ง่ายกว่าที่คิด! 6 ขั้นตอนการทำ Instagram Shopping ที่ใคร ๆ ก็ทำได้

 

• 3 เหตุผลที่ผู้ประกอบการควรมี Instagram Shopping เพื่อลูกค้าและตัวแบรนด์เอง
• บทความนี้จะช่วยแนะนำวิธีทำธุรกิจออนไลน์ผ่าน Instaram Shopping ด้วยการอธิบายขั้นตอนการติดตั้งระบบแบบ Step-by-Step
• 3 เทคนิคการโปรโมตร้านผ่าน Instagram Shopping ที่ใช้แล้วได้ผลจริง

การทำการตลาดออนไลน์โดยการใช้แพลตฟอร์มบนโลกโซเชียล ก็เหมือนการมองหาทำเลหน้าร้าน ยิ่งร้านไหนอยู่ในทำเลทอง มองหาง่าย แถมหน้าร้านยังสวยสะดุดตา ก็ยิ่งทำให้ลูกค้าสนใจมากเท่านั้น

หนึ่งในช่องทางที่คนไทยนิยมซื้อขายสินค้าออนไลน์ แน่นอนว่าจะต้องมี Instagram เป็นอันดับต้น ๆ  เหตุผลหลัก ที่นักชอปทั้งหลายใช้ Instagram ไม่ได้เพียงแค่การโพสต์รูปและวิดีโอสวย ๆ ผ่านแอป แต่ Instagram ยังเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ผู้ใช้สามารถสร้าง Community  และสามารถติดตามแอคเคาท์ที่เราต้องการได้แบบเฉพาะบุคคล ดังนั้นผู้ประกอบการที่กำลังมองหาช่องทางออนไลน์สำหรับการโฆษณาสินค้าและบริการ ไม่ควรพลาดช่องทาง Instagram Shopping นี้ค่ะ

 

เหตุผลดี ๆ ที่ควรสร้างแบรนด์บน Instagram Shopping: 

• ผลสำรวจจาก Orberlo เผยว่าผู้เล่น Instagram อย่างน้อย 500 ล้านคนเปิด Instagram ทุกวัน เพื่อเช็คข่าวสารประจำวันและซื้อสินค้าผ่านแอป
• 50% จากผู้ที่เล่น Instagram ติดตามแอคเคาท์ที่เป็นแบรนด์ธุรกิจมากกว่า 1 แบรนด์
• ปัจจุบันมีธุรกิจออนไลน์ลงทุนผ่าน Instagram มากกว่า 71% แถมยังมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก ๆ ปี
• แบรนด์ต่าง ๆ ใช้แฮชแท็กสำหรับการทำโฆษณา มากถึง 133%
• ผู้ใช้ Instagram มีปฏิสัมพันธ์ (Engagement) กับแบรนด์สูงถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับ Facebook

ดังนั้น STEPS Academy จะมาแนะนำเครื่องมือ  Instagram Shop ให้แก่ผู้ประกอบการและผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในการโปรโมตสินค้าที่ไม่ซับซ้อน ปิดการขายง่าย และวิธีการติดตั้งมีเพียงไม่กี่ขั้นตอน แต่กลับสร้างยอดขายได้มหาศาลและสามารถสร้างแบรนด์กลายเป็นที่รู้จัก จะมีขั้นตอนการติดตั้งอย่างไร และเครื่องมือตัวนี้มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ

 

Instagram Shop คืออะไร ?

Instagram Shop เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้การขายสินค้าและการโฆษณาบน Instagram เป็นเรื่องง่าย ด้วยการโพสต์สินค้าและบริการผ่านแอคเคาท์ Business ที่เรามี ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันกับการโพสต์รูปภาพและวิดีโอผ่าน รวมไปถึงการโพสต์  Instagram ค่ะ

การโพสต์สินค้าต่าง ๆ ผ่านหน้าโพรไฟล์สามารถทำได้ด้วยการคลิกที่ปุ่ม “Shop” ซึ่งเป็นแท็บด้านล่างรายละเอียดโพรไฟล์และไฮไลท์

