โลกเสมือนจริงที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ไม่ใช่แค่เรื่องจินตนาการ หรือการจำลอง ฉากเอาไว้เพียงในภาพยนต์อีกต่อไป เมื่อการพัฒนาที่ก้าวไกลของนวัตกรรมใหม่ ๆ ไม่เคยหยุดนิ่ง และ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลาย ๆ แบรนด์ต่างก็ให้ความสำคัญกับ MarTech อย่าง Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) ส่งผลให้เทคโนโลยี Metaverse กลายเป็นหนึ่งแนวคิดแห่งอนาคตที่ใคร ๆ ก็พูดถึง ซึ่ง Metaverse กลายเป็นกระแสมากยิ่งขึ้น เมื่อ Mark Zuckerberg ประกาศว่า Facebook จะเดินหน้าพัฒนาบริษัทให้เป็น Metaverse Company ในอีก 5 ปีข้างหน้า ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลก สนใจนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับธุรกิจเพื่อสร้างความโดดเด่น และเป็นผู้นำแห่งอนาคตกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Samsung, Mercedes และ Shopify
นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่มีความเกี่ยวข้องกับ Metaverse อย่าง Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) ก็เข้ามาเป็นเครื่องมือทางการตลาด (Martech) มากยิ่งขึ้นในยุค Marketing 5.0 ซึ่งในปี 2021 มีประสบการณ์การใช้ทั้ง AR และ VR มากกว่า 85 ล้านคน
ภาพจาก influencermarketinghub.com
ภาพด้านบนเป็นสถิติจาก influencermarketinghub ที่แสดงให้เห็นถึงผู้ใช้งาน VR และ AR ตั้งแต่ปี 2017-2021
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ใช้งาน Google ได้ค้นหา Keyword คำว่า “Metaverse” เป็นจำนวนถึง 677,000 ครั้ง รวมทั้งการใช้ แฮชแท็ก #metaverse บน Instagram มากกว่า 60,000 โพสต์ และการกล่าวถึงหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse บน Twitter มากกว่า 500 ครั้ง
ภาพจาก influencermarketinghub.com
จากสถิติต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปนั้น ทำให้เราเห็นว่าโลกของเราเดินหน้าไปไกลด้วยเทคโนโลยีที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่จินตนาการอีกต่อไป โดยในวันนี้ผู้เขียนจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Metaverse ว่ามันคืออะไร และทำไมแบรนด์ควรทำการตลาดผ่านเทคโนโลยีโลกเสมือนจาก Metaverse กันค่ะ
Metaverse คืออะไร
Metaverse คือพื้นที่ดิจิทัล ที่จำลองสภาพแวดล้อมโลกเสมือนจริงให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งผสมผสานเข้ากับ เทคโนโลยีจำลองภาพเสมือนจริง (Virtual Reality) และ การผสมผสานระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือน (Augmented Reality) โดย Metaverse นั้นเปรียบเสมือนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบสามมิติ ที่อาจมีมากกว่าแว่นตาสามมิติที่ใช้ดูภาพเสมือนจริงธรรมดา แต่จะเป็นการท่องโลกดิจิทัลแบบใหม่ที่ผู้ใช้สามารถสร้างตัวตนแบบ Avatar เพื่อทำกิจกรรมในโลกเสมือนได้ด้วยเช่นกัน
คุณลักษณะของ Metaverse
ภาพจาก influencermarketinghub.com
-
มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา
Metaverses ไม่เคยหยุดนิ่งถึงแม้ว่าคุณจะเลิกเข้าไปในโลกเสมือนแล้ว แต่สิ่งต่าง ๆ ในโลกเสมือนยังคงเคลื่อนไหวและดำเนินต่อไป
-
Metaverse เกิดขึ้นในเวลาของโลกปัจจุบัน
Metaverse มีช่วงเวลา Timeline ที่ประสานกับช่วงเวลาของโลกแห่งความเป็นจริง
-
ผู้ใช้งานต่างทำกิจกรรมส่วนตัวได้โดยไม่ต้องข้องเกี่ยวกับผู้เล่นอื่น
ผู้ที่เข้าไปอยู่ในโลก Metaverse ไม่จำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์กัน หรือทำกิจกรรมร่วมกัน แต่สามารถแชร์โลกเสมือนร่วมกันได้
-
เป็นจักรวาลที่มีการสร้างกลไลการทำงานได้ด้วยตนเอง
