สวัสดีค่ะวันนี้จินนี่ มีคำถามมาให้ลองคิดกันดูค่ะ ถ้าหากวันนี้คุณอยากรู้เรื่องเทรนด์หรือเหตุการณ์ ข่าวสารต่างๆที่กำลังเป็น
กระแส ณ เวลานั้นแบบ Realtime โซเชียลมีเดียแรกที่คุณจะนึกถึงคืออะไร…… แน่นอนค่ะ “Twitter”
หลายท่านอาจจะคุ้นเคยและใช้ Twitter กันเป็นประจำ หรือบางท่านอาจไม่ค่อยได้ใช้ ซึ่งหลายๆท่านคงใช้ Twitter ในการติดตามข่าวสารหรือแทรนด์ปัจจุบัน แต่จริงๆแล้ว Twitter เป็นมากกว่าแค่แหล่งรวมเทรนด์หรือข่าวสาร เพราะยังเป็นเครื่องมือเครือข่ายสังคมที่ทรงพลัง และเป็นเครื่องมือในการค้นหาที่น่าสนใจ
คุณสามารถใช้ Twitter ในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้จำนวนมากและ Twitter เป็นแพลตฟอร์มที่เข้าถึงกลุ่มคนจำนวนกว่าหลายร้อยล้านคนบนโลก และที่สำคัญ Twitter เป็นเครื่องมือที่ทำให้แบรนด์ใกล้ชิดกับลูกค้าเป็นอย่างมากในการพูดคุยและมีส่วนร่วม ซึ่งนั้นเป็นโอกาสที่ดีที่นักการตลาดทั้งหลายควรคว้าเอาไว้
คุณสามารถทำการตลาดบน Twitter เพื่อดึงดูดผู้ใช้และผู้ติดตาม สร้างการรับรู้แบรนด์ เพื่อเพิ่มยอดขาย Twitter ได้ทำให้การกระจายหรือส่งต่อคอนเทนต์เป็นเรื่องง่ายซึ่งทำให้มีผู้ใช้งาน Twitter เฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 326 ล้านทั่วโลกเพื่อให้คุณสามารถแชร์คอนเทนต์ซึ่งกันและกัน
ฟังอย่างนี้แล้วทุกท่านคงอยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่า เราจะมาเล่าเรื่องอะไร วันนี้จินนี่เป็นหนึ่งในทีมงานคอนเทนต์ของ STEPS Academy อยากจะมาแชร์ความรู้ในหัวข้อ “9 เคล็ดลับการทำการตลาดบนแพลตฟอร์ม Twitter ที่ช่วยให้คุณรู้ Insight ของลูกค้ามากยิ่งขึ้น” มาฝากกัน
ซึ่งจากที่ผ่านมาจินนี่เองก็พยายามพัฒนาทักษะในการเขียนคอนเทนต์อยากให้คนอ่านได้ประโยชน์และได้แรงบันดาลใจจากการอ่าน ยังไงก็ฝากคอนเทนต์นี้ไว้ด้วยนะคะ 🙂 ไปดูกันเลยค่ะ
9 เคล็ดลับการทำการตลาดบน Twitter
1.การสร้างความประทับใจแรก ให้ลูกค้าจดจำคุณได้
โปรไฟล์ Twitter นั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นเหมือนหน้าต่างบานแรกที่ผู้อื่นจะได้รู้จักเราผ่านการอ่านข้อมูลบนโปรไฟล์ของคุณ และที่สำคัญเราจะต้องอธิบายถึงถึงจุดเด่นหรือจุดยืนของแบรนด์ ภายใต้ข้อจำกัดด้วยจำนวนตัวอักษรเพียง 160 ตัวเท่านั้น ดังนั้นเราจะต้องเลือกใช้คำให้ฉลาด กระชับ และสามารถบ่งบอกได้ว่าแบรนด์ของคุณเป็นอย่างไร
ตัวอย่าง แอปพลิเคชัน Calm เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับการผ่อนคลายในการนอน หรือการทำสมาธิ แนะนำสำหรับใครที่มีปัญหาในการหลับไม่สนิทหรือมีความเครียดต่างๆอย่างเราเป็นต้น ลองโหลดมาใช้ดูค่ะ
โปรไฟล์ Twitter ของ Calm ได้ใช้คำที่เป็นเหมือนการเตือนสติว่า “หายใจลึกๆ” ในการอธิบายแบรนด์ของตนเองแน่นอนค่ะเขารู้ว่าดีว่ากลุ่มลูกค้าเขาน่าจะเป็นกลุ่มคนที่เจอกับความเครียดต่างๆเลยใช้ Keyword ว่า หายใจลึกๆ นั้นแปลว่าให้เราใจเย็นๆแล้วพักก่อนนับว่าเป็นการใช้คำที่ฉลาดนะคะ และการใช้อิโมจิแทนการใช้ตัวอักษรทำให้ช่วยลดจำนวนตัวอักษรและเราสามารถใช้คำอื่นๆในการอธิบายได้เพิ่มมากขึ้นค่ะ