จากภาพด้านล่าง เป็นตัวอย่างการใช้งานฟีเจอร์ Shop จากแบรนด์นาฬิกา MVMT เมื่อผู้เล่น Instagram กดเข้าไป สินค้าต่าง ๆ ในแคตตาล็อกจะปรากฏขึ้นมาโดยไม่ต้องเสียเวลาออกจากแอป

 

นอกจากนี้ การแท็กสินค้าจากหน้าโพสต์เพื่อลิงก์มายังหน้า Shop ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกับการแท็กเพื่อนอีกด้วย

จากภาพด้านล่าง แบรนด์ Jasper Boutique ใช้วิธีการแท็กสินค้าเพื่อเข้าไปยังหน้า Shop เพื่อให้ลูกค้าเข้าไปเลือกดูสินค้าและรายละเอียดได้ ด้วยการคลิกไอคอน ถุงชอปปิงจากมุมซ้ายล่าง

 

ใน 1 โพสต์ สามารถแท็กสินค้าได้สูงสุด 5 ชนิด และสามารถแท็กสินค้าได้ 20 ชนิดต่อ 1 โพสต์ที่เป็นรูปแบบ Carousel (โพสต์ที่สามารถนำเสนอภาพหรือวิดีโอพร้อมกันได้หลาย ๆ ภาพ)

หากต้องการอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แนวทางสร้างสรรค์โฆษณารูปแบบ Carousel บนโซเชียลมีเดีย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ ที่นี่

ไม่ใช่แค่เพียงการโพสต์ภาพและวิดีโอลงหน้าฟีด ที่สามารถแท็กสินค้าได้ การใช้ Instagram Story ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ เรามาดูตัวอย่างจากภาพด้านล่างกันได้เลย

ภาพตัวอย่างการใช้แท็กจากแบรนด์เสื้อผ้า Gap ที่สามารถเปิดดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่หน้า Shop

การใช้สติกเกอร์เพื่อโปรโมตสินค้า ผู้ประกอบการสามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งสติกเกอร์สำหรับแท็กสินค้านี้ เริ่มทยอยเปิดให้ใช้กันในบางประเทศแล้วค่ะ

ตัวอย่างสติกเกอร์ที่ Instagram ออกแบบเพื่อให้แบรนด์ออนไลน์ได้ใช้แท็กสินค้า

ตัวอย่างหน้าจอที่ปรากฏบนแอคเคาท์ของผู้เล่นทั่วไป ซึ่งสามารถเปิดดู Story ที่แต่ละแบรนด์ใช้สติกเกอร์แท็กสินค้า หรือเกี่ยวข้องกับแคมเปญ Small Business โดยเฉพาะ

ก่อนที่เราจะไปติดตั้งหน้า Instagram Shop เรามาดูรายละเอียดต่าง ๆ ที่ใช้ในการนำเสนอสินค้าและบริการกันค่ะ

• ชื่อและรุ่นสินค้า
• รูปภาพประกอบ (สำคัญมาก ๆ บน Instagram!)
• รายละเอียดสินค้าที่ลูกค้าจำเป็นต้องทราบ
• ราคาสินค้าและบริการ
• ปุ่มที่สามารถคลิกเพื่อลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของแบรนด์
• รายละเอียดของสินค้าที่มีความใกล้เคียง (เพิ่มโอกาสในการขาย)

 

3 เหตุผลที่ผู้ประกอบการควรมี Instagram Shopping 

1. ช่วยให้การซื้อขายกลายเป็นเรื่องที่สะดวก ง่าย ไม่ซับซ้อน

หากลูกค้าไม่สามารถเดินทางมาหาเราได้ถึงร้าน ยุคดิจิดทัลแบบนี้ ร้าน สามารถเดินทางไปหาลูกค้าได้แล้ว

ข้อดีในการทำธุรกิจ E-Commerce คือการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มอำนวยความสะดวก ให้ทั้งตัวผู้บริโภคและผู้ผลิตสินค้าได้ทำการซื้อขายกันโดยไม่มีอุปสรรค ในเรื่องของระยะทางอีกทั้งการชอปปิงผ่าน Instagram Shop ไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าเว็บไซต์ของแต่ละแบรนด์ให้ยุ่งยาก ก็สามารถซื้อสินค้าได้โดยตรง