หมายความว่า Metaverse คือโลกเสมือนที่ผู้ใช้งานเลือกที่จะสร้างสิ่งต่าง ๆ เป็นเจ้าของ ซื้อขาย หรือลงทุนได้ เช่นเดียวกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ บนโลกของความเป็นจริง เช่นการลงทุนในเทคโยโลยีบล็อคเชน เพื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สินดิจิทัล
-
มีแพลตฟอร์มที่หลากหลายเชื่อมต่อกัน
เช่น การนำไอเท็มจากเกมหนึ่งไปใช้กับอีกเกมหนึ่งได้
ในโลกของ Metaverses ผู้ใช้งานสามารถสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบของ User-Generated Content เพื่อให้คนอื่น ๆ สามารถเข้ามาร่วมแสดงความเห็นและทำกิจกรรมต่าง ๆได้
การตลาดในโลกของ Metaverse
นักการตลาดในยุคของดิจิทัลควรหันมาทำความเข้าใจ และคอยอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีของ Metaverse ค่ะ เพราะแน่นอนว่าการเข้ามาของเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ย่อมส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในวงการของการตลาด ที่สามารถช่วยในเรื่องของการสื่อสารและการเข้าถึงผู้คนในรูปแบบใหม่ๆได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มคนยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่เป็นออนไลน์กันมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น Metaverse จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่แทรนด์ใหม่ที่มาและจากไปอย่างรวดเร็ว แต่เป็นการเข้ามาของเทคโนโลยีที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ทราบแบบนี้แล้วต่อมาเรามาดูแนวทางในการนำ Metaverse มาใช้ในทางการตลาดกันค่ะ
การนำ Metaverse มาประยุกต์ใช้กับการตลาดราวกับในโลกความเป็นจริง
ในปัจจุบันได้มีธุรกิจที่สามารถสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าโดยผสมผสานเข้ากับโลกเสมือนจริงได้อย่างลงตัว สามารถสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับกลุ่มคนจำนวนมาก และยังสร้างผลตอบรับจำนวนมาก โดยธุรกิจสามารถสร้างโลกใน Metaverse ให้เหมือนกันโลกในชีวิตจริงได้อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น Stella Artois บริษัทที่เป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันในสนามระดับพรีเมียม ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มที่มีชื่อว่า ZED Run ซึ่งเป็นแพลต์ฟอร์มการแข่งขันม้าออนไลน์ ให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อขายม้าแข่งได้อย่างเสมือนจริง โดยการใช้โทเคน หรือ NFT (non-fungible token) ในการซื้อขาย ซึ่งเป็นวิธีใหม่ในการซื้อและขายสินค้าดิจิทัล หรือ Blockchain บนโลกออนไลน์ค่ะ
ภาพจาก influencermarketinghub.com
การสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้าในรูปแบบ Immersive
Metaverse จะทำให้คุณบอกลาการทำโฆษณาในรูปแบบเดิมๆ ด้วยการทำโฆษณาแบบ Virtual ในโลกของ Metaverse ค่ะ ผู้เขียนขอพาทุกท่านมารู้จักกับ Bidstack บริษัทด้านเทคโนโลยีการโฆษณาบน Video game ซึ่งเป็นการสร้างป้ายโฆษณาที่เสมือนกับโลกความเป็นจริงแต่มาถูกวางมาอยู่บนป้ายโฆษณาแบบ Virtual นั่นเองค่ะ
ภาพจาก bidstack.com
นอกเหนือไปจากการวางบนป้ายโฆษณาในรูปแบบของ Virtual แล้ว นักการตลาดสามารถนำมาต่อยอดและปรับเปลี่ยนประโยชน์จากโลกของ Metaverse ได้ เนื่องจาก Metaverse สามารถมอบประสบการณ์ได้อย่างเสมือนจริงและในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติอย่างมาก เราจึงสามารถนำไปประยุกตร์ในการนำเสนอแบรนด์หรือสินค้าบน Placement อื่นๆ ในโลกของ Metaverse โดยเป็นการ Tie in แบรนด์ไปแบบเนียนๆ ได้