2.คอนเทนต์ที่สั้น กระชับ ได้ใจความ
แม้ว่าความจริงที่เจ็บปวดคือ เราสามารถใส่ตัวอักษรได้เพียง 280 ตัวต่อการทวีต 1 ครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งคุณควรพยายามเขียนทวีตที่ง่ายต่อการอ่าน และมีแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ หลายๆท่านคงมีความกังวลใจว่าจะเขียนคอนเทนต์อย่างไรดี แน่นอนค่ะด้วยข้อจำกัดของจำนวนตัวอักษรคงทำให้หลายๆท่านถึงกับเขียนไม่ออกกันเลยใช่ไหมคะ เราจึงมีคำแนะนำมาฝากกันค่ะ
ตัวอย่าง การใช้แคปชั่นของ Netflix ที่มีการนำเสนอที่สร้างสรรค์ตลอดเวลา ได้ใช้ตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัว แต่เน้นใช้ประโยคที่ผู้อ่าน อ่านแล้วเข้าใจทันทีหรือเข้าถึงได้ง่าย อย่างเช่นตัวอย่างที่นำฉากในภาพยนต์มาใช้ในการทำคอนเทนต์แบบขำๆ ที่อ่านแล้วเข้าใจได้เลย
ถูกต้องค่ะ ว่าเรามีข้อจำกัดว่าสามารถทวีตได้แค่ 280 ตัวอักษร ซึ่งอาจมีปัญหาในกรณีที่คุณต้องการแชร์ลิงก์ที่เป็น URL ยาวๆจากเว็บไซต์ แต่ข่าวดีคือ คุณไม่จำเป็นต้องใช้ลิงก์เว็บไซต์ที่ยาวมากๆในการสร้างทวีต แต่สามารถใช้เครื่องมือที่ช่วยให้ลิงก์ของเว็บไซต์คุณสั้นลงเพื่อที่คุณจะสามารถใส่ตัวอักษรอื่นๆได้มากขึ้น เช่นการแชร์ลิงก์ หรือ URL ของคอนเทนต์ คุณสามารถย่อได้โดยการใช้เว็บอย่าง Bitly ทำให้ประหยัดจำนวนตัวอักษรได้อย่างมาก
ตัวอย่าง CNN Breaking News ที่สรุปเนื้อหาของข่าวนำมาเป็นแคปชั่นและใส่ลิงก์ที่ย่อลงทำให้มีพื้นที่ในการเขียน
แคปชั่นมากขึ้น
3.การเลือกใช้คำที่ตรงใจลูกค้า
การกำหนด Keyword เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญในการทำการตลาดบนช่องทาง Twitter การกำหนด Keyword นั้นจะช่วยให้คุณสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณได้ผ่านการค้นหา “คำหรือวลีต่างๆ” ที่คุณใช้ในการสร้างคอนเทนต์ หมายความว่าคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายธุรกิจของคุณได้ผ่าน Keyword ที่ใช่ และคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย
ดังนั้นการกำหนด Keyword ที่ใช่และตรงต่อความต้องการของผู้ใช้ สามารถช่วยให้ทวีตของคุณปรากฎได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
ลองคิดตามกันดูนะคะ สมมุตว่าคุณทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอางค์ แล้วคุณเป็นลูกค้า หากคุณต้องการดูรีวิวว่าแป้งผสมรองพื้นยี่ห้อไหนที่คุณภาพดี และราคาไม่สูง เขาจะใช้ Keyword ในการค้นหาว่า “แป้งถูกและดี”
นั้นแปลว่าคอนเทนต์หรือโฆษณาสินค้าของคุณจะต้องใช้ Keyword “แป้งถูกและดี” นี้ในคอนเทนต์เพื่อให้ลูกค้าท่านนี้สามารถค้นหาแล้วเจอแบรนด์ของคุณปรากฏขึ้นมา
4.ใช้ #Hashtags ให้ลูกค้ารู้จักและเข้าถึงคุณได้มากขึ้น