นอกจากนี้ ใน Instagram ยีงมีฟีเจอร์ “Save” สำหรับผู้ที่ต้องการบันทึกรูปภาพสินค้าที่ลูกค้ารู้สึกว่า อยากได้ ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อสินค้าหรือไม่ โดยนำโพสต์เหล่านั้นมาเก็บไว้ก่อน และเรียกกลับขึ้นมาดูได้ในวันหลัง เมื่อต้องการซื้อสินค้าอีกครั้ง

 

ข้อดีอีกประการหนึ่ง เมื่อลูกค้าทำการหยิบสินค้าใส่ตะกร้าไปแล้ว ระบบบน Instagram Shop จะเชื่อมต่อไปยังแอคเคาท์ของ Facebook พื่อเก็บรายละเอียดสินค้าที่ได้สั่งไปแล้ว ให้ขึ้นแจ้งเตือนไปที่หน้า Facebook อีกครั้งเพื่อแสดงรายละเอียดการส่งสินค้า

2. Instagram Shopping ช่วยโปรโมตสินค้าจากแบรนด์ได้โดยตรง

Instagram Shop สามารถรวบรวมสินค้าที่ต้องการนำเสนอมาไว้ในบนหน้าแอป โดยไม่ต้องเปิดหน้าเว็บใหม่ และลูกค้ายังสามารถเห็นโฆษณาผ่านหน้าฟีด และ Story ได้โดยไม่ต้องไปลงทุนทำโฆษณาที่หน้าเว็บอื่น ๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าลูกค้าจะสามารถเห็นโฆษณาได้จากแบรนด์โดยตรง ไม่ต้องผ่านช่องทางออนไลน์อื่น

3. ผลิตภัณฑ์ของเรา มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายสูง

เมื่อผู้ประกอบการแท็กสินค้าที่หน้าโพสต์เรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้ Instagram จะสามารถค้นหาสินค้าของเราได้ด้วยจากแท็บการค้นหาดังภาพด้านล่างค่ะ

เมื่อผู้ใช้เข้ามายังประเภทของการค้นหา ( Shopping ) จะเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลสินค้าต่าง ๆ ที่ได้แท็กสินค้าเอาไว้ ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกชมรูปภาพสินค้าได้เลยจากช่องการค้นหานี้

 

ถึงเวลาเริ่มต้นสร้าง  Instagram Shop เพื่อแบรนด์ของเรา 

ผู้ประกอบการสามารถเชื่อมต่อไปยังแพลตฟอร์มเหล่านี้ก่อนการเริ่มต้นตั้งค่า Instagram Shop ซึ่งได้แก่ :

• สมัครแอคเคาท์Instagram Business Profile
•  Sync เพจ Facebook หรือ Facebook Shop กับ Instagram Business เข้าไว้ด้วยกัน

การทำ Instagram Shop ก่อนอื่นแบรนด์ของเราจะต้องเป็นแอคเคาท์เพื่อการทำธุรกิจ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถสร้างแอคเคาท์ขึ้นมาใหม่ได้โดยไม่ต้องผูกกับบัญชีส่วนตัว นอกจากนี้การเชื่อมแอคเคาท์ Business บน Instagram กับ Facebook Shop กันเสียก่อนเพื่อเพิ่มช่องทางการขาย

หากเรายังไม่มี Facebook Shop? ผู้ประกอบการจะต้องเริ่มสร้างหน้าเพจ Facebook Business ค่ะ

 

การสร้างเพจ Facebook Business มีขั้นตอนการสมัครและการกรอกรายละเอียดคล้ายกับการสมัคร Facebook สำหรับ User ทั่วไป เมื่อทำการสมัครตามขั้นตอนที่ Facebook ได้แนะนำไปในแต่ละขั้นแล้ว ผู้ประกอบการสามารถใส่รูปภาพ รายละเอียดสินค้าที่ต้องการนำเสนอลงไปได้เลยค่ะ

• Sync หน้าเว็บไซต์ของแบรนด์ไปยังหน้าเพจของ Facebook

ในกรณีที่แบรนด์ของคุณมีหน้าเว็บอยู่แล้ว หรือแบรนด์ที่ใช้ Shopify  คุณสามารถ Sync สินค้าทั้งหมดมาไว้บนหน้า Facebook Shop ได้โดยตรง ซึ่งผู้ที่ใช้เครื่อง Shopify สามารถวัดผลยอดซื้อขายจาก Dashboard ของเว็บไซต์ได้โดยตรง เพื่อหาโปรโมชันใหม่ ๆ และเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายมาสร้างแคมเปญโฆษณา

