การตลาดบนโลกดิจิทัลในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเราทุกคนต้องเป็นสายเปย์กันในระดับหนึ่งในการจ่ายค่าโฆษณา สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มลงมือทำโฆษณา คือโฆษณาจะมีหลากหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบก็จะมีเป้าหมายแตกต่างกัน จึงต้องมีการกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนทุกครั้งก่อนจะเริ่มทำโฆษณา ว่าต้องการผลลัพธ์แบบใด ตั้งแต่การโปรโมทธุรกิจให้คนรู้จัก ไปจนถึงการเชิญชวนให้คนตัดสินใจซื้อ เป็นต้น หากรูปแบบโฆษณาของเราไม่ตอบโจทย์เป้าหมาย ก็จะทำให้เสียเงินค่าโฆษณาไปโดยเปล่าประโยชน์ จึงทำให้หลายๆคนต้องหันมาศึกษาเรื่องรูปแบบการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์กัน แต่ในการเริ่มต้นทำโฆษณาเราต้องรู้ก่อนว่าในแต่ละแพลตฟอร์มนั้นมีจุดประสงค์และเป้าหมายในการทำโฆษณาอะไรบ้าง
ซึ่งวันนี้จินนี่ก็ได้รวบรวมรูปแบบการโฆษณาของ 5 แพลทฟอร์มชื่อดังที่เชื่อว่าทุกท่านรู้จักกันดี มารวมกันไว้ที่บทความนี้ ที่จะช่วยให้ทุกท่านรู้ว่าโฆษณาแต่ละรูปแบบนั้น เมื่อคุณต้องเสียเงินไปแล้วจะได้อะไรกลับคืนมา ไปดูกันเลยค่ะ
Facebook Ads
1.Brand Awareness การรับรู้แบรนด์ – เพิ่มการรับรู้แบรนด์
- เข้าถึงผู้คนที่มีแนวโน้มที่จะจดจำกับโฆษณาของคุณและเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์
- เหมาะกับแบรนด์ใหม่ที่คนยังไม่รู้จักมาก
2.Reach การเข้าถึง – เน้นส่งโฆษณาให้มีจำนวนคนเห็นมากที่สุด
- เน้นแสดงโฆษณาให้มีคนเห็นมากที่สุด
- เหมาะกับแบรนด์ดังที่เป็นที่รู้จักอยู่หรือต้องการทำ Flash Sale ซึ่งใช้ในระยะเวลาสั้นๆ
3.Traffic จำนวนผู้เข้าชม – เพิ่มจำนวนในการนำส่งคนเข้าเว็บไซต์โดยส่งไปให้คนที่ชอบคลิกลิงก์
4.Engagement การมีส่วนร่วม – เน้นการมีส่วนร่วมกับโพสต์
- การมีส่วนร่วมกับโพสต์ กดไลก์ คอมเมนต์ แชร์
- จำนวนการกดถูกใจเพจ
- การตอบรับงานกิจกรรม
5.App Install จำนวนการติดตั้งแอป – ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
6.Video View จำนวนการรับชมวิดีโอ – เพิ่มการรับรู้สินค้า บริการ แบรนด์ของคุณผ่านวิดีโอ
7.Lead Generation การสร้างลูกค้าเป้าหมาย – เก็บรวบรวมข้อมูลจากคนที่สนใจธุรกิจของเรา
- เก็บข้อมูลผ่านการลงทะเบียน กรอกฟอร์ม
8.Message ข้อความ – กระตุ้นให้ผู้คนสนทนากับธุรกิจของคุณมากขึ้นใน Messenger
9.Conversion กลุ่มคอนเวอร์ชัน – กระตุ้นให้เกิดการดำเนินการบนเว็บไซต์ เช่น กดเพิ่มสินค้าลงตระกร้า กดกรอกข้อมูลชำระเงิน
10.Product Catalog การขายทางแคตตาล็อก – เน้นการแสดงสินค้าเหมาะสำหรับ E-commerce
11.Store Visit การเยี่ยมชมหน้าร้าน – โปรโมทตำแหน่งที่ตั้งของร้านหรือธุรกิจของคุณต่อคนที่อยู่ใกล้เคียงกับตำแหน่งที่ตั้งร้านของคุณ เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้าน
Instagram Ads
1.Brand Awareness การรับรู้แบรนด์ – เพิ่มการรับรู้แบรนด์
- เข้าถึงผู้คนที่มีแนวโน้มที่จะจดจำกับโฆษณาของคุณและเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์
- เหมาะกับแบรนด์ใหม่ที่คนยังไม่รู้จักมาก
2.Reach การเข้าถึง – เน้นส่งโฆษณาให้มีจำนวนคนเห็นมากที่สุด
- เน้นแสดงโฆษณาให้มีคนเห็นมากที่สุด
- เหมาะกับแบรนด์ดังที่เป็นที่รู้จักอยู่หรือต้องการทำ Flash Sale ซึ่งใช้ในระยะเวลาสั้นๆ
3.Traffic จำนวนผู้เข้าชม – เพิ่มจำนวนในการนำส่งคนเข้าเว็บไซต์โดยส่งไปให้คนที่ชอบคลิกลิงก์
4.Engagement การมีส่วนร่วม – เน้นการมีส่วนร่วมกับโพสต์
