SEO 101: รวมคำศัพท์พื้นฐานที่ควรรู้

อีกหนึ่งทักษะที่เป็นที่ต้องการของคนทำงานในฝั่งของดิจิทัลมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้ คือทักษะด้านการทำ SEO (Search Engine Optimization) หรือ การปรับแต่งให้เว็บไซต์ให้สามารถติดอันดับต้นๆ บนหน้าผลการค้นหา ซึ่งถือได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากในยุคของการตลาดดิจิทอล เนื่องจากการมีตัวตนอยู่บนฝั่งของออนไลน์มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะเป็นธุรกิจในประเภทใดก็ตามค่ะ ต่อมาเรามาทำความเข้าใจกันดีกว่าค่ะว่าจริงๆ แล้ว SEO คืออะไร และ มีหลักการทำงานอย่างไรบ้าง

SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization หมายถึง การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหาในตําแหน่งที่ดีที่สุด หรือ ติดหน้าแรกของ Search Engine ต่างๆ เช่น Google, Yahoo, Bing เป็นต้น ซึ่งการที่เว็บไซต์ของเราสามารถติดอันดับแรกๆ ของ Search Engine ได้จะต้องอาศัยหลากหลายปัจจัยโดยเป็นไปตาม Algorithm นั่นเองค่ะ ซึ่งในการทำความเข้าใจกับการทำงานของ Algorithm นี้ ทำให้เราต้องพบเจอกับคำศัพท์เทคนิคมากมายค่ะ วันนี้ STEPS Academy จึงได้รวบรวมคำศัพท์พื้นฐานที่ควรรู้เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจการทำ SEO ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

 

รวมคำศัพท์พื้นฐานที่ควรรู้ในการทำ SEO

 

1.Algorithm คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ใน Search Engine เพื่อเป็นตัวดึงข้อมูล และ แสดงผลลัพธ์สำหรับคำค้นหาในหน้าการค้นหา 

สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ Google Algorithm ได้ที่ https://stepstraining.co/content/update-google-algorithm

2.ALT Text คือ โค้ด HTML (Hypertext Markup Language) ที่ใช้สำหรับอธิบายรูปภาพ เพื่อให้ Google รู้ว่ารูปภาพมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหา ส่งผลต่อการจัดอันดับของ Google Image และการใช้งาน Screen Reader สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตา ในกรณีที่ อินเทอร์เน็ตมีความล่าช้าในการโหลดภาพ คําอธิบายภาพน้ีสามารถทําให้เข้าใจได้ว่าภาพนี้คือภาพอะไร

 3.Anchor Text คือ ลิงค์ของคำที่สามารถคลิกได้เพื่อไปยังหน้าถัดไปหรือหน้าอื่นๆ ที่ต้องการให้เชื่อมโยงกับเนื้อหานั้นๆ ตัวอย่างเช่น หากต้องการให้ผู้อ่านเข้าไปทำความรู้จักกับ STEPS Academy เพิ่มเติมจึงใส่ Anchor Text เป็นลิงค์ “STEPS Academy” ให้สามารถเชื่อมต่อไปยังหน้าเว็บไซต์หลักของ STEPS Academy 

4.Backlink คือ การมีลิงก์จากเว็บภายนอกลิงก์เข้ามาที่เว็บไซต์ของเรา หรือเว็บไซต์อื่นๆ กําลังพูดถึงเว็บไซต์ของเรานั่นเอง 

5.Black box คือ สิ่งที่ไม่สามารถรู้ได้ หรือ เป็นเพียงข้อสันนิษฐาน เช่น Algorithm ของ Google ถือเป็น Black box

6.Black hat คือ ​​การโปรโมตเว็บไซต์โดยใช้เทคนิคต่างๆ ที่ไม่เป็นไปตามแนวปฏิบัติ เพื่อให้ได้ ประโยชน์ทาง SEO โดยไม่สนใจถึงความเหมาะสม ตามลักษณะที่ตรง ข้ามกับการทํา White Hat SEO ทุกประการ (ไม่แนะนําให้ทําอย่างยิ่ง)

 7.Bounce rate คือ สัดส่วนของการเข้าชมเว็บไซต์เพียงหน้าเดียว หรือ อัตราส่วน ของคนเข้ามาเว็บเราแล้วอยู่แค่หน้าเดียว แล้วปิดไป ถ้าตัวเลขยิ่งสูง แสดงว่าเว็บไซต์เราไม่มีคุณภาพเพียงพอ หรือไม่โดนใจคนอ่านพอ ให้กด ไปหน้าอื่นๆ 