 

 

ต่อจากนี้จะเป็นขั้นตอนการตั้งค่า Instagram Shop ซึ่งจะมีวิธีการทำทั้งหมด 6 ขั้นตอน โดยเริ่มจาก >>>

 

Step 1: ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ใช้งานเบื้องต้น

ก่อนการสมัครเริ่มใช้เครื่องมือ Instagram Shop ผู้สมัครควรตรวจสอบเวอร์ชันการใช้งาน Instagram ว่าเป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือไม่ วิธีการง่าย ๆ ในการตรวจสอบก็คือ ผู้ใช้ Instagram จะสามารถเห็นไอคอนรูปถุงชอปปิงบนหน้าฟีด หรือหน้าโพรไฟล์ นอกจากนี้ ผู้สมัครแอคเคาท์ Instagram Shopping จะต้องอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขการสมัคร และนโยบายต่าง ๆ รวมไปถึงการกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับเมืองและประเทศที่เป็นที่ตั้งของแบรนด์เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ บนหน้า Instagram

ผู้ใช้ Instagram เวอร์ชันล่าสุดจะมองเห็นไอคอนถุงชอปปิงได้

ต่อมา เรามาดูกันที่หน้า Business Profile กันค่ะ

ในหน้าโพรไฟล์จะมีเครื่องมือ Instagram Ads สำหรับการทำโฆษณาและเครื่องมือที่ชื่อว่า Insight สำหรับวัดผลการทำธุรกิจ เมื่อคลิกเข้าไป รายงานต่าง ๆ จะแสดงผลออกมาในรูปแบบของกราฟ และเปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้ที่สนใจวิธีการการวัดผลบน Instaram สามารถคลิก ที่นี่ เพิ่มดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยค่ะ

 

จากนั้นเราจะต้องเชื่อมต่อระหว่างแอคเคาท์ Business ของ Instagram และ Facebook Page เข้าด้วยกันด้วยการเข้าไปที่หน้า Account >> เลือก Linked Accounts

 

 

Step 2: เลือกประเภทสินค้าที่ต้องการขายลงบน Facebook Shop

สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการควรทราบก่อนโปรโมตสินค้านั่นคือ ข้อมูลรายละเอียดทุกอย่างจากบน Facebook Shop จะ Sync เข้ากับ Instagram เนื่องจากการลิงก์แอคเคาท์เข้าไว้ด้วยกันในตอนต้น ดังนั้นสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่แบรนด์ต้องการจะโปรโมตจะปรากฏขึ้นบนทั้ง 2 แอป

ตัวอย่างแบรนด์เครื่องสำอางค์ KKW Beauty:

 

สำหรับผู้ที่สมัครแอคเคาท์ Shopify เอาไว้ก่อนหน้านี้สามารถ Sync ข้อมูลเพื่อแชร์รายละเอียดร่วมกันได้ด้วยการ:

1. เข้าไปที่หน้าเพจ Facebook

2. คลิกที่ไอคอนช่องทางการขาย หรือ Sales Channels จากทางซ้ายมือ

3. คลิก Facebook และ Instagram เพื่อเชื่อมแอคเคาท์

 

4. เข้าไปที่หน้า Dashboard ของ Shopify เพื่อเลือกสินค้า คลิก Product จากเครื่องมือทางด้านซ้ายมือ

5. เมื่อเลือกสินค้าเรียบร้อยแล้ว คลิก “Make Products Available”  เพื่อให้สินค้าปรากฏขึ้นบนหน้าเพจ

 

Step 3: ติดตั้งช่องทางการขายบน Instagram Sales

หลังจากที่เราติดตั้ง Sales Channel บนหน้าเพจ Facebook เรียบร้อยแล้ว เราจะมาติดตั้งช่องทางในการนำเสนอสินค้าบน Instagram

เช่นเดียวกันซึ่งมีวิธีการแบบเดียวกับการตั้งค่าของ Facebook ค่ะ

 