ทุกคุณรู้หรือไม่คะ ว่าทวีตที่มีการใช้ #Hashtags นั้นมี Engagement (ส่วนร่วม)มากว่า ทวีตที่ไม่ใช้ # Hashtags ถึงสองเท่าการเพิ่ม #Hashtags เข้าไปในทวีตของคุณเป็นหนทางที่ดีที่จะทำให้คุณสามารถขยายการรับรู้ของคุณบนโลก Twitter แต่อย่างไรก็ตาม เรามีคำแนะนำที่อยากให้คุณลองทำตามกันดูนะคะ เพื่อที่คุณจะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานได้จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
- การสร้าง #Hashtags ที่ไม่ซ้ำกับคนอื่นหรือ พิเศษเฉพาะธุรกิจของคุณเท่านั้นที่ใช้ เพื่อที่ผู้ติดตามของคุณหรือกลุ่มเป้าหมายนั้นง่ายต่อการค้นหาคอนเทนต์ของคุณ เช่น #STEPSAcademy #STEPS ที่ลงท้ายด้วยตัว S หรือแบรนด์ขนมที่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับหลายๆท่านอย่าง Pringles ที่ใช้ #Hashtags ประจำแบรนด์อย่าง #PringlesStack
- สร้าง #Hashtags ที่เกี่ยวข้องและน่าจดจำสำหรับทวีตกลุ่มอื่นๆ เช่น #Hashtags ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแคมเปญของคุณ ณ ช่วงเวลานั้นๆเฉพาะคุณที่ใช้งาน เช่น แคมเปญการตลาดใหม่ของ Nike ที่ใช้ #Hashtags ว่า “#madetoplay” เป็นแคมเปญที่จัดขึ้นเพื่อให้ช่วยเหลือเด็กเยาวชนที่ไม่มีโอกาสได้เข้าถึงการเล่นกีฬามากยิ่งขึ้น
- ใช้ในการวิเคราะห์ Twitter เพื่อตรวจสอบว่า #Hashtags ไหนที่คุณใช้งานเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด หรือเป็นที่นิยมมากที่สุดเพื่อที่คุณจะนำไปวางแผนในอนาคตว่าควรใช้ #Hashtags นี้ต่อไปหรือไม่
- อย่าใช้จำนวน #Hashtags มากเกินไป เพราะอาจจะกลายเป็นสแปมจากผู้ชมได้ เช่น การใช้ # Hashtags ที่เป็นที่นิยมหรือเป็นกระแสแต่คอนเทนต์ของคุณไม่ได้มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ # Hashtags นั้นๆอาจสร้างผลเสียต่อแบรนด์ของคุณได้ และจากสถิติของ Hubspot ได้สำรวจว่า ทวีตที่ใช้ #Hashtags มากกว่าสองรายการนั้นทำให้การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ลดลง 17% เมื่อเทียบกับการใช้ #Hashtags เพียงหนึ่งถึงสองรายการ
5.การเลือกเวลาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
เมื่อคุณขยายฐานผู้ติดตามแล้วคุณจะต้องทำการโพสต์คอนเทนต์เป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขามีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ของคุณ ไม่เพียงแต่ต้องทวีตเป็นประจำแล้ว แต่คุณต้องเลือกเวลาที่เหมาะสมด้วยในแต่ละครั้งที่คุณโพสต์ จากข้อมูลของ Wiselytics ทวีตจะปรากฏเพียง 24 นาที และการมีส่วนร่วม 75% ภายใน 3 ชั่วโมงเท่านั้น นั้นหมายความว่าคุณจะต้องช่วงชิงเวลา โมเม้น ณ ขณะที่ผู้ชมเลื่อนฟีดแล้วเจอทวีตของคุณและที่สำคัญต้องเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อเข้าถึงผู้ติดตามที่มีศักยภาพและมีส่วนร่วมมากที่สุด
