ปี 2023 นี้เปิดมาก็เป็นไปตามที่ทางหนังสือ Marketing 5.0 ของ Phillips Kotler กล่าวไว้ว่า
ยุคนี้จะเป็นยุคที่มนุษย์ และ เทคโนโลยีจะมาการทำงานร่วมกันมากขึ้น
เพราะช่องทางการตลาดในโลกออนไลน์ ไม่ได้มีขอบเขตแค่การใช้ Social Media ในการสื่อสารเพียงอย่างเดียว แต่จะมีเครื่องมือ Smart Gadgets ต่างๆที่จะเป็นพื้นที่สำหรับการทำการตลาดให้คนมองเห็น และ เป็นพื้นทีที่แบรนด์สามารถสื่อสารได้มากขึ้นอีกด้วย อาทิเช่น
Smart TV: โทรทัศน์อัจฉริยะ, Smart Car: รถยนต์อัจฉริยะ, Smart Watch: นาฬิกาอัจฉริยะ, Smart Home: บ้านอัจริยะ หรือแม้กระทั่ง Smart Refrigerator: ตู้เย็นอัจฉริยะ ที่ไม่ได้เพียงแค่มีระบบ สัมผัสหรือ Touch Screen และทำให้เราสามารถเห็นของภายในตู้เย็นได้ แต่ ยังสามารถให้เราสั่งซื้อสินค้าผ่านตู้เย็นได้ เช็คสต็อคของในตู้เย็นได้ ดูรายการทีวีออนไลน์ผ่านตู้เย็นได้ และ อื่นๆอีกมากมายที่ Smart Gadget เหล่านี้เป็นมากกว่าเครื่องอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันแต่ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการสื่อสารและพื้นที่สำหรับการโฆษณาได้อีกด้วย
นอกจาก Data และ Smart Gadget แล้วยังมีอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่มนุษย์เราพยายามจะสร้างและพัฒนามาหลายสิบปีนั้นก็คือ AI หรือ Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ถ้าแปลให้ง่ายที่สุดก็คือการจำลองรูปแบบกระบวนการคิด วิเคราะห์การทำงาน ให้ออกมาเป็นระบบ ที่เหมือน หรือ ใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุด ผ่านการป้อนข้อมูลและการเรียนรู้จากมนุษย์อีกที
***ข้อแนะนำการใช้ AI เพื่อสร้าง Productivity***
ทางเราแนะนำให้ใช้ AI เพื่อเป็นการใช้แก้ไขปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้นบ่อย
เช่นคิดคอนเทนต์ไม่ออก หรือทำงานไม่ทันหรืออยากได้ไอเดียที่หลากหลาย
เราแนะนำให้ใช้ AI ในแบบที่เรานำมาปรับคอนเทนต์
คำ หรือใช้เป็นไอเดียในการต่อยอดให้เหมาะสมกับแบรนด์และจุดประสงค์ของธุรกิจ มากกว่าการคัดลอกมาทั้งหมดโดยปราศจากการคำนึงถึงจุดประสงค์ในการใช้และกลยุทธ์
เพื่อทำให้ชิ้นงานมีคุณภาพในเวลาที่เร็วกว่าเดิม
AI จะเป็นโอกาสหรือความน่ากลัวขึ้นอยู่กับมุมมองและวิธีการใช้งานของเราค่ะ
STEPS ACADEMY เลยอยากหยิบยกประเด็นเครื่องมือ AI ที่จะมาช่วยให้นักการตลาด ผู้ประกอบการทุกรูปแบบ สามารถใช้งานเพื่อสร้างผลงานและทำให้ธุรกิจเติบโตได้มากขึ้น
โดยเริ่มต้นจาก Series AI for Content Marketer กันก่อนเลยค่ะ
ทางทีมสรุปกันมาให้ 5 เครื่องมือ AI ที่จะช่วยเรื่องการสร้างคอนเทนต์ของนักการตลาดง่ายขึ้นเริ่มจาก
1. Rytr.me
Rytr.me ถือเป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถคิดไอเดียคอนเทนต์ได้แบบรวดเร็วมากจากที่ทางทีมงาน STEPS ทดลองใช้ Rytr เราค้นพบว่าไม่ถึง 10 วินาที Rytr ก็สามารถผลิตไอเดียคอนเทนต์ให้เราได้มากถึง 15 หัวข้อคอนเทนต์ด้วยกัน และ มีรูปแบบโทนในการเขียนคอนเทนต์ที่หลากหลายตั้งแต่แค่เพียงให้ข้อมูลเพื่อตอบโจทย์เรื่องของ educational content ไปจนถึงการทำคอนเทนต์เพื่อขายสินค้า