Step 4: รอให้บัญชีได้รับการอนุมัติ

เมื่อทำการเลือกช่องทางการขายเรียบร้อยแล้ว ผู้ประกอบการควรตอบสอบให้แน่ใจว่า แบรนด์ของเรามีคุณสมบัติครบถ้วนตามรายละเอียดต่อไปนี้หรือไม่

• การเปลี่ยนแอคเคาท์ผู้ใช้ Instagram แบบธรรมดาให้กลายเป็นแอคเคาท์ Business
• การเชื่อมต่อแอคเคาท์ Instagram Business Profile และเพจ Facebook Business เข้าไว้ด้วยกัน
• การเชื่อมต่อแอคเคาท์  Shopify และเพจ Facebook เข้าไว้ด้วยกัน (ในกรณีที่ใช้ระบบ Shopify ในการซื้อขาย)
• Sync สินค้าทุกชนิดที่ต้องการขายลงใน Facebook Shop
• การเชื่อมต่อแอคเคาท์  Shopify และเพจ Instagram เข้าไว้ด้วยกัน (ในกรณีที่ใช้ระบบ Shopify ในการซื้อขาย)

เมื่อคุณตรวจสอบรายละเอียดดีแล้ว ระบบใน Instagram จะทำการ Review บัญชีผู้ใช้เพื่อเริ่มสร้าง Instagram Shop ค่ะ

ในช่วงเวลาการประเมิณผลนี้จะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน เพื่อรอการอนุมัติ จากนั้น เมื่อบัญชีได้รับการอนุมัติแล้วคุณจะได้รับการแจ้งเตือนตามรูปด้านล่างนี้ เพื่อเริ่มแท็กสินค้าบนหน้า Instagram

 

 

Step 5: เชื่อมต่อบัญชี Facebook Shop และ Instagram Shop เข้าด้วยกัน

หลังจากที่แอคเคาท์ของเราได้รับการอนุมัติแล้ว คุณจะต้องเข้าไปยืนยัน บัญชีผู้ใช้บน Facebook Shop ด้วยวิธีการต่อไปนี้:

1. จากรูปภาพด้านบน กด “Get Started” จากการแจ้งเตือน หรือเข้าไปที่หน้าตั้งค่าของ Instagram และกดแท็บ “Shopping.”

 

2. เลือก Facebook Shop ที่ต้องการเพื่อเชื่อมต่อแอคเคาท์บน  Instagram

3. ผู้ประกอบการจะเห็นว่าบัญชีผู้ใช้จาก Instagram Shop, Facebook Shop และ Shopify มีการ Sync ข้อมูลกัน หากข้อมูลในระบบเชื่อมต่อกันเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเริ่มใช้งานได้เลยค่ะ

 

Step 6: แท็กสินค้าทั้งบนหน้าโพสต์และหน้า  Story

วิธีการแท็กสินค้าบนหน้าโพสต์ทั้งในรูปแบบรูปภาพและวิดีโอนั้นง่ายมาก ซึ่งมีวิธีการแท็กแบบเดียวกันกับการแท็กเพื่อนบนหน้า Instagram ส่วนตัวเลยค่ะ

จากภาพด้านล่างจะเห็นได้ว่า เมื่อเราเริ่มเขียนแคปชัน จะมีฟังก์ชันการแท็กอยู่ด้านล่าง โดยสามารถเลือกได้ว่าต้องการแท็ก สินค้า หรือ บุคคล (ในกรณีที่มี Influencer หรือต้องการโปรโมตตัวบุคคล)

จากนั้น เราสามารถเลือกใส่สถานที่และการแชร์ภาพไปยังหน้าเพจ Facebook ได้อีกด้วย

หากใครสนใจไอเดียใหม่ ๆ หรือเทคนิคการเขียนแคปชันบน Instagram เรามีบทความมาให้อ่านกันเพิ่มเติมได้ ที่นี่ 

เมื่อโพสต์สินค้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราสามารถกลับมาตรวจสอบได้ที่หน้าโพสต์บนโพร์ไฟล์ว่าการแท็กสำเร็จหรือไม่ ซึ่งคุณสามารถเห็นไอคอนถุงชอปปิงบนรูปภาพ พร้อมทั้งรายละเอียดสินค้าและราคา

ตัวอย่างแบรนด์ Finisterre UK ที่ใช้ฟีเจอร์แท็กและแฮชแท็กในการโปรโมตสินค้า

 

โปรโมตร้านบน Instagram อย่างไรให้ได้ผล

1. ติดแฮชแท็ก ที่มาพร้อมกับ Keyword ที่ใช่!