- ทวีตเป็นประจำ อย่างน้อยวันละหนึ่งครั้งเพื่อดึงดูดความสนใจและการมีส่วนร่วมของผู้ติดตาม โดยลองทำการโพสต์ และคอยตรวจสอบว่าผู้ติดตามของคุณตอบสนองอย่างไรกับความถี่ที่คุณทวีต
- ช่วงเวลาโดยทั่วไปที่ดีในการโพสต์คือ 8:00-10:00 น. และ 18:00-21:00 น. ซึ่งจะสัมพันธ์กับการเดินทางทั้งช่วงเช้าและตอนเย็น ในวันธรรมดา แล้วลองปรับความเหมาะสมตามข้อมูลผลลัพธ์เพื่อหาช่วงที่เหมาะสมของธุรกิจคุณ
6.คอนเทนต์ที่ไม่จำเป็นต้องมีแต่ตัวอักษร
หลายๆท่านคงคุ้นชินกับการทวีตข้อความสั้นๆบน Twitter แต่หากเป็นไปได้อยากแนะนำให้คุณลองใช้วิดีโอและรูปภาพลงในทวีตของคุณ เพราะว่าคอนเทนต์รูปแบบภาพและวิดีโอสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ใช้มากกว่าตัวอักษร ในระหว่างที่พวกเขาเลื่อนฟีด ซึ่งการใช้คอนเทนต์รูปแบบวิดีโอใน Twitter นั้นผู้ใช้งานชื่นชอบและมีส่วนร่วมมากกว่าข้อความธรรมดาถึง 6 เท่า
ดังนั้นการใช้ รูปภาพและวิดีโอ นั้นคือหนทางที่ดี ที่คุณจะสามารถแสดงสินค้าของคุณ หรือวิธีการใช้สินค้าที่คุณขายได้เป็นอย่างดี รู้อย่างนี้แล้วมีใครไม่อยากใช้บ้างคะ
นี้เป็นขนาดรูปภาพและวิดีโอที่แนะนำค่ะ เพื่อให้คุณสามารถทำคอนเทนต์ได้ตรงตามเงื่อนไขของ Twitter และทำให้คอนเทนต์ของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุด
7.การเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกค้า
หลายท่านอาจหลงอยู่กับจำนวนผู้ติดตามบน Twitter ของคุณ แต่จะเปล่าประโยชน์เลยหากคุณไม่มีส่วนร่วมกับผู้ติดตามของคุณ ตัวเลขก็จะเป็นเพียงแค่ตัวเลข ซึ่งแต่เดิมแล้ว Twitter สร้างขึ้นมาเพื่อให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับผู้ติดตามของคุณ ดังนั้นเราควรใช้จุดแข็งนี้ของ Twitter ในการเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้ติดตามของคุณให้แน่นแฟ้นมากขึ้น
- ติดตามเครือข่ายของคุณ สิ่งที่พวกเขาโพสต์ สามารถให้ข้อมูลได้จำนวนมากเกี่ยวกับความสนใจของเขา ความต้องการ ความชอบและอื่นๆ ติดตามและเรียนรู้จากพวกเขา
- การรีทวีต กดไลค์ และติดตาม เราคงรู้สึกดีใช่ไหมคะ หากมีคนมารีทวีตโพสต์ของเรา และชอบหรือติดตามคุณบน Twitter ดังนั้นเราก็ควรทำเช่นนั้นกับผู้ติดตามของเราเช่นกันค่ะ
- สร้างการโต้ตอบ ทวีตคำถามและดูว่าผู้ติดตามของคุณตอบสนองอย่างไรหรือใช้ Twitter Poll ในการเก็บข้อมูลการตอบรับจากผู้ติดตามของคุณ สำหรับขอเสนอแนะ ความคิดเห็นจาก สินค้าและบริการของคุณได้อย่างรวดเร็ว และเป็นโอกาสสำคัญที่คุณจะได้ฟังความคิดเห็นจากบุคคลอื่นๆ
ตัวอย่าง PANDORA ที่ได้ใช้ประโยชน์ของฟีเจอร์ใน Twitter ให้เป็นประโยชน์โดยการใช้ฟีเจอร์ Poll (ถามตอบ) ในการวัดว่าผู้ติดตามของ PANDORA คิดว่าสร้อยข้อมือแบบไหนที่ตรงสไตล์ของพวกเขามากที่สุด ทำให้แบรนด์ได้รับข้อมูลโดยตรงจากลูกค้า ว่าสินค้ารูปแบบไหนที่เป็นที่ชื่นชอบนี้เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆต่อแบรนด์ที่ทุกท่านไม่ควรปล่อยให้มันเปล่าประโยชน์ ลองนำฟีเจอร์นี้ไปปรับใช้ดูนะคะ