8.Branded Keyword คือ คำที่ผู้ใช้ใช้ในการค้นหาแบบเฉพาะเจาะจงไปที่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง เช่นคำว่า “STEPS Academy”, “STEPS Training” เป็นต้น

9.Breadcrumb คือ เครื่องมือที่ใช้ในการนำทางบนเว็บไซต์ เพื่อช่วยให้เกิดความสะดวกสบายต่อผู้ใช้งานให้สามารถทราบได้ว่าผู้ใช้งานอยู่ในส่วนใดของเว็บไซต์

10.Broken link คือ ลิงค์ที่ไม่สามารถใช้งานได้ซึ่งจะนำไปสู่หน้า “404 not found” โดยสาเหตุสามารถเกิดขึ้นได้จาก เว็บไซต์ถูกปิด หน้าเพจถูกลบออกไป หรือที่อยู่ของ URL ถูกเปลี่ยนไป

11.Cache คือ เครื่องมือในการเก็บเนื้อหาเว็บไว้ชั่วคราวเพื่อลดเวลาในการดาวน์โหลดหน้าเว็บไซต์

12.Canonical URL คือ โค้ด HTML ที่กำหนดให้สามารถเข้าเว็บไซต์ได้โดยใช้ URL ที่แตกต่างกัน หรือ มีหน้าเว็บหลายหน้าที่ซ้ำกัน

13.ccTLD (country code top-level domain) คือ โดเมนระดับบนสุดตามรหัสของประเทศเหมาะกับธุรกิจหรือเว็บไซต์ที่ต้องการเจาะตลาดไปยังประเทศนั้นๆ ซึ่งจะต้องมีข้อจำกัดบางอย่างตามระเบียบ

14.Click Bait คือ เนื้อหาที่ถูกออกแบบมาเพื่อจูงใจให้คนคลิกเข้าไปอ่านบนเว็บไซต์ ซึ่งภายในเว็บไซต์ไม่ได้มีเนื้อหาเชื่อมโยงกับหัวข้อที่ใส่ไว้ใน Click Bait

15.Click-Through Rate (CTR) คือ อัตราส่วนของจํานวนครั้งที่โฆษณาถูกคลิกเมื่อเทียบกับจํานวนครั้งที่แสดงผล ถ้าโฆษณาแสดงผลต่อผู้คน 100 คนและ 10 คนคลิกที่โฆษณาจะได้ CTR (Click Through Rate) เท่ากับ 10% (10 คลิก / 100 การแสดงผล = CTR 10%) 

16.Cloaking คือ การหลบซ่อนเนื้อหาบางส่วนบนเว็บไซต์ต่อผู้ใช้งาน เพื่อให้ส่งผลต่อการทำ SEO ซึ่งไม่เป็นไปตามคำแนะนำของ Google โดยเรียกว่าเป็นการทำ Black hat SEO ซึ่งไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

17.Conversion คือ การกระทำเมื่อผู้ใช้ดำเนินการต่างๆ บนเว็บไซต์จนเสร็จ โดยขึ้นอยู่กับว่าเรากำหนด Conversion เป็นอะไรเช่น ทำการสั่งซื้อสำเร็จ กรอบแบบฟอร์ม ดาวน์โหลดเนื้อหา กดติดตามทางอีเมล หรือเพิ่มสินค้าไปยังตะกร้าสินค้า เป็นต้น

18.Conversion Rate คือ อัตราของการกระทําบางอย่างที่เราต้องการจากผู้ที่เข้าเว็บไซต์ของเรา เช่น มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมด 100 คน มี 10 คนทําตามเป้าหมายของ Conversion ที่ตั้งเอาไว้ (เช่นกรอกแบบฟอร์มติดต่อ) อัตรา Conversion จะเท่ากับ 10% 

19.Conversion Rate Optimization (CRO) คือ กระบวนการในการปรับปรุงคุณภาพของเว็บไซต์เพื่อทำให้เกิด Conversion บนเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น

20.Domain คือ ที่อยู่ของเว็บไซต์ ซึ่งโดยทั่วไปจะลงท้ายด้วย .com .org หรือ .net เป็นต้น

21.External Link คือ ลิงค์จากเว็บไซต์อื่นๆ ที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของเรา

