อีกไม่กี่วันเราก็จะเดินทางไปสู่อีกก้าวสำหรับปี 2017 ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาในประเทศไทยเราเริ่มให้ความสำคัญกับ Digital Marketing มากขึ้น ผู้ประกอบการ เริ่มหันมาสนใจมากขึ้น
นักการตลาดเองก็เช่นกัน มีนักการตลาด offline หลายท่านที่เริ่มขยับขยายความรู้ของตนให้ไปในวงของโลกออนไลน์มากขึ้น แต่หากเปรียบความเข้าใจของพวกเราหลายคนที่มีต่อโลกดิจิตอลนั้นก็ถือว่าเรายังเข้าใจแค่เปลือกเท่านั้น เพราะมีหลายครั้งเราเน้นความสนใจของเราไปที่จำนวนผู้ติดตาม จำนวนไลค์ จำนวน engagement แต่เราไม่ได้ให้ความสำคัญกับต้นทุนที่เราลงทุนไปกับโลกออนไลน์ และ สิ่งที่ได้กลับมา ที่มีค่ามากกว่าจำนวนยอดไลค์ ยอด engagement ทั้งหมดนั้น และ นั่นคือสิ่งที่หลายคนมองข้ามไป สิ่งๆนั้นก็คือ ข้อมูลของลูกค้านั้นเองหรือที่เรียกว่า Database
Database สำคัญอย่างไร และ เราจะมีวิธีการหรือกลยุทธ์อย่างไรเพื่อที่จะได้ Database ของลูกค้ามา วันนี้ทีมคอนเทนต์ของ STEPS ขอแบ่งปันผ่านบทความนี้ครับ เราจะมาเริ่มจากข้อดีของการได้ Database ของลูกค้ากันเลย
1.แต้มต่อของความสัมพันธ์
เมื่อเราได้ Database ของลูกค้าแล้ว เราสามารถสร้างคุณค่า หรือ เพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่เขายังไม่ได้มาเป็นลูกค้าของเราโดยการส่งบทความดีๆ ที่เป็นประโยชน์กับลูกค้า เปรียบเสมือนลูกค้าจะมาเป็นลูกค้าฝากเงินกับธนาคารของเรา เขายังไม่ทันฝากเลย แต่เราให้ดอกเบี้ยเขาแล้ว เขาจะรู้สึกว่าเราให้ตั้งแต่เขายังไม่เสียอะไร โดยการให้คุณค่ากับลูกค้านั้นก็เป็นการให้ผ่านสิ่งที่เรียกว่า Email Marketing นั้นเองครับ ซึ่งระบบของ Email Marketing ณ ปัจจุบัน หากเราต้องการเริ่มใช้อะไรง่ายๆ ราคาไม่แพงมากก็อาจจะใช้ระบบของ mail chimp เขยิบขึ้นมาอีกหน่อย ก็จะเป็นระบบของ get response อีกนิด เป็นระบบที่ค่อนข้างดี มีการจัดเก็บแบ่งกลุ่มลูกค้าอย่างละเอียด และ แบ่งตามความสนใจบทความของลูกค้าได้ด้วยก็จะเป็น aweber แต่ตัวท็อปสุดก็ infusion soft แต่องค์กรใหญ่ๆเองก็จะมีบริษัทที่รับ outsource ในการทำการตลาดผ่านอีเมลล์เช่นกันครับ และ เมื่อหลังจากที่เราได้ให้คุณค่ากับลูกค้ามากขึ้นแล้ว เราจะเริ่มได้แต้มต่อของความสัมพันธ์ในการโปรโมทสินค้าเราในขั้นตอนต่อไปครับ
2.Retargeting เห็นหน้ากันบ่อยๆ
หลักการโฆษณา ไม่ได้จบเพียง รักแรกพบ คิดง่ายๆครับ ก็เหมือนเวลาที่คนเราเจอกันครั้งแรก บางครั้งเราอาจจะเจอรักแรกพบ บางครั้ง เราอาจจะต้องใช้เวลา เพื่อเจอกันอีก แต่ไม่ว่าจะรักแรกพบหรือไม่ ก็ต้องพบกันบ่อยๆอยู่ดี บางครั้ง ก็เปรียบเหมือนรักแท้แพ้ใกล้ชิดนั้นละครับ เพราะฉะนั้นการที่เรามี Landing Page หรือช่องรับข้อมูลของลูกค้าซึ่งภาษาเทคนิคจะเรียกว่า opt-in นั้นก็จะทำให้เราสามารถทำโฆษณาแบบ targeting ได้ทั้งฝั่ง google และ ฝั่งของ เฟสบุ๊คโดยการฝั่ง google analytic cookies และ pixel จากเฟสบุ๊คลงไปหลังบ้านของ landing page สำหรับคนที่เข้ามาลงทะเบียน แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อสินค้าของเรา ก็เป็นได้
เมื่อเราโฆษณาไปถึงกลุ่มคนที่ถือว่ามีความสนใจในระดับหนึ่งแล้ว และ เราโฆษณาไปถึงพวกเขาเหล่านั้น สิ่งที่เราจะได้คือการประหยัดเวลาซุ่มกลุ่มเป้าหมายขึ้นมา พร้อมกับการประหยัดต้นทุนในการโฆษณาได้อีกด้วย
3.ลดต้นทุนสำหรับการโปรโมทสินค้าใหม่
การสร้างระบบ Database นั้นเมื่อเราได้ Database ของลูกค้า เราสามารถนำมาวิเคราะห์ต่อเนื่องเพื่อทำการตลาดสำหรับสินค้าอื่นๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และ ทำการโปรโมทสินค้าใหม่ได้โดยที่ไม่ต้องทำการศึกษาลูกค้า หรือเสียเวลาการทำการบ้าน อีกครั้งหนึ่ง ยิงเราสะสม Database เยอะเท่าไหร่ ในอนาคตเราอาจจะไม่ต้องพึ่งพาช่องทางอื่นๆ และ สามารถลดต้นทุนในการทำการตลาดถึงแม้อาจจะไม่ใช่ free cost marketing เพราะแน่นอนก็ยังคงต้องเสียต้นทุนทางด้านเวลา และ การสร้างมีเดียกันบ้าง แต่ถือว่าเป็นอีกหนทางที่จะทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้นในยุคที่ทุกอย่างมีแต่ขาขึ้น ทั้งราคาและต้นทุน ?
และนั้นคือประโยชน์ 3 ข้อหลัก ของ Database หรือ ข้อมูลของลูกค้า สำหรับวิธีการเก็บ Database นั้น ทางทีมขอโปรยก่อนที่จะลงรายละเอียดในบทความต่อไปครับว่า หลักการเก็บข้อมูลลูกค้ามีอยู่ 3 Give ด้วยกันครับ คือ
1.Giving Free Content
2.Giving Promotion (Coupon)
3.Giving Free Gift
จะเป็นอย่างไรนั้น พบกันในบทความต่อไปครับ