Rytr เหมาะมากๆสำหรับการช่วยขจัดปัญหา Content Blocks หรืออาการคิดคอนเทนต์ไม่ออกของคนทำการตลาด รวมถึง Rytr ยังมี features ที่ช่วยเขียนบทความพร้อมกับการตรวจเช็คแกรมม่าการสะกดอย่างถูกต้อง
ส่วนภาษาของ Rytr นั้น ก็มีให้เลือกมากกว่า 40 ภาษา ภาษาไทยก็มีนะคะ แต่ดูเหมือนน้อง Rytr อาจจะเขียนวนไปวนมา ยังใช้คำงงๆ อยู่ ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็ค่อนข้างดี เลย แต่แน่นอนว่าไม่มีเครื่องมือไหนจะ สมบูรณ์ที่สุด เราอาจจะต้องใช้เพื่อนำมาพัฒนาต่ออีกค่ะ
สรุปแล้ว Rytr เหมาะกับเรื่องของการทำ คิดไอเดียคอนเทนต์ และการเขียนเป็น short form content ในเชิงสั้นๆ กระชับแบบง่ายๆ ราคาของ Rytr เริ่มต้นที่ 9 ดอลล่าร์ต่อเดือนนะคะ
***Rytr จะมี free plan ให้เราลองแต่ก็มีข้อจำกัดไม่ใช่เรื่องของเวลาแต่เป็นเรื่องของจำนวนตัวอักษรที่ห้าม
เกิน 10,000 ตัวอักษรต่อเดือน ซึ่งจริงๆถ้าไม่ซีเรียสอะไรมากเราก็สามารถใช้ Rytr ไปได้เรื่อยๆ***
สำหรับใครที่อยากทดลอง Rytr สามารถคลิกลิ้งนี้เพื่อการทดลองได้เลยค่า
2. Jasper.ai
Jasper.ai เป็นเครื่องมือ AI สำหรับนักการตลาดสายคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ สำหรับการรีวิวจากทั่วโลก แต่ด้วยราคาเริ่มต้นที่แพงกว่า Rytr ทางทีม STEPS ก็คิดอยู่นานอยู่เหมือนกันว่าเราจะเริ่มต้นใช้เขาเพื่อมารีวิวให้ผู้ที่ติดตาม STEPS ACADEMY ได้รู้กัน แต่สุดท้ายเราก็ทนความนิยมของเขาไม่ได้จึงขอลองกันดู
สำหรับ Jasper จะกำหนดวันใช้ฟรีอยู่ที่ 5 วันหลังจากนั้นจะมีแพคเกจเริ่มต้นอยู่ที่ 59 ดอลล่าร์ต่อเดือนในแพคเกจ Boss mode ข้อดีของเขาก็คือสามารถให้ทีมร่วมใช้บัญชีได้กันถึง 5 users หรือผู้ใช้งานนั้นเอง
พอทางทีมลองใช้ Jasper แล้วหน้าตาการใช้ง่ายหรือ UX ของเขาจะดูเหมือนมีความซับซ้อนกว่า Rytr อาจจะต้องใช้เวลาการเรียนรู้หน่อยแต่ ฟีเจอร์สำหรับการสร้างคอนเทนต์ค่อนข้างมีชั้นเชิง มีการคิดเผื่อในหลายๆจุดไม่ว่าจะเป็นการให้เราระบุ target audiences หรือกลุ่มคนที่เราอยากจะสื่อสาร โทนที่เราต้องการ รูปแบบ การใช้คำที่ดูจะค่อนข้างมีความเป็นมนุษย์มากๆ
Jasper.ai ในมุมมองของพวกเราก็จึงเหมาะกับการใช้เพื่อสร้างคอนเทนต์ค่อนข้างเน้นที่คุณภาพมากๆ
ในเชิง Longform ก็เหมาะหรือจะสำหรับการเลือก template การเขียนให้เหมาะกับช่องทางต่างๆ Jasper.ai เขาก็มีให้ค่ะเช่นกันค่ะเช่นการเขียนรายละเอียดสินค้าเพื่อขายบน E-Commerce เป็นต้น
เบื้องต้นทางทีมรู้สึกว่าสำหรับการใช้งาน Jasper.ai ยังมีความลึกที่เราสามารถไปต่อกับเขาได้อีกเรื่อยๆเลย แม้ว่าจำนวนภาษาใน Jasper.ai จะมีจำนวน 29 ภาษา ณ ปัจจุบัน ภาษาไทยยังไม่มีนะคะ แต่เชื่อว่าในอนาคต Jasper จะเป็น AI อีกหนึ่งตัวที่น่าจับตามองมาๆ ในด้านการสร้าง ทั้งจำนวนชิ้นงานและคุณภาพชิ้นงานด้านคอนเทนต์ให้กับนักการตลาดค่ะ