22.Featured Snippet หรือ Position Zero คือ รูปแบบหนึ่งของผลการค้นหา ซึ่งผลการค้นหานี้จะมีพื้นที่มากกว่าการค้นหาอื่นๆ โดยอาจขึ้นเป็นข้อความประกอบรูปภาพ หรือ ขึ้นเป็นลิสต์ของข้อมูลนั้นๆ ซึ่งจะต้องเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์กับผู้อ่านและเชื่อมโยงกับความต้องการของค้นหา

ตัวอย่าง Featured Snippets ที่ปรากฏอยู่บนหน้า Search Engine

ตัวอย่าง Featured Snippets ที่ปรากฏอยู่บนหน้า Search Engine 

 

23.Homepage คือ หน้าแรก หรือ หน้าหลัก ที่แสดงบนเว็บไซต์

24.htaccess File คือ ไฟล์สำหรับกำหนดค่า หรือ ลักษณะของการทำงานบนเซิฟเวอร์ที่ใช้ซอฟท์แวร์ Apache Web Server

25.HTML (Hypertext Markup Language) คือ ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเขียนเว็บเพจ โดยใช้ Tag ในการกำหนดการแสดงผล

26.HTTP (Hypertext Transport Protocol) คือ โปรโตคอล*ที่ใช้สำหรับส่งถ่ายข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ของคอมพิวเตอร์ไปยังเว็บเบราว์เซอร์

27.HTTPS (Hypertext Transfer Protocol Secure) คือ โปรโตคอล*ที่มีการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างเว็บไซต์และเว็บเบราว์เซอร์ โดยเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดอันดับของ Google

(*โปรโตคอล หรือ Protocol คือ ข้อกำหนด หรือการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์ด้วยกัน ซึ่งสามารถแบ่งโปรโตคอลได้หลายประเภท)

28.Inbound link คือ ลิงค์ที่นำมาสู่เว็บไซต์ของเรา หรือ การแนะนำมายังเว็บไซต์ของเราจากเว็บไซต์ภายนอก

29.Inbound Marketing คือ การตลาดแบบแรงดึงดูด คือการเปลี่ยนจาก “คนแปลกหน้า (Strangers)” ให้กลายเป็น “คนที่คุ้นหน้าค่าตา (Visitors)” ด้วยคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ และมีคุณค่า จากนั้นก็เปลี่ยนพวกเขาเหล่า นั้นให้เป็น “ลูกค้ามุ่งหวัง (Leads)” และฟูมฟักพวกเขาเหล่านั้น จนกระทั่ง เขาเปลี่ยนสถานะเป็น “ลูกค้า (Customer)” สุดท้ายก็คือการสร้าง ประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าจนเขาเปลี่ยนสถานะเป็น “แฟน (Promoters)” 

30.Internal Link คือ ลิงค์ที่อยู่ภายในเว็บไซต์เพื่อเชื่อมโยงไปยังหน้าเพจต่างๆ ภายในเว็บไซต์ของเรา

31.IP Address คือ ที่อยู่ของคอมพิวเตอร์ หรือ ตัวแทนของคอมพิวเตอร์ที่สามารถบอกได้ว่าคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ที่ไหน โดยเป็นตัวเลขที่ไม่ซ้ำกัน

32.Keyword คือ คําหรือวลีที่คนใช้ค้นหาข้อมูลจาก Search Engine เป็นคําที่สะท้อนถึง ปัญหาหรือความต้องการของคน 

ตัวอย่างเช่น ถ้าไปเที่ยวทะเลที่พัทยาและต้องการที่พัก เราสามารถค้นหาด้วย Keyword ว่า “ที่พักติดทะเลพัทยา” เป็นต้น 

33.Keyword Stuffing คือ การใส่คำหรือการใส่คีย์เวิร์ดซ้ำๆ ในจำนวนมากเกินไป ส่งผลให้เนื้อหาของคอนเทนต์เข้าใจได้ยากขึ้น และ ไม่ได้เป็นคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ เป็นหนึ่งในเทคนิคการทำ Black Hat SEO ซึ่งไม่ควรปฏิบัติตาม

34.KPI (Key Performance Indicators) คือ ตัวชี้วัดในการวัดผลของแคมเปญโซเชียลมีเดียว่าสามารถบรรลุเป้าหมายทางการตลาดหรือไม่

35.Landing Page คือ หน้าเว็บไซต์ที่คนเข้ามาถึงเป็นหน้าแรกจากการคลิกลิงก์ แต่ถ้าเป็นความ หมายในเชิง Online Marketing แล้ว Landing Page จะเป็นหน้าที่ถูก ออกแบบ และสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์อะไรบางอย่างแค่เพียงอย่างใน อย่างหนึ่ง เช่น มีฟอร์ม (ที่เอาไว้เก็บข้อมูล) หรือ ถูกทําขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว 

