Words are, of course, the most powerful drug used by mankind.
Rudyard Kipling
ข้อความที่ผู้เขียนได้หยิบยกมาให้อ่านกันในวันนี้คือ คำพูดจากนักเขียนชื่อดังชาวอังกฤษที่ชื่อว่า Rudyard Kipling ซึ่งผลงานที่เราน่าจะรู้จักกันดีก็คือนิยายเรื่องเมาคลีลูกหมาป่า ซึ่งประโยคนี้มีความหมายว่า
“ แน่นอนว่า คำพูด คือยาที่ทรงพลังที่สุดที่มนุษย์ใช้ ”
นอกจากคำพูดจากการสนทนาแล้ว ตัวอักษรที่เราได้เขียนขึ้นมาก็ถือว่าเป็นคำพูดด้วยเช่นกัน ซึ่ง วลีและประโยคจากการเขียน จะเป็นกุญแจสำคัญของผู้ประกอบการ เพื่อดึงดูดให้ผู้อ่านได้คลิกโฆษณาเข้ามาที่หน้าเว็บไซต์ของคุณ โดยสิ่งแรกที่ผู้อ่านจะสามารถเห็นได้จากการโฆษณาคือ Headline หรือการเขียนหัวข้อ ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญในการสื่อสาร นอกจากรูปภาพที่ใช้ในการนำเสนอแบรนด์แล้ว สิ่งหนึ่งที่ลูกค้าจะตัดสินใจคลิกหรือไม่ ก็คือ Headline โฆษณาค่ะ
การเขียนหัวข้อโฆษณาให้น่าสนใจ เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญในการสื่อสาร เพื่อสร้าง Brand Awareness และเพิ่มยอด Traffic บนหน้าเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีค่ะว่า ช่องทางการทำธุรกิจออนไลน์บนโลกโซเชียลนั้นมีหลากหลาย และแพลตฟอร์มที่ผู้ประกอบการมักใช้พื้นที่เพื่อทำการตลาดและโฆษณาสินค้า คือ Facebook
เขียน Headline ในโฆษณาบน Facebook ได้อย่างไร?
อันดับแรกของการทำโฆษณา คือการเขียน Headline เพื่อสื่อสารไปยังผู้อ่านว่า แบรนด์ของเราคืออะไร มีสินค้าและบริการอะไรมานำเสนอ หรือแบรนด์ของเรามีโปรโมชันอะไรบ้าง ซึ่งควรเขียนหัวข้อไม่เกิน 40 ตัวอักษร และ Headline จะไปปรากฏอยู่ที่ส่วนล่างของภาพ หรือมีเดียของ Ad ค่ะ
นอกจากตัว Headline แล้ว เรามาดูข้อความตรงจุด Primary Ad Text กันต่อเลยค่ะ
Primary Ad Text คือข้อความที่จะแสดงผลให้ผู้อ่านได้เห็น โดยที่ข้อความจะอยู่เหนือภาพหรือวิดีโอ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถสร้างข้อความได้ 3 บันทัดต่อโพสต์ และผู้อ่านสามารถกด See More เพื่ออ่านข้อความเพิ่มเติมได้ในส่วนที่เหลือ
ตัวอย่างการตั้งค่าเพื่อเขียน Headline และ Primary Ad Text
จากภาพด้านล่าง คือตัวอย่าง Headline ที่เน้นข้อความด้วยตัวหนา และ Primary Ad Text ทางด้านบนของภาพคือคำอธิบายคร่าว ๆ เพื่อสื่อสาร
การเขียน Headline ด้วยการใช้เทคนิคลดราคาสินค้า หรือการนำเสนอคุณภาพของสินค้า สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถเพิ่มอัตราการคลิกและยอด Engagement ได้จากการนำเสนอจุดเด่นของการขายเช่น
- ลดทันที 15% คลิกเลย
- สินค้าเกรดพรีเมียม ทำจาก ฝ้าย 100%
- ฟรี 30 ท่านแรกที่สมัคร เป็นต้น
นอกจากนี้การทำ Headline ด้วยวิธีการใช้ Carousel Ads (การนำเสนอ Ad ด้วยวิธีการโพสต์รูปภาพแบบสไลด์โชว์ ) เป็นการเพิ่มลูกเล่นในการนำเสนอ Ad ให้แก่ลูกค้าอีกช่องทางหนึ่งค่ะ