วิธีการใช้แฮชแท็กนั้นไม่ยาก แต่แบรนด์จะต้องเลือกใช้แฮชแท็กที่ใช่ เมื่อลูกค้าค้นหา Keyword แล้วสามารถเจอหน้าร้าน หรือโพสต์จากทางแบรนด์ได้ ตัวอย่างเช่น

# ชื่อแบรนด์

# ชื่อรุ่นสินค้า

# กิจกรรม หรือบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกันกับผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ของเรา เป็นต้น

2. ใช้สติกเกอร์เด็ด ๆ บน Instagram Story

จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นเกี่ยวกับการใช้สติกเกอร์ Instagram ได้ออกแบบลักษณะสติกเกอร์เอาไว้ด้วยกันทั้งหมด 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

1. สติกเกอร์ที่เป็นชื่อสินค้า โดยที่ผู้ประกอบการสามารถเลือกใส่ตัวอักษรสีเทา สีที่ดูโปร่งแสงและสีหรือสีรุ้ง
2. ไอคอนถุงชอปปิง

 

3. ใช้เครื่องมือ Instagram Shopping Ads เข้าช่วย

ยังไม่จบเพียงเท่านี้!  ผู้เขียนได้เพิ่มเครื่องมือ Instagram Shopping Ads เพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อยเพื่อให้ผู้ประกอบสามารถโปรโมตสินค้ากันเต็มรูปแบบ วิธีการตั้งค่านั้น สามารถทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ:

• คลิก “+Create” 
• เลือกจุดประสงค์ในการทำโฆษณา เช่น เพื่อเพิ่ม Reach  เพิ่ม Brand Bwareness, เพิ่ม Engagement, หรือสร้าง Conversions
• เลือก Audience หรือกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการยิงโฆษณา
• เลือก “Edit placements” และคลิก “Instagram Feed” เพื่อยิงโฆษณา
• ในตัวเลือกของ Customization กดเลือก “Use Existing Post”
• เลือกคอนเทนต์ที่ต้องการยิงโฆษณา
• หลังจากเลือกคอนเทนต์เรียบร้อยแล้ว คลิก “Continue” 

Pro tip: ก่อนที่ผู้ประกอบการจะตัดสินใจยิงโฆษณา หรือโพสต์คอนเทนต์ รูปภาพและวิดีโอที่แบรนด์นำเสนอจะต้องมีคุณภาพดี มีแท็กที่ถูกต้องเพื่อลิงก์ไปยังหน้าโพสต์ของแบรนด์ได้ และมีการแท็กสินค้า

 

สรุป 

วิธีการติดตั้ง Instagram Shop แบบ Step-by-step แบบสั้น ๆ สามารถสรุปได้ดังนี้

• เปลี่ยนแอคเคาท์โพรไฟล์บน Instagram ให้เป็นแอคเคาท์ Business เสียก่อน
• Synce แอคเคาท์ Instagram Business  และ Facebook Page
• ลิงก์แอคเคาท์  Shopify และ Facebook Page
• สร้าง Facebook Shop ด้วยการ Sync ข้อมูลสินค้าจาก Shopify
• ลิงก์แอคเคาท์  Shopify store และ Instagram เอาไว้ด้วยกัน
• รอการอนุมัติ จากนั้นผู้ประกอบการสามารถเลือก Facebook Shop เพื่อเชื่อมต่อกับ Instagram Shopping
• เริ่มการขายได้เต็มรูปแบบ!

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับวิธีการติดตั้ง Instagram Shoppping แบบทีละขั้นทีละตอน ผู้เขียนหวังว่า ทุก ๆ คนจะสามารถทำตามกันได้อย่างราบรื่น และสามารถโปรโมตสินค้าผ่าน Instagram Shop กันได้ผล ซึ่ง STEPS Academy มีข่าวดีมากฝากผู้ที่สนใจการทำโฆษณาผ่าน Instagram และแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ มาฝากกันค่ะ

 

 

ข้อมูลจาก:

https://au.oberlo.com