36.Leads คือ จำนวนลูกค้า หรือ จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่เก็บได้

37.Link คือ การเชื่อมต่อระหว่างสองเว็บไซต์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยการใช้โค้ด HTML เพื่อเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ หรือ แอพพลิเคชั่นอื่นๆ

38.Link Bait คือ กระบวนการในการสร้างเนื้อหาเพื่อกระตุ้นให้ผู้อ่านคลิกหรือแชร์เนื้อหา ด้วยการทำ Inbound link ในจำนวนมากๆ 

39.Long-Tail Keyword คือ Keyword ที่มีความเฉพาะเจาะจงสูง คือเป็นคํา ที่สื่อความหมายที่ชัดเจนว่ากําลังหมายถึงอะไรอยู่ ส่วนใหญ่แล้ว Long-Tail Keyword มักจะประกอบไปด้วยคําหลายๆคํามารวมกันหรือ บางครั้งอาจจะอยู่ในรูปประโยคก็ได้ 

40.Meta Description คือ คำอธิบายใช้สําหรับแสดงรายละเอียดโดยย่อของหน้าเว็บไซต์ที่แสดงผลอยู่ ซึ่ง ข้อความไม่ควรสั้น หรือ ยาวจนเกินไป และควรสัมพันธ์กับเนื้อหาของ หน้านั้น ๆ ความยาวของคําอธิบายไม่ควรเกิน 200 อักษร 

 

ตัวอย่าง Meta Description ของเว็บไซต์ STEPS Academy

ตัวอย่าง Meta Description ของเว็บไซต์ STEPS Academy

 

41.Meta Keyword คือ คําที่ใช้ระบุสําหรับการค้นหาผ่าน Search Engine โดยคําที่กําหนดควร สอดคล้องกับเนื้อหาในหน้านั้นๆ คําแต่ละคําจะต้องคั่นด้วยเครื่องหมาย จุลภาค (,)(comma) โดยความยาวที่ระบบรองรับจะต้องไม่เกิน 255 อักษร 

42.Meta Tags คือ ข้อความที่อธิบายเกี่ยวกับเนื้อหาภายในเว็บไซต์ซึ่งปรากฏอยู่หน้าการค้นหา โดย Meta tags มีการจำกัดคำอยู่ที่ 55 คำ ดังนั้นคุณควรเขียน Meta Tags ที่กระชับ และตรงต่อสิ่งที่แบรนด์ต้องการสื่อสารไปยังผู้ชม โดยในส่วนของ Meta Tags เป็นเหมือนกระบอกเสียงที่บอกเล่าถึงแบรนด์คุณและช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ให้เข้ามาที่เว็บไซต์

43.Negative SEO คือ การทำ Black hat SEO หรือการทำ SEO ที่ไม่ได้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติของ Google ด้วยการใช้เทคนิคในการทำลายอันดับการค้นหาของเว็บไซต์อื่น หรือ เว็บไซต์ที่เป็นคู่แข่ง

44.Off-page SEO คือ ปัจจัยจากภายนอก เป็นการทำให้อันดับเว็บไซต์ของเราอยู่ในลำดับที่ดีขึ้น ด้วยการนำปัจจัยภายนอกมาปรับใช้ และช่วยให้คอนเทนต์ของคุณถูกค้นหาด้วยการทำ Backlink เชื่อมโยงที่มาจากเว็บไซต์อื่น ๆ โดยลิงก์ที่เป็น Off-Page SEO สามารถเป็นได้ทั้งลิงก์ที่ผู้อื่นสร้างให้ หรือลิงก์ที่เราสร้างขึ้นมาเองก็ได้

45.On-page SEO คือ ปัจจัยภายใน เป็นการปรับแต่งคอนเทนต์ภายในเว็บเพจ และหน้าเว็บไซต์เพื่อเพิ่มโอกาสให้คอนเทนต์ถูกจัดอยู่ในลำดับที่สูงขึ้น และอยู่หน้าแรก เมื่อมีการค้นหาบนหน้าเว็บไซต์

สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ On-Page และ Off-Page SEO ได้ที่ https://stepstraining.co/search/on-page-and-off-page-seo

46.Organic Search คือ ผลการค้นหาทั่วไปที่ถูกจัดอันดับด้วย Algorithm ให้เป็นผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหามากที่สุด โดยไม่รวมผลการค้นหาที่มีการเสียค่าโฆษณา