ข้อควรระวังในการสร้าง Headline บน Facebook Ad
- ไม่ใส่ Headline
ข้อผิดพลาดประการแรกเลยคือ การไม่ใส่หัวข้ออะไรเลยใน Ad ถึงแม้ว่างลูกค้าจะเข้าใจว่าแบรนด์กำลังจะสื่ออะไร และการใส่ Headline ในหัวข้อตั้งค่าเขียนว่าเป็นตัวเลือก (Optional) แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้ามโอกาสที่จะทำให้ลูกค้าสนใจคลิก Ad นะคะ
- Headline ขาดความน่าสนใจ
ภาพตัวอย่างด้านล่างได้อธิบายถึงโปรโมชันลดราคา สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้าในวันพ่อ แต่ Headline มีเพียงแค่ชื่อแบรนด์ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถใส่ข้อความสั้น ๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและชักจูงให้ผู้อ่านอยากคลิกมาที่หน้าเว็บไซต์ได้มากกว่านี้ เช่น “คลิกเลย”, “โอกาสพิเศษเพื่อคนที่คุณรัก” เป็นต้น
- Headline ที่มีความหมายกำกวม
บางครั้งเราอาจะเขียนวลีเด็ด ๆ บน Headline เพื่อให้ลูกค้าสนใจ แต่บางครั้งผู้อ่านอาจตีความหมายผิด หาก Ad ไม่ได้สื่อสารอย่างชัดเจน เช่น
ตัวอย่างจากแบรนด์ Byte ได้โฆษณาสินค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ครอบฟัน ซึ่งคำอธิบายตรงช่อง Primary Ad Text ได้นำเสนอข้อดีจากแบรนด์ได้ชัดเจน แต่ Headline นั้นไม่ได้สื่อถึงที่ครอบฟันเท่าได้ชัดเจนที่ควร ซึ่งหาก Headline แปลเป็นภาษาแล้ว จะมีความหมายประมาณว่า สร้างความมั่นใจได้ด้วยการทดลองขับ
ซึ่งคำว่า ทดลองขับ หรือ Test Drive ใน Ad ความจริงแล้วแปลว่า การทดลองใส่ที่ครอบฟัน ดังนั้น การตั้งชื่อ Headline จึงต้องตระหนักถึงความชัดเจนในการสื่อสารด้วย
ข้อแนะนำสำหรับการเขียน Headline :
- เขียนถึงความมั่นใจเมื่อได้ใส่ที่ครอบฟัน และทำให้ยิ้มสวยขึ้น เช่นเดียวกับนางแบบบนโฆษณา
- กล่าวถึง Free Trial ในช่วงแรก หรือการลดราคา
5 เทคนิคการเขียน Headline บน Facebook Ads ที่มีประสิทธิภาพ
1. นำเสนอหัวข้อที่สร้างความรู้สึกเชิงบวก
การเขียน Headline ที่ทรงพลังและสร้างสรรค์ เปรียบเสมือนประตูที่ลูกค้าจะเปิดเข้ามาสู่แบรนด์ของคุณ ดังนั้นการเขียนหัวข้อที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกในเชิงบวก รวมไปถึงการใช้ภาพที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นถึงอารมณ์ สามารถเพิ่มโอกาสให้ลูกค้ากดเข้ามาดูสินค้าได้มากขึ้น
ตัวอย่างจากแบรนด์เสื้อผ้าออกกำลังกาย Vuori ที่นำความรู้สึกสบายเมื่อสวมใส่บนหัวข้อ Headline และนำเสนออารมณ์สบาย ๆ ของนางแบบที่กำลังใส่กางเกงไปปีนเขา รวมไปถึงการเขียนรีวิวจากลูกค้า ที่ได้เคยใส่กางเกงนี้ไปแล้ว (แถมติดดาวให้อีกด้วย) การสร้าง Ad แบบผสมผสานแต่ยังคงอยู่ในแนวคิด ของการนำเสนอลูกค้าในเชิงบวก จะทำให้ลูกค้ารู้สึกดีไปกับแบรนด์ของเรา และสนใจอยากคลิกเข้ามาดูรายละเอียดของสินค้า
