแล้ว ให้เราเข้าไปที่หน้าแอคเคาท์ของครีเอเตอร์คนนั้น ๆ จากนั้นให้คลิกแท็บ ‘โปรแกรมสมาชิก’ (Subscriptions) > ‘เนื้อหาพิเศษ’ (Exclusive Content) เพื่อเข้าไปดูคอนเทนต์สุดพิเศษจากครีเอเตอร์ที่เราได้สมัครสมาชิกไว้ค่ะ
แต่ในช่วงนี้ฟีเจอร์ Instagram Subscriptions ยังใช้งานได้ภายในบางประเทศเท่านั้น เช่น สหรัฐอเมริกา และยังต้องอาศัยการ Invite ระหว่างเหล่าอินฟลูเอนเซอร์เป็นหลัก ถึงจะสามารถเข้าใช้งานบริการนี้ได้
ถ้าใครอยากเห็นภาพการใช้งาน Instagram Subscriptions แต่ไม่ได้อยู่ในประเทศเหล่านั้นก็สามารถเข้าไปดูตัวอย่างได้ที่แอคเคาท์เหล่านี้เลยค่ะ เช่น @alanchikinchow, @sedona._, @alizakelly, @kelseylynncook, @elliottnorris, @jordanchiles, @jackjerry, @bunnymichael, @donalleniii และ @lonnieiiv
อ่านรายละเอียดหลักสูตร Digital Marketing Strategy ได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ
https://stepstraining.co/digital-marketing-specialist
3.YouTube Channel Memberships
YouTube Channel Memberships เป็นโปรแกรมสมัครสมาชิกสำหรับผู้ติดตามที่ชอบคอนเทนต์ของชาแนลไหนมาก ๆ จนอยากมอบเงินสนับสนุนให้แลกกับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่จะได้รับจากการเป็น Membership เช่น
- ได้ใช้อีโมจิพิเศษ
- ได้ติดป้ายบอกความเป็น Membership
- ได้อ่านโพสต์อินไซต์ใน Community
- ได้ดูคลิปคอนเทนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ
- ได้รับชมไลฟ์ถ่ายทอดสดสุดพิเศษ
- ได้เข้าร่วม Live Chat เฉพาะกับเมมเบอร์ด้วยกัน
โดยเงื่อนไขของชาแนลที่จะเปิดให้มี YouTube Channel Memberships ได้คือ
- เป็นสมาชิกของ YouTube Partner Program อยู่แล้ว
- อยู่ในประเทศที่ได้รับอนุมัติให้ทำโปรแกรม Memberships ได้ เช่น สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น
- ไม่ใช่ชาแนลที่ทำคอนเทนต์สำหรับเด็ก หรือที่กำหนดว่าเป็นชาแนล “Made for Kids.”
ซึ่ง ในฐานะผู้ติดตามเราจะรู้ว่าชาแนลนั้นเปิดรับโปรแกรม Memberships หรือไม่จากการสังเกตว่ามีให้กดปุ่ม ‘Join’ หรือเปล่า นั่นเองค่ะ
ถ้าเปิดโปรแกรม Memberships ได้ เจ้าของชาแนลจะสามารถกำหนด Tiers หรือลำดับขั้นของการเป็น Members ว่า Members ระดับไหนควรจ่ายค่าสมาชิกเท่าไร โดยยิ่งอยู่ใน Tiers สูงก็จะต้องจ่ายค่าสมาชิกสูง เพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น ด้วยค่ะ
ซึ่ง เราสามารถกำหนดได้สูงสุด 5 Tiers แต่ถ้าคิดไม่ออกว่าจะแบ่ง Tiers อย่างไร อย่างน้อย ๆ ให้กำหนดสัก 3 Tiers ก็ได้ค่ะ เป็น Tiers สูง ราคาสูง Tiers กลาง ราคากลาง Tiers ต่ำ ราคาต่ำลง
นอกจากนี้ ตัว YouTube Channel Memberships ยังมีความพิเศษคือ ผู้ที่เป็นสมาชิกสามารถส่งต่อของขวัญ (Gift) ให้กันได้
โดยวิธีการคือคนคนหนึ่งสามารถซื้อ Memberships ไว้อยู่ในครอบครองได้เป็นจำนวนมาก เพื่อนำ Memberships เหล่านั้น ไปแจกเป็นของขวัญให้กับคนอื่น
ตัวอย่างเช่น ถ้านาย A ซื้อมาทั้งหมด 15 Memberships นาย A ก็สามารถส่งต่อ 14 Memberships ที่เหลือให้กับคนอื่น ๆ ที่เป็นผู้ติดตามช่องเดียวกันได้ค่ะ
เพียงแต่โอกาสแจกของขวัญ (Gift) แบบนี้อาจไม่ได้มีบ่อย ๆ เพราะว่าผู้ที่ซื้อหลาย ๆ Memberships ก็จำเป็นต้องมีกำลังทรัพย์พอสมควรเลยค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น พอพูดถึงเรื่องของส่วนแบ่งกับ YouTube แล้ว ทาง YouTube จะได้รับส่วนแบ่ง 30% จากรายได้ที่เจ้าของชาแนลนั้น ๆ ได้จากการทำโปรแกรม Memberships ค่ะ
หากคุณเป็นหนึ่งในผู้บริหาร ผู้จัดการ หรือเจ้าของกิจการที่อยากเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาทักษะการวางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ STEPS Academy ขอนำเสนอหลักสูตร Digital Marketing Strategy ที่จะทำให้คุณกลายเป็นนักกวางกลยุธ์ที่ดี พร้อมกับมีความเข้าใจในกลไกการทำงานของโซเชียลมีเดียแต่ละช่องทางทั้ง Google, YouTube, Facebook และ Instagram
อ่านรายละเอียดคอร์สเรียนเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ
https://stepstraining.co/digital-marketing-specialist
สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Inbox STEPS Academy
LINE OA: @STEPStraining https://lin.ee/jRRdsrN
หรือโทร 065-494-6646