ปัจจัยสำคัญในการสร้างธุรกิจให้เติบโตให้ทศวรรษนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของการวางช่องทางการตลาดที่เรียกว่าช่องทาง Online บางคนเรียกว่า Digital marketing แปลตรงตัวคือการทำการตลาดผ่านช่องทาง/เครื่องมือออนไลน์หรือ Digital Marketing นั้นเอง
ปัญหาหลักๆที่ประเทศเรากำลังเผชิญ ในส่วนนี้ขอแบ่งออกมาเป็น 2 มุมด้วยกันคือ
- มุมของผู้ประกอบการ
- มุมของทีมงาน
สำหรับมุมผู้ประกอบการสิ่งที่จะต้องเผชิญเอ็มมี่จะขอพูดในส่วนของการเรียงลำดับแต่ละขั้นตอนตั้งแต่เริ่มทำการตลาดออนไลน์จนไล่ไปสู่กระบวนการล่าสุดที่ ณ ปัจจุบันควรรู้นะคะ
เริ่มจาก
สิ่งที่คุณจะต้องเตรียมตัวคือ คุณจะต้องสร้างภาพ ใช่ค่ะ การสร้างภาพจำ ภาพจำประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
ภาพจำประกอบไปด้วยเรื่องของ Branding ซึ่งตรงนี้แนะนำให้ไปศึกษาต่อตามเว็บไซต์ต่างๆก็ได้ หรือ หนังสือที่มีชื่อว่า 60 minutes brand strategist คุณจะเข้าใจส่วนประกอบของแบรนด์มากขึ้น เหมาะสำหรับทั้งนักการตลาด นักวางแผนกลยุทธ์ ผู้บริหาร และผู้ประกอบกรค่ะ ตรงนี้สามารถแตกประเด็นออกมาได้เลยว่าคุณจะต้องเสียเวลาไปกับอะไรบ้าง
- การออกแบบ Logo, Brand identity, mood&tone, Brand character, Brand DNA และ Brand Manual อาจจะใช้เวลา 1-2 เดือน สำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็ก ที่ต้องการประหยัดงบ ให้ทำเช็คลิสต์ออกมาว่าแบรนด์ของถ้าเป็นคนมีลักษณะอย่างไร
- สิ่งที่คุณจะต้องวางแผนถัดมาคือเรื่องของคอนเทนต์แนะนำว่าหากมีงบประมาณให้ทำการหา outsource ผู้เชี่ยวชาญเรื่องคอนเทนต์มาวางแผนและทำการสร้างคอนเทนต์ให้คุณเตรียมไว้ล่วงหน้าสัก30-60 คอนเทนต์
- หรือถ้าจะเหมาะแนะนำให้หาประจำสำหรับธุรกิจที่ตั้งใจจะบุกตลาดดิจิตอลแบบจริงจริง หรือหากคุณต้องทำเอง คุณจะต้องลองอยู่กับตัวเองสัก 10 วันและผลิต คอนเทนต์ออกมาซะ วันละ 3 คอนเทนต์
แต่สิ่งนี้ต้องเกิดขึ้นหลังจากที่คุณ มีแบรนด์ที่แข็งแรงพร้อมสีโทนประกอบเพื่อนำมาออกแบบแบรนด์ของคุณแล้วนะคะ
- สิ่งที่คุณจะเผชิญต่อมาคือการประกอบร่างทีม…ณตอนนี้ในบ้านเราหากคุณต้องการหาคนที่เพรียบพร้อมในทักษะ Digital Marketing คงอาจจะยากหน่อยแต่หากคุณหาคนที่ใจรักการพัฒนารักเรื่องการตลาดและการขายอาจจะง่ายขึ้นมานิดนึงพร้อมกับปูทางให้เขาได้รับการพัฒนา
- ส่งเข้าหลักสูตรต่างๆ โดยส่วนตัวแล้วเอ็มมี่มองว่าวิธีการนี้ที่ทำให้ผู้ประกอบการหลายๆคนแค่สั่งการอย่างเดียวและปล่อยให้ทีมงานทำ จะดีที่สุดหลังจากที่เขาเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง มีคนหลายคนบอกว่าแต่เดี๋ยวเราส่งเข้าไปอบรมหลักสูตรนู้นนั้นนี้ สุดท้ายเขาก็อาจจะออกบอกได้เลยว่า “เป็นปกติ” เป็นเรื่องธรรมดาที่เราต้องเผชิญ แต่ลองชั่งนํ้าหนักกัน เราพัฒนาเขาตอนนี้ให้เขาวางระบบให้เรา และท้ายสุดสุดท้ายเราก็เติมทีมทีละส่วน ลงทุนได้นี้ได้กลับคืนมาเร็วกว่าไม่ลงทุนเลย และไม่ได้รับอะไรกลับคืนเลย