3. Canva Magic Write
สำหรับ Canva เครื่องมือสร้างคอนเทนต์เชิงรูปภาพ วิดีโอ ก็มีการพัฒนาแบบไร้ขอบเขตมากๆ จนทำให้บริษัทหลายๆบริษัท ก็อาจจะใส่ในรายละเอียดการรับสมัครงานได้เลยว่าขอเพียงใช้ Canva ให้เป็นก็จะรับพิจารณา ณ ปีนี้ Canva ก็ทำการรุกหนักขึ้นกว่าเดิมโดยการพัฒนาเจ้า AI สำหรับการออกแบบเยอะแยะมากมายซึ่งเดี๋ยวเราคงจะมารีวิวกันในซีรี่ย์ภาค AI กันต่อไปคอนเทนต์ต่อไป
สำหรับ Canva Magic Write ที่ทางทีมลองใช้งานกันเหมาะสำหรับการคิด caption ประกอบการเขียน short form คอนเทนต์ และ การคิดเนื้อหาคอนเทนต์ประกอบสื่อประเภทรูปภาพเป็นหลัก
ทางทีมงานก็ทำการทดลองกันในรูปแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษค่ะ
ข้อสรุปคือพี่ Canva ของพวกเราก็เขียนภาษาไทยได้นะ อาจจะใช้คำง่ายๆแต่แน่นอน ยังไม่หลื่นไหลอย่างใจหวัง เพราะเขากำลังพัฒนากันอยู่ส่วนภาษาอังกฤษ์ก็ไม่ต้องห่วงค่ะ แต่คำแนะนำของเราคือการปรับคำให้เหมาะสมกับแบรนด์กับลูกค้าให้เหมาะกับจุดประสงค์การใช้งานจะดีที่สุด เราอาจจะไม่แนะนำให้ลอกคำมาทั้งหมด เพราะก็ต้องระวังเรื่องของรายละเอียดคอนเทนต์ที่เราอยากจะนำเสนอด้วยค่ะ
หากใครที่ยังลังเลกับการใช้ Canva และอยากเริ่มต้นทดลองสามารคลิกลิ้งค์ด้านล่างไปทดลองกันได้เลยค่า 😀
👉 https://partner.canva.com/jWxRrv
ท้ายที่สุดแล้วสำหรับการทดลองการใช้ AI ในการช่วยคิดไอเดียคอนเทนต์ในช่วงเดือนที่ผ่านมาทำให้เราประหยัดเวลาการลองผิดลองถูกไปได้เยอะ และนำมาประกอบกับแผนกลยุทธ์ที่เราวางแผนกันอยู่
AI ต่างๆก็เปรียบเสมือหนึ่งในทีมงานที่ช่วยให้เราได้ไอเดียใหม่ๆ ได้เรื่อยๆ แต่วิธีการใช้ของเราจะเน้นใช้เพื่อการต่อยอดและการประยุกต์ ให้เหมาะสมกับแบรนด์และลูกค้าของพวกเรามากกว่าการเชื่อใจ AI 100 % ค่ะ เพราะสุดท้ายอาจจะมีประสบการณ์บางประสบการณ์ และ ความเข้าใจ กระบวนการคิดที่เราน่าจะรู้จักธุรกิจของเราดีกว่าน้องๆ AI เหล่านี้ แต่ก็ไม่แน่นะคะในอนาคตอีกไม่กี่ปีข้างหน้าน้องก็อาจจะรู้ใจลูกค้า และ เราก่อนที่เราจะรู้อีกเพราะฉะนั้นใช้เครื่องมือให้เป็นประโยชน์สำหรับการต่อยอดมากกว่าให้เครื่องมือมาเป็นตัวตีกรอบความคิดสร้างสรรค์นะคะ
สำหรับใครที่อยากเรียนรู้การวางแผนกลยุทธ์ การสร้างคอนเทนต์ที่ตรงโจทย์และเป้าหมายของธุรกิจพร้อมวิธีใช้เครื่องมือทั้ง Marketing Technology ต่างๆเพื่อทำให้คอนเทนต์ของเราตรงใจกับลูกค้ามากขึ้นพร้อมกับเรียนรู้วิธีการใช้ AI เหล่านี้ให้เกิดประโยชน์
ในวันพฤหัสบดี และศุกร์ ที่ 9 – 10 มีนาคม 2566 ทาง STEPS ACADEMY
จัดหลักสูตรสอนสดในหัวข้อ Digital Content Marketing
หากท่านใดสนใจสามารถ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://stepstraining.co/digital-content-marketing
หวังว่าจะเจอกันในคลาสนะคะ 😀
