5 วิธี เลือกใช้ Chart/Map ดูยอดขาย แสดงข้อมูลให้เหมาะกับงาน

5-ways-to-use-chart/map-to-view-sales-figures

จะทําข้อมูลออกมายังไงให้ผู้บริหารดูง่ายและประทับใจ ✨

เมื่อวางแผนงานและดําเนินการตามแพลนที่วางไว้แล้ว การรายงานผลก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่สําคัญเหมือนกัน STEPS แนะนํา 5 วิธีแสดงยอดขายผ่านกราฟ จะมีกราฟประเภทไหนบ้างที่เหมาะกับการโชว์ผลยอดขาย

1. Bubble Chart : แผนภูมิแบบบับเบิล

  • เหมาะสําหรับการใช้เพื่อแสดงข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องกันในแนวความสัมพันธ์แบบซับซ้อน หลากหลายมิติ
  • ใช้ลักษณะของวงกลม (Bubbles) ในการแสดงข้อมูลที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับตัวแปรที่ต้องการนําเสนอ 

Bubble Chart สามารถแสดงข้อมูลได้ 4 รูปแบบ 

  • แสดงข้อมูลแบบสองมิติ: Bubble Chart สามารถใช้แสดงข้อมูลที่มีสองตัวแปรโดยทั้งสองตัว จะอยู่บนแกน X และแกน Y ใช้สีของวงกลมหรือขนาดของวงกลมแสดงข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับจุดข้อมูลใน Bubble Chart นี้
  • แสดงข้อมูลเพิ่มเติม: ขนาดของวงกลมใน Bubble Chart ใช้แสดงค่าสถิติ เช่น ค่ายอดขาย มูลค่าหรือจํานวนสินค้า สีของวงกลมสามารถใช้แสดงกลุ่มหรือหมวดหมู่ของข้อมูล เช่น สีของวงกลมแบ่งประเภทของผลิตภัณฑ์

แสดงข้อมูลแบบสมการ: Bubble Chart ใช้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรหลายๆตัวพร้อมกัน โดยใช้ขนาดและสีของวงกลม เพื่อแสดงค่าตัวแปรเพิ่มเติม เช่น แสดงยอดขายแกน X , แสดงยอดกําไรแกน Y , จํานวนสินค้าที่ขายในขนาดของวงกลม 

แสดงข้อมูลแบบกระจาย: ในแบบนี้จะสามารถระบุแนวโน้มและความแตกต่างในข้อมูลได้อย่างชัดเจน ทําให้ง่ายต่อการจดจําและการเปรียบเทียบข้อมูลกันระหว่างกลุ่ม

ประโยชน์ของ Bubble Chart: สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ได้โดยใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังทํานายแนวโน้มของข้อมูลได้ตลอดเวลา ส่งผลต่อการววางแผนกลยุทธ์ในอนาคต 

ตัวอย่างของการนํา Bubble Chart มาปรับใช้ในธุรกิจ 

  • สามารถนํามาวิเคราะห์ตลาดและผู้บริโภค การวางแผนการตลาด สามารถใช้ Bubble Chart เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสําเร็จของแคมเปญโดยมีปัจจัยของระยะเวลา ทรัพยากรที่ใช้ในโครงการนั้นๆ และงบประมาณที่ใช้ไป

2. Scatter Chart : การเกาะกลุ่มของจํานวน

  • ช่วยในการตรวจสอบความสัมพันธ์ การจําแนกข้อมูล การค้นหาแนวโน้มและอธิบายข้อมูลของผู้บริโภคในทางที่ควรจะเป็นได้อย่างชัดเจน 
  • เป็นเครื่องมือทางสถิติและการวิเคราะห์ข้อมูลที่สําคัญในรูปแบบของแผนภูมิที่ใช้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปรหรือมิติต่างๆ บนระนาบ 2 มิติ โดยใช้จุด (Point) บนแผนภูมิ 

ประโยชน์ของ Scatter Chart: การใช้ Scatter Chart มีประโยชน์สําหรับการดูแนวโน้มและความสัมพันธ์ของข้อมูลสองอย่าง ทําให้อธิบายออกมาได้ง่ายมีประโยชน์ต่อการตรวจสอบข้อมูลและการตัดสินใจในการวางแผนกลยุทธ์ต่อไป

ตัวอย่างของการใช้ Scatter Chart 

หากต้องการดูว่าการลงทุนในโฆษณาออนไลน์มีผลต่อยอดขายสินค้าหรือไม่ สามารถใช้ Scatter Chart เพื่อวาดจุดบนกราฟ 

  • แกน X แสดงจํานวนเงินที่ลงทุนในโฆษณา
  • แกน Y แสดงยอดขาย 
  • จุดที่อยู่ตํ่าสุดบนแกน Y และมีความห่างจากแกน X จะแสดงว่า การลงทุนในโฆษณาไม่ส่งผลต่อยอดขาย 
  • จุดที่อยู่สูงสุดบนแกน Y และอยู่ใกล้กับแกน X แสดงว่าการลงทุนมีผลต่อยอดขายในเชิงบวก