- ค่าโฆษณาที่จะแพงขึ้นถ้าคุณคิดว่าเป็นช่องทางที่ประหยัดอาจใช่ตอนเริ่มต้นที่เปิดช่องทางแต่หลังจากนั้นค่าใช้จ่ายจะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นค่า operating cost ค่าหาคนมาจัดการค่านู้นนั้นนี้แต่ก็ยังถูกกว่า mass media ณตอนนี้อยู่ค่ะเพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณจะต้องทำคือเตรียมคำว่าคุณภาพในทุกๆสิ่งเข้าไว้แล้วเดี๋ยวการบอกต่อจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเอง
- ผู้ช่วยเหลือตัวปลอม สำหรับทีมงานหรือใครที่กำลังทำงานประจำอยู่นั้น มองว่าคนที่ทำงานประจำก็ประสบความสำเร็จได้ แต่อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ถ้าคุณยังยํ่าอยู่กับที่ คุณก็จะอยู่กับที่ไม่ไปไหนต่อ เพราะทักษะที่โลกกำลังมองหาคือ Digital Marketing ซึ่งประกอบไปด้วย
- Digital Marketing Strategic Planner Digital Ads Planner
- Content Generator
- Digital Community Manager
- Digital Graphic Designer
ซึ่งหลายๆคนอาจจะมองว่าก็ไม่เห็นมีอะไรแตกต่างจากการตลาดออฟไลน์ มีซิค่ะ มีอย่างตัว Digital Marketing Strategic Planner คือนักวางแผน จะต้องละเอียดมากขึ้นต้องอาศัยประสบการณ์และการช่างสังเกตุผู้บริโภคในยุคดิจิตอลว่าเขาใช้เวลาอยู่กับเครื่องมืออะไร และอยู่กับเครื่องมือนั้นๆ กี่วินาที และเกิดผลลัพธ์อย่างไรบ้าง เรียกว่าการวิเคราะห์ Customer Journey ในโลกออนไลน์
เพราะฉะนั้นแล้วหากใครยังไม่มีทักษะทางด้าน Digital Marketing สิ่งที่คุณจะต้องเผชิญมีดังต่อไปนี้
- คุณอาจจะเสียโอกาสในการก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ในตำแหน่งที่สูงขึ้น รายได้มากขึ้น
- คุณอาจจะต้องเป็นคนที่องค์กรตัดออกเพราะถือว่าเป็น Cost หรือรายจ่ายมากกว่ารายได้ที่จะเข้ามา
- ตัวเลือกการหารายได้เสริมลดลง
หากคุณกำลังมองหารายได้เสริม ขึ้นต้นมาเหมือนโฆษณาอะไรสักอย่าง แต่นี่คือเรื่องจริงนะคะ เพราะบ้านเราตอนนี้ พนักงานประจำเกือบทุกคนมี 2 อาชีพ เพื่อหารายได้มาใช้ชีวิต และหากคุณมีทักษะ Digital Marketing จะเพิ่มโอกาสตรงนี้ได้มากขึ้นจริง ๆ
แต่หากคุณมีทักษะนี้สิ่งที่คุณจะได้คือ
- แน่นอนโอกาสในการเติบโตในหน้าที่การงานแบบก้าวกระโดด
- คุณคือจุดสนใจขององค์กรต่างๆเพราะถือว่าคุณสร้างรายได้มากกว่าเป็นรายจ่ายหากคุณมีประสบการณ์บวกกับความรู้ คุณมีโอกาสที่จะเติบโตในต่างประเทศได้ด้วย
- รายได้ที่เพิ่มขึ้นกว่าตำแหน่งปกติถึง 2 เท่าตัว แม้ว่าบ้านเราจะยังไม่ให้ตัวอย่างเช่นหากคุณถนัดด้านการเขียนบนโลกดิจิตอล คุณอาจจะเริ่มต้นเงินเดือนอยู่ที่ 30,000 บาทก็เป็นได้
หากคุณถนัดในการดูแลช่องทางต่างๆ บนโลกโซเชี่ยลเริ่มต้นรายได้อยู่ที่ 25,000 บาท หากเก่งกว่านั้นก็กระโดดได้ยิ่งกว่ากระต่ายป่าเสียอีก และสามารถไกลไปถึงหลัก 100,000 ++ เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณต้องมีความสามารถจริงๆนะคะ มีการการันตีจากผู้มีประสบการณ์ ไม่ใช่แค่เล่น social media ได้แล้วบอกว่าทำสายนี้ได้ แบบนี้อาจจะไม่ได้รายได้จริงๆนะคะ
- ไม่ต้องเหนื่อยเพิ่ม ความหมายคือรายได้ที่ได้จากงานประจำเผลออาจจะเพียงพอกว่าการทำงาน 2 งานในเวลาเดียวกันด้วยซํ้า