5 ข้อดีการใช้เทคโนโลยี AI เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจคุณ

5 ข้อดีการใช้เทคโนโลยี AI เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจคุณ

เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence) หลาย ๆ ธุรกิจคงจะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องที่ไกลตัว

แต่คุณรู้หรือไม่ ? ว่าเจ้าเทคโนโลยี AI นี้สามารถใช้เพื่อเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจเร

ในโลกธุรกิจยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันที่รุนแรง หากเราไม่ยอมปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลง ก็เป็นไปได้ที่เราจะโดนคู่แข่งแซงเข้าสักวัน ซึ่งหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ทุกธุรกิจต้องคอยอัปเดต ก็คงไม่พ้นเรื่องของเทคโนโลยี โดยวันนี้ STEPS Academy จะขอแชร์ประโยชน์ดี ๆ ของเทคโนโลยีที่หลายคนอาจคุ้นหูกันแล้วอย่าง AI (Artificial Intelligence) ที่จะช่วยทำให้ยอดขายของคุณขยับสูงขึ้นไป โดยมีทั้งหมด 5 ข้อด้วยกันครับ

AI ช่วยในการขายให้ทำได้อัตโนมัติ


ลองจินตนาการว่าคุณเป็นพนักงานขาย หรือ แอดมินในการตอบแชท ที่ต้องตอบคำถามเดิม ๆ นับครั้งไม่ถ้วนตลอดหนึ่งวันดูสิครับ แล้วลองนับดูว่าทั้งเวลาหรืองบประมาณที่ต้องใช้ รวมทั้งความเสี่ยงที่ลูกค้าจะหนีไป ถ้าเราตอบคำถามเขาไม่ทันนั้นช่างมีมากมายเหลือเกิน แต่ถ้าหากคุณมีเทคโนโลยี AI คุณก็สามารถแบ่งเบาภาระตรงนี้ไปได้ด้วยการใช้ Chatbot หรือ ระบบตอบกลับการสนทนาอัตโนมัติในระดับตัวอักษร 

Chatbot นี้คือเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยตอบลูกค้าของเรา โดยถ้าหากเราใช้มันได้อย่างถูกวิธี ต้องขอบอกเลยว่าความสามารถที่มันมีนั้น ถึงขั้นช่วยในการปิดการขายเลยทีเดียว โดยสถิติจาก Salesforce บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัตโนมัติในด้านการรักษาความสัมพันธ์ลูกค้า (Customer Relationship Management) ได้ระบุเอาไว้ว่าในปี 2019 กว่า 56 เปอร์เซ็นต์ของทีมฝ่ายขายในหลาย ๆ บริษัทมียอดขาย หรือข้อมูลของลูกค้าที่เก็บได้เพิ่มมากขึ้น โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญนั่นคือ Chatbot นั่นเอง 

ต้องบอกไว้เลยว่า Chatbot นับเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างมากโดยเฉพาะในประเทศไทย ด้วยธรรมชาติของการขายออนไลน์ที่ผู้ใช้มักซื้อผ่านแชทหรือที่เรียกว่า C-commerce (Conversational Commerce) 

5 ข้อดีการใช้เทคโนโลยี AI เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจคุณ

ที่มา Salesforce

โดยตัวอย่างของการใช้งาน AI เพื่อเพิ่มยอดขาย หรือ เพิ่มเพิ่มลูกค้าประจำได้ผ่าน Chatbot ผมขอยกตัวอย่างเป็นการใช้งานเบื้องต้น 3 ข้อของ Chatbot จาก Salesforce ละกันครับ