8. การประเมินความสำเร็จ
การวัดผลลัพธ์การตลาด Twitter ของคุณช่วยให้คุณสามารถประเมินความสำเร็จของคุณดูว่ามีคอนเทนต์ประเภทใดบ้างที่ผู้ติดตามของคุณชื่นชอบ และแสดงให้คุณเห็นถึงโอกาสในการปรับปรุงกลยุทธ์บนช่องทาง Twitter ได้ดียิ่งขึ้น
ใช้เครื่องมือ Twitter Analytics
เครื่องมือ Twitter Analytics ช่วยให้คุณสามารถเห็นภาพรวมของทวีตว่าผลเป็นอย่างไร ใครที่มีส่วนร่วมกับโพสต์และช่วงเวลาไหนบ้าง คุณสามารถติดตามกิจกรรมที่กลุ่มผู้ติดตามคุณทำตลอดเวลา ความชื่นชอบ ข้อมูลประชากร และผลของโฆษณาที่คุณทำ
9. Listen & Learn
ข้อสุดท้ายสำคัญเป็นอย่างมาก หากคุณใช้ Twitter ในการเผยแพร่คอนเทนต์ของคุณเพียงอย่างเดียว นั้นแปลว่าคุณไม่ได้ใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่แท้จริงของ Twitter ในฐานะแพลตฟอร์ม Social Listening
สำหรับธุรกิจที่มีการติดตามสังเกตุคอมเม้นหรือการแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์ที่มีต่อแบรนด์ของเราคุณจะได้ประโยชน์จากการสังเกตุเป็นอย่างมาก คุณสามารถรับรู้ได้ทันทีว่า มีการตอบรับต่อแบรนด์ของคุณอย่างไร และข้อมูลที่ได้มานั้นคุณสามารถดำเนินการได้สำหรับการออกแบบหรือปรับแต่งแคมเปญให้ตอบโจทย์ตลาดมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นคุณจำเป็นต้องรู้ว่า สังคมกลุ่มผู้ติดตามใน Twitter ของคุณนั้นพูดคุยเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณอย่างไรบ้าง หัวข้อใดที่พวกเขาสนใจ พวกเขาชื่นชอบคอนเทนต์แบบไหน มีส่วนร่วมกับใคร สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่เราควรแทรกซึมเข้าไปกับกลุ่มต่างๆเพื่อเข้าร่วมฟังในโซเชียลมีเดียต่างๆ
สิ่งที่คุณควรฟัง
- ชื่อของแบรนด์คุณ (รวมถึงการสะกดผิด)
- ชื่อสินค้าของคุณ
- คู่แข่งของคุณ
- สโลแกนแบรนด์
- ชื่อของ CEO หรือบุคคลตัวแทนของธุรกิจคุณ
- ชื่อหรือคำค้นหาของแคมเปญ
การสังเกตุตามหัวข้อเหล่านี้ช่วยให้คุณรู้ว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์เราที่มีต่อลูกค้า หรือ กลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างไร เพื่อที่คุณจะสามารถนำมาพัฒนาและปรับปรุงแบรนด์ของคุณให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
ตัวอย่าง Chowhound ที่ใช้ #PringlesStack ประจำแบรนด์ Pringles นำมาทำวิดีโอสนุกๆอย่าง การซื้อขนม Pringles มาทุกรสชาติ ซึ่งมีมากถึง 25 รสชาติ นำมาทำเกมสนุกๆ โดยการให้ทีมงานผสมผสานรสชาติเฉพาะตัวสำหรับแต่ละคน อย่างการนำขนมมา 3 แผ่น 3 รสชาติมาซ้อนกันกลายเป็นรสชาติเฉพาะบุคคลที่ไม่ซ้ำกับคนอื่นๆ
สุดท้าย หวังว่าทุกท่านจะได้รับความรู้และสนุกในการอ่านคอนเทนต์นี้นะคะ อยากให้ทุกท่านลองนำความรู้นี้ไปปรับใช้กันดู ว่าได้ผลลัพธ์เป็นอย่างไรสามารถนำมาแชร์กันได้ ขอบคุณมากค่ะ