3. Area Chart : แผนภูมิพื้นที่

  • แสดงชุดข้อมูลแบบตัวเลขตามแกน X และแกน Y โดยพื้นที่ระหว่างเส้นกราฟและแกน X มีไว้เพื่อเน้นพื้นที่ใต้กราฟและทําให้ข้อมูลเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้น
  • ใช้เปรียบเทียบและดูแนวโน้มของข้อมูลตลอดช่วงเวลา หรือแสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ ในชุดข้อมูล 

ประโยชน์ของ Area Chart: ช่วยให้ผู้ใช้นําเสนอข้อมูลที่มีความซับซ้อนและแสดงถึงความสัมพันธ์ของข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารข้อมูลและการตัดสินใจในองค์กร

ตัวอย่างของการใช้ Area Chart 

เปรียบเทียบยอดขายสินค้า 2 รุ่นในระยะเวลาที่กําหนด เพื่อเข้าใจแนวโน้มและความสัมพันธ์ของยอดขายในสินค้าหรือบริการต่างๆ เพื่อการสื่อสารข้อมูลกับทีม

4. Tree Map : แผนภูมิแผนที่ต้นไม้ 

  • เป็นแผนภูมิที่ใช้ในการแสดงข้อมูลเชิงลักษณะและเชิงชั้นของข้อมูล โดยใช้สี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นตัวแทนแต่ละส่วนของข้อมูล 
  • ขนาดของสี่เหลี่ยมบอกค่าของข้อมูลและสีของสี่เหลี่ยมจะบ่งบอกความหมายหรือหมวดหมู่ของข้อมูล

ประโยชน์ของ Tree Map: เป็นเครื่องมือที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพในการแสดงข้อมูลที่มีลักษณะโครงสร้างที่ซับซ้อน ช่วยทําให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจและตรวจสอบข้อมูลกระจ่างชัดเจน เพิ่มการนําเสนอข้อมูลได้หลายลําดับขั้น เพราะส่วนย่อยในแผนภูมิ Tree Map สามารถแสดงเป็นข้อมูลหลายชั้นได้ เป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ข้อมูลแบบละเอียด

ตัวอย่างของการใช้ Tree Map มักถูกใช้ในการแสดงข้อมูลในเชิงลักษณะ 

การแสดงข้อมูลการเงิน: ในธุรกิจและการเงิน Tree Map สามารถแสดงโครงสร้างผลรายได้และค่าใช้จ่าย โดยสี่เหลี่ยมแต่ละส่วนแทนกิจกรรมหรือรายได้ทางการเงิน 

การแสดงข้อมูลสถานที่: ในเชิงภูมิศาสตร์และการวางแผนที่ Tree Map สามารถใช้ในการแสดงโครงสร้างพื้นที่ โดยสี่เหลี่ยมแทนพื้นที่ทางภูมิศาสตร์และสามารถแบ่งแยกพื้นที่ย่อยได้อย่างต่อเนื่อง

5. Symbols Map : แผนที่เชิงสัญลักษณ์

  • เป็นเครื่องมือทางการสื่อสารและการแสดงข้อมูลที่ใช้สัญลักษณ์เฉพาะ เพื่อแสดงข้อมูลทางภูมิศาสตร์และข้อมูลตําแหน่งบนแผนที่ 
  • สัญลักษณ์ที่ใช้ใน Symbols Map แทนค่าด้วยสถานที่เท่านั้น เช่น แสดงสัญลักษณ์ที่แสดงถึงจุดตั้งโรงงาน สัญลักษณ์ที่แสดงถึงจุดขายสินค้า

ประโยชน์ของ Symbols Map : แสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ต่างๆ ในรูปแบบของสัญลักษณ์ ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจข้อมูลตําแหน่งและระยะทางได้ง่ายและรวดเร็ว ง่ายต่อการวางแผนกิจกรรมทางการตลาดในพื้นที่ๆแตกต่างกัน โดยพิจารณาตําแหน่งสถานที่สําคัญ เช่น การเปิดสาขาใหม่ การจัดโปรโมชั่นพิเศษในพื้นที่เฉพาะ

ตัวอย่างของการใช้ Symbols Map 

นักการตลาดสามารถใช้ Symbols Map: เพื่อวางแผนกิจกรรมทางการตลาด ตัวอย่างเช่น หากเป็นห้างสรรพสินค้าหรือร้านขายของ โดยแสดงสัญลักษณ์บนแผนที่สําหรับแต่ละสาขาของร้านค้า สัญลักษณ์เหล่านี้อาจแทนด้วยการเปิดงานและโปรโมชั่น การจัดกิจกรรมโปรโมท Symbols Map นี้จะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเห็นภาพรวมและความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมการตลาดและผลลัพธ์ในแต่ละพื้นที่ได้อย่างชัดเจน

ลองนําทั้ง 5 กราฟไปปรับใช้ในธุรกิจของคุณดู 

หากใครอยากเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทํา Data Visualization ไปเรียนรู้กันต่อได้ในคอร์ส Data Analytics for Marketing Management ดูรายละเอียดต่อได้ที่ bit.ly/3RaSbsK

เรียนสอบถาม คอนเทนต์นี้ คุณชอบไหมคะ

ความคิดเห็นของคุณมีความสำคัญกับเรา ขอบคุณนะคะ

Learn More

Recommended Topics

ธุรกิจมีปัญหา ควรรักษาด้วย Data หรือไม่?
3 ความสำคัญของการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytic) ในการตัดสินใจในแง่มุมของการตลาด