- การมีส่วนร่วมกับโพสต์ กดไลก์ คอมเมนต์ แชร์
- จำนวนการกดถูกใจเพจ
- การตอบรับงานกิจกรรม
5.App Install จำนวนการติดตั้งแอป – ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
6.Video View จำนวนการรับชมวิดีโอ – เพิ่มการรับรู้สินค้า บริการ แบรนด์ของคุณผ่านวิดีโอ
7.Lead Generation การสร้างลูกค้าเป้าหมาย – เก็บรวบรวมข้อมูลจากคนที่สนใจธุรกิจของเรา
- เก็บข้อมูลผ่านการลงทะเบียน กรอกฟอร์ม
8.Message ข้อความ – กระตุ้นให้ผู้คนสนทนากับธุรกิจของคุณมากขึ้นใน Messenger
9.Conversion กลุ่มคอนเวอร์ชัน – กระตุ้นให้เกิดการดำเนินการบนเว็บไซต์ เช่น กดเพิ่มสินค้าลงตระกร้า กดกรอกข้อมูลชำระเงิน
10.Product Catalog การขายทางแคตตาล็อก – เน้นการแสดงสินค้าเหมาะสำหรับ E-commerce
11.Store Visit การเยี่ยมชมหน้าร้าน – โปรโมทตำแหน่งที่ตั้งของร้านหรือธุรกิจของคุณต่อคนที่อยู่ใกล้เคียงกับตำแหน่งที่ตั้งร้านของคุณโมทตำแหน่งที่ตั้งของร้านหรือธุรกิจของคุณต่อคนที่อยู่ใกล้เคียงกับตำแหน่งที่ตั้งร้านของคุณ
เป้าหมายในการโฆษณาบน Instagram จะมีรูปแบบเหมือนกับ Facebook ค่ะ แต่จะแตกต่างกันตรงพื้นที่ในการแสดงโฆษณาที่จำกัดกว่า
Google Ads
1.Search Network Campaign โฆษณาผ่านการค้นหาบน Google
- เพิ่มยอดขายให้แก่ร้านค้า หรือทางช่องทางออนไลน์
- เพิ่มโอกาสในการขาย
- เพิ่มจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์
2.Display Network Campaign ดึงดูดความสนใจด้วยรูปภาพและโฆษณา
- โปรโมทแบรนด์
- สร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์
- ช่วยเพิ่มยอดขาย
- เพิ่มโอกาสในการขาย
3.Shopping Campaign แสดงผลิตภัณฑ์
- โปรโมตผลิตภัณฑ์บนช่องทางออนไลน์
- หากลุ่มเป้าหมายที่เข้าเกณฑ์และมีคุณภาพ
- เพิ่มจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์และกิจการที่มีหน้าร้านจริง
4.Video Campaign แสดงเรื่องราวของธุรกิจผ่านวิดีโอ
- พิจารณาผลิตภัณฑ์และแบรนด์
- การรับรู้แบรนด์และการเข้าถึง
5.App Campaign โปรโมทแอปต่อผู้ใช้ที่เหมาะสม
- ปริมาณในการติดตั้ง
- การดำเนินการในแอป สั่งซื้อเกมหรือเล่นเกม
Youtube Ads
1.TrueView Ads หรือ Skippable Video Ads (โฆษณาที่กดข้ามได้)
1.1. TrueView In-Stream Ads
- เพิ่มโอกาสในการขาย
- การเข้าชมเว็บไซต์
- การรับรู้แบรนด์และการเข้าถึง
- การพิจารณาผลิตภัณฑ์และแบรนด์ Display Ads
1.2.TrueView Discovery Ads
- การพิจารณาผลิตภัณฑ์และแบรนด์
2.Non-Skippable Video Ads (โฆษณาวิดีโอที่กดข้ามไม่ได้)
- การรับรู้แบรนด์และการเข้าถึง
3.Bumper Ads (โฆษณาที่แสดงเพียง 6 วินาทีและไม่สามารถกดข้ามได้)
- การรับรู้แบรนด์และการเข้าถึง
1.Tweet Engagements การมีส่วนร่วม – ช่วยให้แบรนด์คุณเป็นที่พูดถึงเป็นจำนวนมากในบทสนทนา
2.Promoted video views โปรโมทการรับชมวิดีโอ – เพิ่มจำนวนผู้เห็น GIFs และ วิดีโอ
3.Awareness สร้างการรับรู้ – ช่วยให้คนเห็นทวีตของคุณมากที่สุด
4.Website clicks or conversions การคลิกเข้าเว็บไซต์ – ให้ผู้คนเข้าชมและดำเนินการกับเว็บไซต์ของคุณ (เช่นซื้อสินค้า)
5.In-stream video views การดูวิดีโอในสตรีม – เพิ่มการรับรู้สินค้าและแบรนด์
6.Followers เพิ่มผู้ติดตาม – ช่วยเพิ่มกลุ่มผู้ติดตามที่มีส่วนร่วมกับคุณ
7.App installs ติดตั้งแอปพลิเคชัน – เพิ่มการดาวน์โหลดติดตั้งแอปพลิเคชันของคุณ
8.App re-engagements การมีส่วนร่วมกับแอป – กระตุ้นให้ผู้ที่มีแอปพลิเคชันอยู่แล้ว เปิดและใช้งานแอป
Infographic สรุป
“คลิกดาวน์โหลดรูปด้านล่างได้เลยค่ะ”