ตัวอย่างที่ 2 คือโฆษณาพรมเช็ดเท้าจาก Porch + Hall ที่สร้างความรู้สึกให้ผู้ใช้เกิดความประทับใจ ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าบ้านด้วยการเขียน Headline เพื่อชักจูงให้ผู้อ่านอยากสร้างความประทับใจเมื่อก้าวเท้าเข้าบ้านตั้งแต่ก้าวแรก และใช้ Primary Ad Text มาซัพพอร์ตหัวข้ออีกที
2. เน้นไปที่โปรโมชันลดราคาและข้อเสนอสุดคุ้ม
ผู้เขียนบอกได้เลยค่ะว่าร้อยทั้งร้อย ทุกคนชอบสินค้าและบริการที่มีโปรโมชันและข้อเสนอพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น
- การลดราคา
- การซื้อ 1 แถม 1
- การส่งสินค้าฟรีทั่วประเทศ
- การรับสิทธิทดลองใช้บริการ
การยื่นข้อเสนอเหล่านี้ด้วยการนำไปเป็น Headline บนหน้า Facebook Ad อีกทั้งการเน้นข้อความตัวหนาและการสร้างปุ่ม Call to Action เพื่อให้คลิกง่าย ๆ คือตัวช่วยที่ทรงพลังสำหรับผู้ประกอบการ ซึ่งเทคนิคการเขียน Headline ข้อความที่ใส่จะต้องไม่เกิน 40 ตัวอักษร
ตัวอย่างภาพจากแบรนด์ STARKS ที่นำเสนอ Headline ด้วยการนำเสนอโปรโมชันซื้อ 4 ฟรี 1 และไม่มีค่าจัดส่ง
ตัวอย่างที่ 2: Peet’s Coffee ยื่นข้อเสนอด้วยการลดราคา 30% เมื่อลูกค้ากดสั่งกาแฟด้วยการใช้รหัสสินค้า
จากภาพด้านบน จะเห็นได้ว่า Peet’s Coffee เน้นการนำเสนอสินค้าด้วยการเขียนโปรโมชันไว้บน Headline และ Primary Ad Text เพื่อเน้นย้ำให้ผู้อ่านตัดสินใจรับข้อเสนอ
3. นำเสนอจุดเด่นของสินค้าและบริการ
การใช้จุดเด่นของสินค้าและบริการนั้น ๆ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ของเรามีข้อดีและแตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ที่อยู่ในตลาด หรือที่เราเรียกว่า Unique Selling Proposition (USP) นอกจากจะเพิ่มความน่าสนใจให้แก่สินค้าและบริการแล้ว ยังทำให้แบรนด์กลายเป็นที่จดจำของลูกค้าได้อีกด้วย
ตัวอย่าง การนำจุดเด่นมาเป็นจุดขายจากแบรนด์ Joss & Main ที่โฆษณาเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านด้วยการใช้ Headline ที่สั้นและกระชับ เน้นที่สินค้าคุณภาพดี และมีราคาจับต้องได้
ตัวอย่างที่ 2 ของการนำเสนอความแตกต่างที่แบรนด์คู่แข่งไม่มี มานำเสนอแคมเปญ คือแบรนด์ Purple ที่โฆษณาสินเชื่อเพื่อให้ลูกค้ากู้ยืมเงิน โดยมีอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี
4. การใช้คำพูดที่ดูไม่ยัดเยียดจนเกินไป
เมื่อผู้ประกอบการเริ่มการทำโฆษณาบน Facebook จะทราบว่า ปุ่ม Call to Action สามารถใช้คำพูดอื่นนอกจากคำว่า Shop Now หรือ ซื้อเลย ได้ซึ่งผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้คำพูดอื่น ๆ ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่ถูกกดดันจนเกินไป เช่นคำว่า รายละเอียดเพิ่มเติม หรือ Learn More แทน
5. ใช้ Headline อธิบายรายละเอียดสินค้า