  1. การใช้ Chatbot เพื่อเพิ่มความประทับใจจากการ Personalize ทุก ๆ ข้อความ เช่น การตอบกลับคำทักทายที่มีการใส่ชื่อลูกค้าลงไปทำให้รู้สึกเหมือนถูกใส่ใจจากพนักงายขายของเรา (Chatbot)
  2. การใช้ Chatbot เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าแบบมีส่วนร่วม (Engaging) มากขึ้น จากเดิมลูกค้าต้องกรอกบนฟอร์มออนไลน์ แต่ตอนนี้ Chatbot เราจะถามข้อมูลลูกค้าได้แบบธรรมชาติ
  3. การใช้ Chatbot เพื่อตอบคำถามที่พบบ่อย (FAQ) แทนที่ลูกค้าจะต้องไปหาคำตอบในเว็บไซต์ แต่ chatbot ของเราจะสามารถตอบคำถามได้ เพียงแค่ลูกค้าถามเข้ามา

5 ข้อดีการใช้เทคโนโลยี AI เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจคุณภาพตัวอย่างการใช้งาน ManyChat

ที่มา ManyChat

นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งระบบ AI ที่ช่วยให้เราสามารถตอบแชทลูกค้าได้บน Facebook Messenger แบบอัตโนมัติ โดยเราสามารถใช้ได้แบบฟรี ๆ ซึ่งจุดเด่นที่เครื่องมือตัวนี้มี คือความเรียบง่าย ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ภายใน 10 นาทีเท่านั้น ซึ่งถ้าหากคุณมีความสนใจ สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่บทความแนะนำด้านล่าง

AI ช่วยในการมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า


ความประทับใจของลูกค้านับว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งการใช้เทคโนโลยี AI นั้นจะช่วยให้เราสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีแก่พวกเขาได้ โดยหนึ่งในประโยชน์ที่สำคัญของการใช้ AI เพื่อการพัฒนาประสบการณ์ที่ลูกค้าจะควรได้ นั่นคือการ
Personalize หรือการตอบสนองความต้องการได้แบบเฉพาะตัวบุคคล ด้วย AI Assistant (ผู้ช่วยอัจฉริยะแบบปัญญาประดิษฐ์) ซึ่งจะทำหน้าที่เก็บข้อมูล และ ตอบสนองความต้องการได้อย่างแม่นยำ 

จากการคาดการณ์ของ Gartner บริษัทชั้นนำด้านการวิจัย และให้คำแนะนำเรื่องไอที หรือ ธุรกิจระดับสากลได้ระบุเอาไว้ว่า ในปี 2021 ขั้นตอนในการบริการลูกค้าทั้งหมด จะมีถึง 15 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน ที่ถูกจัดทำด้วยระบบ AI 

ซึ่งตัวอย่างของการใช้งาน AI เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ผมต้องขอบอกเลยว่าอยู่ใกล้ตัวเรามาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น การแนะนำเพลงของแอปพลิเคชัน Spotify ที่มีการใช้ AI เพื่อทำให้แนวเพลงที่แนะนำ มีความใกล้เคียงกับที่ผู้ใช้งานชื่นชอบ

ระบบแนะนำเพลงของ Spotify ที่มีการใช้ AI ในการนำเสนอเฉพาะบุคคล
ระบบแนะนำเพลงของ Spotify ที่มีการใช้ AI ในการนำเสนอเฉพาะบุคคล

 ที่มา The Verge

นอกจากจะมีเรื่องของการสนองความต้องการแบบเฉพาะตัวบุคคล (Personalization) แล้ว AI ยังสามารถช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าในด้านอื่น ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นด้านการให้บริการหรือคำปรึกษาได้ตลอดเวลาแบบไม่มีวันหยุด  หรือ การให้บริการผู้ช่วยอัจฉริยะในชีวิตประจำวันของลูกค้า เป็นต้น

จากประสบการณ์ที่ดีที่เทคโนโลยี AI เหล่านี้สามารถมอบให้ ผมรับรองได้เลยว่าลูกค้าจะเกิดความประทับใจ และช่วยเพิ่มยอดขาย และ ลูกค้าประจำให้ธุรกิจของเราได้อย่างแน่นอน

Echo สินค้าจาก Amazon ที่มี Alexa ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ
Echo สินค้าจาก Amazon ที่มี Alexa ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ

ที่มา Amazon

AI ช่วยทำให้งานที่ยุ่งยาก ง่ายขึ้น


ในทุก ๆ ธุรกิจ ย่อมปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันจะต้องมีงานบางอย่างที่ทั้งยุ่งยาก และ จำเป็นต้องเสียเวลาจำนวนมากไปกับมัน ซึ่งเทคโนโลยี AI สามารถทำให้คุณแบ่งเบาภาระไปได้ในงานบางประเภท 

โดยวันนี้ผมจะขอยกตัวอย่างเป็นงานในด้านการเก็บข้อมูลของลูกค้า ที่ทุกธุรกิจจะต้องเก็บมาเพื่อวิเคราะห์ว่าพฤติกรรม และ ความต้องการของพวกเขาเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าหากเราไม่มีเทคโนโลยี AI มาช่วยในการเก็บข้อมูลลูกค้า และ จัดการข้อมูลที่ได้มา เราจะต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากเลยทีเดียว

AI ช่วยทำให้งานที่ยุ่งยาก ง่ายขึ้น

ในทางกลับกันถ้าหากเรามีการใช้เทคโนโลยี AI ก็จะทำให้สามารถช่วยลดการใช้ทรัพยากรเหล่านั้นไปได้อย่างมาก เช่น ธนาคาร HSBC ที่ทำการใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าที่มีจำนวนมาก เพื่อนำมาช่วยในการจัดการส่งรางวัลสะสมแต้มของบัตรเครดิต ที่ถูกแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ  เช่น การท่องเที่ยว เงินสด บัตรกำนัล ซึ่งผลที่ได้รับคือความแม่นยำ ในการส่งรางวัลในประเภทที่ลูกค้าต้องการ เป็นผลให้อีเมลถูกเปิดอ่านมากขึ้นถึง 40 เปอร์เซ็นต์

ลองจินตนาการกันดูสิครับ ถ้าหากเราเป็นธนาคารที่อยากจะทำการส่งรางวัลได้ตรงกลุ่มขนาดนั้น มันจะต้องใช้กำลังคน และ เวลามากมายขนาดไหน แต่ถ้าหากเรามีเทคโนโลยี AI มันก็จะช่วยให้คนของเรามีเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยสร้างยอดขายได้มากขึ้นนั่นเอง

สำนักงานใหญ่ธนาคาร HSBC ที่มีการใช้เทคโนโลย AI
สำนักงานใหญ่ธนาคาร HSBC ที่มีการใช้เทคโนโลย AI

ที่มา Peter Nicholls จาก Reuters

AI ช่วยเพิ่มความมั่นใจในเรื่องความแม่นยำของข้อมูล


เทคโนโลยี AI นับว่าเป็นอะไรที่มีความน่าเชื่อถือสูงมากในด้านความแม่นยำ โดยเฉพาะการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ เพื่อการคาดคะเน
ซึ่งในอดีตการจะเก็บข้อมูลเหล่านี้เราก็จำเป็นที่จะต้องใช้แรงงานคนในการทำ ซึ่งถ้าหากจะพูดถึงเรื่องความแม่นยำ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าย่อมมีโอกาสผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน  แต่ในตอนนี้เราสามารถใส่เทคโนโลยี AI เข้าไปในระบบการทำงาน เพื่อให้การเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ และ การคาดคะเนตามความต้องการเป็นไปได้อย่างแม่นยำขึ้น

โดยผมขอยกตัวอย่างเป็นเครื่องมือ Dashboard Maker ต่าง ๆ ที่สามารถช่วยเราสร้างกระดานแสดงข้อมูลได้ ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้มีฟีเจอร์มากมาย ที่เราสามารถใช้ได้เพื่อเพิ่มความแม่นยำและชัดเจนของข้อมูล ทั้งการปรับข้อมูลจำนวนมากให้เป็นรูปภาพที่เข้าใจง่าย หรือ การคำนวณข้อมูลที่มีร่วมกันได้อย่างดีและเรียลไทม์ เป็นต้น ซึ่งเครื่องมือรูปแบบนี้มีผู้ให้บริการหลากหลายที่เราสามารถเริ่มต้นใช้ได้แบบฟรี ๆ ทั้ง Databox, Metabase หรือ Zoho Analytics ที่ล้วนได้รับความนิยม