ตัวอย่างอื่นๆ สำหรับการสร้างประสบการณ์ในแบบ Immersive เช่น คอนเสิร์ต Lil Nas X ใน Roblox , การเยี่ยมชม Gucci Garden และการจำลองเสมือนของย่าน Washington Heights ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการโปรโมต In the Heights เป็นต้น
การสะสม Brand Collection ในโลกของ Metaverse
ผู้คนส่วนใหญ่ชื่นชอบการสะสมสิ่งของ เพราะเป็นอีกหนึ่งวิธีในการแสดงออกถึงความชื่นชอบและความสนใจกับบางสิ่งบางอย่างค่ะ ดังนั้นอีกรูปแบบหนึ่งของการทำการตลาดในโลกของ Metaverse คือ การทำ Special Collection ให้สะสม โดยมีจำนวนจำกัดที่จะสามารถนำไปครอบครองได้
ตัวอย่างเช่น The Gucci Garden Experience Lands บนแพลตฟอร์มของ Roblox เปิดเป็น Gucci Garden ให้ผู้เล่น Roblox เข้ามาเดินชมสินค้าในเกม ซึ่งได้รับความนิยมถึงขนาดทำสถิติยอดผู้เล่นสูงถึง 164 ล้านคนในหนึ่งเดือนมาแล้ว และ ได้ทำ Limited ไอเทมของ Gucci ให้สะสมในโลก Metaverse ซึ่งได้ทำเงินไปอย่างมหาศาลค่ะ
ภาพจาก blog.roblox.com
เรียนรู้และทำความเข้าใจโลกของ Metaverse
เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้คนจะรู้สึกถึงความน่ารำคาญเมื่อถูกโฆษณาสินค้าบางอย่าง ดังนั้นในโลกของ Metaverse ก็เช่นเดียวกันค่ะ การที่แบรนด์พยายามจะเข้าไปอยู่ในโลกของ Metaverse จึงต้องทำการศึกษาและทำความเข้าใจถึงรูปแบบของ Metaverse เป็นอย่างดี ก่อนที่จะเข้าไปกำหนดแนวทาง หรือ กลยุทธ์ในการทำการตลาดได้ ตัวอย่างเช่นในแพลตฟอร์มของ Roblox แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จโดยส่วนใหญ่จะเป็นเคมเปญที่ร่วมมือกับนักพัฒนาของแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเข้าใจในโลกของ Metaverse เป็นอย่างดี
เนื่องด้วย Metaverse ยังถือว่าเป็นเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ จึงไม่ได้มีกฏเกณฑ์ รูปแบบ หรือข้อบังคับที่ตายตัวสำหรับนักการตลาดในโลกของ Metaverse จึงยังต้องอาศัยการทดลอง เพื่อพัฒนากลยุทธ์และเทคนิคในโลกใบใหม่ในรูปแบบเสมือนจริงอย่างเหมาะสมกันต่อไปค่ะ
ตัวอย่างแบรนด์ที่ทำการตลาดโดยใช้ Metaverses
ในปัจจุบันมีหลายธุรกิจที่เริ่มลงทุนเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ทำ Metaverse ไม่ใช่แค่เพื่อวัตถุประสงค์ของความบันเทิงแต่เพียงอย่างเดียว แต่ในเชิงของการทำธุรกิจก็เช่นกัน
Facebook มองตัวเองในอนาคตว่าจะนำแนวคิด Metaverse มาปรับใช้ในองค์กร มาร์ก ซักเคอร์เบิร์คเจ้าของ Facebook ยังกล่าวไว้อีกว่าจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างเครือค่ายสังคมออนไลน์ Metaverse และหันมาลงทุนใน Oculus, เทคโนโลยี AR และ VR บนแพลตฟอร์มมากขึ้นอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นค่ะ Silicon Valley หรือกลุ่มแบรนด์ที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก ก็กำลังให้ความสนใจกับแนวคิด Metaverse ในแง่มุมของการเป็นส่วนหนึ่งในเครือค่ายอินเตอร์เน็ตบนแพลตฟอร์มของตัวเองในอนาคตนี้เช่นกัน ในปัจจุบันมีหลากหลายเกมที่นำไอเดียนี้ไปปรับประยุกต์ใช้ ยกตัวอย่างเช่น เกม Fortnite และ Animal Crossing ที่มีการจัดคอนเสิร์ตภายในแพลตฟอร์มเกมของตัวเอง
รวมถึงผู้นำในเรื่องเทคโนโลยี VR ระดับโลกอย่าง HTC ก็กำลังหาหนทางสร้างโอกาสให้กับธุรกิจจากไอเดียนี้อยู่เช่นกัน จากเมื่อก่อนที่มุ่งเน้นไปที่การเลือกเอากลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นตัวตั้งแล้ว และนำไปต่อยอดวางแผนธุรกิจ แต่ในตอนนี้ถ้าแบรนด์ได้เปลื่ยนทิศทางไปให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีในเชิงธุรกิจ หรือเชิงพาณิชย์มากขึ้น จึงเป็นสัญญาณอีกอย่างหนึ่งว่าในวันข้างหน้า เทคโนโลยี VR จะค่อย ๆ กลายเป็นมากกว่าแค่การให้ความบันเทิงแก่ผู้บริโภค