บางแบรนด์ทำโฆษณาบน Facebook Ad ด้วยการเขียนคำอธิบายถึงสรรพคุณ ข้อดี และรายละเอียดเพิ่มเติมที่หัวข้อ Headline เพราะลูกค้าเห็นได้ง่าย โดยคำอธิบายสั้น ๆ แต่กระชับได้ใจความทำให้ลูกค้าตัดสินใจอยากเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หน้าเว็บไซต์ได้ ซึ่งเทคนิคนี้เป็นการนำข้อความจาก Primary Ad Text มาใส่ใน Headline แทน
ตัวอย่างแบรนด์ Shine Bathroom ได้โฆษณาสินค้า เครื่องล้างสุขภัณฑ์ด้วยคำสั่งเสียง โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์คือความสามารถในการใช้คำสั่งเสียงเพื่อดำเนินการล้างเครื่องสุขภัณฑ์ มาเป็นตัวบรรยายข้อความตรงตำแหน่ง Primary Ad Text แทน และใช้ Headline เพื่อบรรยายสินค้า
เทคนิคการเขียน Headline บน Facebook Ad ในรูปแบบของ Carousel
นอกจากเทคนิคหลัก ๆ ทั้ง 5 วิธีสำหรับการสร้างหัวข้อ Headline ผู้เขียนยังมีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถนำไปใช้กับการสร้างโฆษณาในรูปแบบของสไลด์โชว์มาฝากกันค่ะ
- ไม่เขียน Headline ที่ซ้ำกันในแต่ละรูป
ถึงแม้ว่าในหนึ่งโพสต์นั้นมาจากแบรนด์เดียวกัน แต่ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอต่างกัน ควรเขียน Headline ให้เข้ากับสินค้าและบริการนั้น ๆ
- เน้นถึงประสบการณ์ หรือสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ
ตัวอย่างจากแบรนด์ชุดนอน KIM + ONO ที่ได้โฆษณาชุดนอนแบบต่าง ๆ แต่เขียนข้อความให้แตกต่างกันออกไปโดยขึ้นอยู่กับจุดเด่นของสินค้าชิ้นนั้น ๆ
- ใช้ข้อความที่ลูกค้ารีวิวขึ้นเป็น Headline
การใช้คำแนะนำบอกต่อข้อดีของแบรนด์มาเป็นจุดแข็งของการทำโฆษณา คือสิ่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม จากแบรนด์รองเท้าที่เป็นตัวอย่างด้านล่างได้นั้นข้อความสั้น ๆ มาใส่เอาไว้ในหัวข้อ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าดีจริง และคุ้มค่าที่จะซื้อ
สรุป
เทคนิคการเขียน Headline บน Facebook Ad สามารถสร้างโอกาสเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการให้แก่แบรนด์ได้ ซึ่งผู้เขียนได้รวบรวมเอาไว้ 5 เทคนิคดังต่อไปนี้
- การนำเสนอหัวข้อที่สร้างความรู้สึกในเชิงบวก
- การเขียนหัวข้อด้วยการใช้โปรโมชันเพื่อดึงดูดความสนใจ
- การนำเสนอจุดเด่นของสินค้าและบริการ
- การใช้คำพูดที่ไม่ยัดเยียดจนเกินไป
- การใช้ Headline อธิบายรายละเอียดสินค้า
การทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์ หรือออนไลน์ สิ่งที่ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงคือความรู้สึกและทัศนคติของลูกค้า เพื่อสร้างความเข้าใจก่อนการสื่อสาร ซึ่งการสื่อสารที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า จะเป็นการสร้างโอกาสให้แบรนด์สามารถเติบโตต่อไปได้ในโลกออนไลน์แบบยั่งยืน
ข้อมูลจาก:
https://adespresso.com/