ปัจจุบันในประเทศมีการใช้โฆษณาบนเฟสบุ๊คเป็นจำนวนมาก แต่ยังขาดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ จึงทำให้บางครั้ง ยิงโฆษณาออกไปแล้วไม่ได้ผล ไม่ได้ยอดขายกลับมา หรือ ได้ยอดขายไม่ดีเท่าที่ควร วันนี้ทีมคอนเทนต์ของ STEPS จะมาเล่าถึงหลักการ 5 ข้อ ที่จะช่วยให้ทุกท่านทำโฆษณาบนเฟสบุ๊คให้ได้ผล อย่ารอช้า เรามาเริ่มกันเลย
STEP 1 : มีความเข้าใจจุดประสงค์ในการยิงโฆษณา
อย่างที่บอกไปข้างต้น ตอนนี้ประเทศเรายังขาดบุคลากรที่เชี่ยวชาญในการทำโฆษณาอยู่ ส่วนใหญ่จะทำพอได้ เป็นทักษะพื้นๆ บางครั้งเจ้าของเพจก็อยากได้ไลค์เยอะๆ การมีส่วนร่วมเยอะๆ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนยอดไลค์เป็นยอดขายได้ ซึ่งการที่จะทำโฆษณาให้ได้ผลนั้นต้องมีจุดประสงค์ ว่าทำไปเพื่ออะไร เพื่อเพิ่มยอดขาย หรือ สร้าง Brand Awareness อีกอย่างคือต้องมีผู้เชี่ยวชาญในการทำโฆษณาขั้นสูง หรือถ้าไม่มีเวลาหรือยังไม่มีทีมงานที่เชี่ยวชาญ ก็สามารถใช้บริการ Digital Agency ได้ครับ ประหยัดทั้งเวลา ประหยัดทั้งงบประมาณ
STEP 2 : ตั้งกลุ่มเป้าหมายให้โดน
การตั้งกลุ่มเป้าหมายสำคัญมากๆในการทำโฆษณาในเฟสบุ๊ค เป็นตัวชี้วัดได้เลยว่าโฆษณาของเราจะมีประสิทธิภาพหรือไม่ การตั้งกลุ่มเป้าหมายไม่โดนนั้น ก็เหมือนกับเราไปเก็บมะม่วงในสวนทุเรียน ทำโฆษณายังไง ก็ไม่เจอลูกค้าจริงๆซักที
วิธีแก้ไขปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เราต้องรู้จักและเข้าใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราอย่างดีก่อน ต้องรู้ข้อมูลพื้นฐาน สถานที่อยู่ รู้พฤติกรรม ความชอบ การติดตามเพจของกลุ่มเป้าหมาย
ตัวอย่างเช่น เรารู้ว่าลูกค้าของเราส่วนใหญ่ชอบเล่น Instagram และเล่นบ่อยมาก เพราะฉะนั้น เราจะพลาดไม่ได้ที่แบรนด์ของเราจะมี Instagram และเวลาทำโฆษณา ก็ให้ทำโฆณาบน Instagram ด้วยนะครับ
สามารถดูวิธีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ ที่นี่
STEP 3 : จงทำตัวเป็นลูกค้า
อย่าเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง ให้คิดว่าตัวเองเป็นลูกค้า เวลาเราเจอโฆษณาแบบนี้จะกดเข้ามาดูมั้ย เห็นรูปนี้ กราฟฟิคนั้น เราสะดุดตาหรือไม่ ถ้าเราคิดแบบนี้ได้ ก็ไม่ยากที่จะทำโฆษณาให้โดนกลุ่มเป้าหมาย
ขอเสริมอีกนิดนะครับ รูปภาพที่ใช้ในการทำโฆษณาเป็นอีกอย่างนึงที่สำคัญ ต้องสะดุดตาทำให้กลุ่มเป้าหมายหยุดดูโฆษณาของเราให้ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าเรารู้จักกลุ่มเป้าหมายดีพอ เราจะรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราชอบรูปภาพแบบไหน แล้วเราจะออกแบบออกมาให้โดนกับกลุ่มเป้าหมายของเราได้
ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราชอบดูรูป หรือถ่ายภาพแบบ Hipster เพราะฉะนั้นรูปที่เราจะนำมาใช้ในการทำโฆษณา ก็ต้องเป็นรูปที่ดู Hipster ให้ตรงกับที่กลุ่มเป้าหมายชอบดู เป็นต้น
STEP 4 : หัวข้อและข้อความต้องดึงดูดความสนใจ
บางครั้งกลุ่มเป้าหมายสนใจหยุดดูโฆษณาของแล้ว ข้อความอ่านแล้วไม่น่าสนใจ ไม่ดึงดูด เวิ่นเว้อเกินไป ก็ทำให้กลุ่มเป้าหมายไม่อ่านต่อ หรือเลื่อนผ่านโฆษณาของเราไป
ผมแนะนำ คือ ข้อความต้องดึงดูดตั้งแต่ 2-3 บรรทัดแรก ซึ่งอาจจะกล่าวถึงปัญหาของกลุ่มเป้าหมาย หรือ คำคมโดนๆ ข้อความต่อๆมาก็อย่างเวิ่นเว้อมาก ปัจจุบันคนสมาธิสั้นลง อยู่กับข้อความของเราไม่ได้นานมากครับ
STEP 5 : เลือกประเภทการทำโฆษณาให้เหมาะสม
ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายนะครับ ถ้าเราต้องการดึงคนเข้าเว็บไซต์ ที่สามารถให้คนคลิกเข้าเว็บไซต์เราได้เลย ก็ควรเลือกทำโฆษณาประเภท Click to website
เมื่อเราต้องการซื้อโฆษณาคอนเทนต์ที่เป็นวิดีโอ ก็ให้เลือกประเภท การรับชม วิดีโอ เป็นต้น
หากเราเลือกประเภทไม่เหมาะสม ก็อาจจะไม่ได้ผลลัพท์เท่าที่ควรครับ