หากแนวคิดที่ว่านี้สามารถเกิดขึ้นได้จริง ในอนาคตเราบางทีเราอาจจะสามารถซื้อขายบ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์ในโลก Metaverse ก็เป็นได้ค่ะ น่าสนใจมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ สำหรับการมีบ้านอยู่ในโลกใบที่ 2 คงต้องติดตามรอดูกันค่ะ ว่าเราจะสามารถไปถึงตรงนั้นได้หรือไม่
ภาพจาก earth2.io
ความท้าทายของการใช้ Metaverse
ในส่วนของความท้าทายที่น่าตื่นเต้นสำหรับแบรนด์ต่าง ๆ ในการนำแนวคิด Metaverse ไปเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น เนื่องจากเทคโนโลยีที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาการใช้ Metaverse ทำให้แบรนด์ต้องอาศัยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์สเปคที่สูง และเลนส์ VR เพื่อรองรับการใช้งาน
จึงกลายเป็นข้อจำกัดสำหรับแบรนด์ที่ต้องการจะเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ และการที่จะทำการตลาดให้ประสบความสำเร็จในวงกว้าง
ในทางกลับกัน แบรนด์ต้องตั้งข้อสังเกต และระมัดระวังกับข้อเสียของ Metaverse เช่นกันค่ะ
เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งใหม่ จะต้องระวังไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด และไม่ทุกคนที่จะเข้าใจแนวคิดนี้ ซึ่งอาจะทำให้แบรนด์มีความเสี่ยงในเรื่องของการรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์ และยิ่งเราต้องควบคุมผู้ใช้ใน Metaverse นี้มากเท่าไหร่ ความเป็นไปได้ที่จะเกิดคำถามมากมายเกี่ยวคอนเทนต์ที่ได้ปล่อยออกไปก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
รวมถึงในเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ก็จัดเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตามอง การยืนยันตัวตนจากผู้ใช้อย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอในการป้องกันเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานในการนำ Metaverse มาใช้งาน
ดังนั้นแบรนด์ที่ต้องการที่จะนำเทคโนโลยีไปใช้นั้นต้องทำให้แน่ใจว่ามันเป็นมิตรกับโลกเห็นความเป็นจริง และการประยุกต์ในโลก Metaverse ในการวางกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อให้ผู้ใช้เกิดความสบายใจในการใช้พื้นที่บนโลกออนไลน์ และการมี Engagement หรือการมีส่วนรวมกับแคมเปญของคุณที่ได้ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง
แต่อย่างไรก็ตาม การใช้ Meterverse นี้ต้องอาศัยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ขั้นสูง และระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ถ้าสิ่งเหล่านี้สามารถพัฒนาได้อย่างที่เราคาดการณ์ไว้นั้น ก็จะเป็นโอกาสที่ดีนักการตลาด หรือนักโฆษณาจะได้ลงมือทำในการได้ทดลง นำเสนอประสบการณ์ที่แปลกใหม่กับแบรนด์ผ่านการทำแนวคิด Metaverse ไปต่อยอดในแคมเปญการตลาดที่สามารถใช้ได้จริง สร้างรายได้ให้กับแบรนด์อย่างมหาศาลจากการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวนี้ค่ะ
สรุป
Metaverse หรือพื้นที่จำลองในโลกดิจิทัลแบบเสมือนจริง จะเข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตของเรามากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา เกม ความบันเทิงต่าง ๆ และด้านธุรกิจ หากแบรนด์ของคุณสามารถนำไอเดีย Metaverse มาใช้ให้เข้ากับแคมเปญ หรือการสร้างคอนเทนต์ของคุณให้โดดเด่น จะเป็นช่องทางสำคัญที่จะนำลูกค้าของคุณไปสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ล้ำสมัย และได้ประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น และนั่นคือกุญแจที่จะนำแบรนด์ของคุณไปสู่การเปิดช่องทางในการขาย และกลายเป็นที่รู้จักในตลาดทั้งในรูปแบบออนไลน์ และ ออฟไลน์
ที่มา:
influencermarketinghub.com