ข้อมูลที่แม่นยำเป็นเรื่องที่สำคัญในการต่อยอดทางธุรกิจ ถ้าหากเรามีเทคโนโลยี AI เราก็สามารถมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง และด้วยการพึ่งพาข้อมูลที่มี และการวิเคราะห์ที่ดีก็จะสามารถวางแผนเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภาพตัวอย่างการใช้งาน Zoho Analytics
ภาพตัวอย่างการใช้งาน Zoho Analytics

ที่มา Zoho Analytics

AI ช่วยเพิ่มยอดขายด้วยอัลกอริทึม


ด้วยเทคโนโลยี AI ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ออกมาเป็นอัลกอริทึม จะทำให้เราสามารถระบุ หรือ คาดคะเน ผลลัพธ์ของกิจกรรม และ พฤติกรรมของลูกค้าได้ ซึ่งในจุดนี้จะทำให้เราสามารถวางแผนได้อย่างแม่นยำ และทำการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ลองจินตนาการดูสิครับ ว่าตลอดมาคุณอาจจะทำการโฆษณาสินค้าในทุก ๆ วันอาทิตย์ แต่แล้ววันหนึ่งที่คุณเริ่มติดตั้งระบบ AI ใส่เข้าไปในการะบวนการทำงาน ซึ่งอัลกอริทึมของมันกลับบอกว่า การโฆษณาในวันพุธ จะได้ผลดีที่สุด จากนั้นเมื่อคุณเปลี่ยนไปโฆษณาในวันพุธแทน ปรากฏว่ายอดขายของคุณเพิ่มไม่หยุด ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง โดยอัลกอริทึมเหล่านี้จะวิเคราะห์ และ คาดคะเนด้วยการอิงจากข้อมูลที่เก็บมา

5 ข้อดีการใช้เทคโนโลยี AI เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจคุณ

สรุป


มาถึงตรงนี้แล้วเราคงสรุปได้เลยว่า เทคโนโลยี AI ที่ถูกสร้างขึ้นมานั้นมีประโยชน์ต่อธุรกิจเรามากเหลือเกิน ซึ่งสามารถช่วยได้ทั้ง

สร้างระบบการขายให้สามารถทำได้โดยอัตโนมัติ

สร้างประสบการณ์ที่ดีที่มอบให้กับลูกค้า

ลดความยุ่งยาก ลดภาระการทำงาน

ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ว่าข้อมูลที่เราได้จะมีความแม่นยำ 

ช่วยเรื่องการทำนาย ให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาสามารถพูดได้เลยว่าจะช่วยให้ยอดขายของคุณเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยสิ่งที่เราจะต้องทำนั่นคือการคำถามว่าเราต้องการอะไร และเลือกใช้ให้ได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ของธุรกิจนั้น ๆ  เช่น ถ้าหากธุรกิจของเราอยากเพิ่มยอดขาย แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้อย่างไรบ้าง เราก็สามารถใช้เครื่องมือ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เพื่อมองหากิจกรรมการตลาดที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของเขา เป็นต้น

ที่มา

https://www.smartdatacollective.com/5-important-ways-artificial-intelligence-improves-sales/

https://www.forbes.com/sites/danielnewman/2019/04/16/5-ways-ai-is-transforming-the-customer-experience/#302994e5465a

https://www.americanbanker.com/news/cash-or-gift-card-never-mind-hsbcs-ai-already-knows

https://blog.capterra.com/free-dashboard-software-programs-for-bi/

https://www.salesforce.com/products/service-cloud/resources/chatbots-for-customer-service/

เรียนสอบถาม คอนเทนต์นี้ คุณชอบไหมคะ

ความคิดเห็นของคุณมีความสำคัญกับเรา ขอบคุณนะคะ

Learn More

Google Ads VS Facebook Ads เลือกช่องทางที่ใช่สำหรับการโฆษณาบนโลกออนไลน์ให้กับธุรกิจคุณ
พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส: มอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ฝ่าสถานการณ์โควิด-19