47.Outbound Link คือ การส่งลิงก์ออกไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ซึ่งมีผลดีคือสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์และทำให้เป็นคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ต่อผู้อ่านมากยิ่งขึ้น

48.PageRank คือ การวัดความสำคัญของเว็บเพจโดย Google หากค่า Pagerank ยิ่งสูงหมายความได้ว่าเว็บไซต์นั้นๆ มีโอกาสได้รับการจัดอันดับที่ดีกว่าเว็บไซต์อื่นๆ

49.Page Speed คือ ระยะเวลาที่ใช้ในการดาวน์โหลดหน้าเว็บโดยสมบูรณ์ ซึ่งส่งผลต่อการจัดอันดับบนหน้าผลการค้นหา

50.Pageview คือ การนับจํานวนผู้เข้าชมเว็บไซต์โดยนับจากจํานวนหน้าเว็บไซต์ที่ผู้เข้าชม ได้ทําการเข้าชม 

51.Paid Search คือ ผลการค้นหาแบบเสียค่าโฆษณาโดยมักจะอยู่ก่อนหน้าผลการค้นหาแบบไม่เสียค่าโฆษณา (Organic Search)

52.PPC (Pay Per Click) คือ ค่าใช้จ่ายต่อ 1 การคลิก โดยค่าใช้จ่ายจะถูกนับเมื่อโฆษณาหรือ Keyword นั้นๆ ถูก คลิก 

53.Query คือ คำที่ผู้ใช้ใช้ในการค้นหาบน Search Engine

54.Ranking คือ ตําแหน่งที่เว็บไซต์ปรากฏในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา “อันดับ” ของ เว็บไซต์ของฉันมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ขึ้นอยู่กับ Keyword ที่ถูกค้นหา 

55.Referrer คือ ข้อมูลจาก URL ที่สามารถระบุแหล่งที่มาของผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้

56.Return on Investment (ROI) คือ การวัดผลตอบแทนจากการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น ค่าการทําการตลาด ค่าออกบูธ หรือแม้แต่ค่าจ้างสตาฟในบูธ

วิธีการคํานวน คือ [ (รายรับ – ต้นทุน) / ต้นทุน ]x100

เช่น ขายสินค้าได้กําไร 40,000 บาท ค่าต้นทุนสินค้า 4,000 ค่าทําโฆษณา 6,000 รวมเป็นเงิน 10,000 บาท ROI = [(40,000 – 10,000)/10,000] x 100 = 300% หมายความว่าผลกําไรที่ได้รับจากการลงทุน คือ 300% 

59.Search Engine Marketing (SEM) เป็นการผสมคํากันระหว่างคําว่า “Search Engine” ซึ่งก็คือเครื่องมือ ค้นหาบนอินเตอร์เน็ต และคําว่า “Marketing” หรือ การตลาด ดังนั้น คํา ว่า “SEM” หรือ “Search Engine Marketing” จึงหมายถึง “การทําการ ตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเตอร์เน็ต” นั่นเอง 

SEM (Search Engine Marketing) ประกอบไปด้วยในส่วนของ Paid Search หรือ Search Advertising ซึ่งเป็นส่วนของโฆษณาที่มีค่าใช้จ่าย เป็นรายคลิกในรูปแบบของ “PPC (Pay Per Click)” 

60.Search Engine Optimization (SEO) คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหาในตําแหน่งที่ดีที่สุด หรือ ติด หน้าแรกของ Search Engine ต่างๆ เช่น Google, Yahoo, Bing โดย SEO ย่อมากจาก Search Engine Optimization 

61.Search Engine Results Page (SERP) คือ หน้าแรกของผลการค้นหาบน Search Engine โดยจะเป็นการแสดงผลที่เชื่อมโยงกับคำที่ผู้ใช้ใช้ค้นหามากที่สุด

62.Sitelinks คือ ส่วนขยายโฆษณาใน Google Adwords ที่ปรากฏอยู่ใต้โฆษณาหลักซึ่ง เชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บหนึ่ง ๆ ในเว็บไซต์ขอบคุณเอง (เช่นติดต่อเรา เกี่ยวกับเรา ฯลฯ ) โฆษณาสามารถมีได้ตั้งแต่ 2-6 ไซต์ลิงก์ 

63.Sitemap คือ ลิสต์ของหน้าเพจทั้งหมดบนเว็บไซต์ หรือ แผนผังของเว็บไซต์

67.Traffic คือ จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์

68.User-Generated Content (UGC) คือ การที่ผู้บริโภคหรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายผลิตคอนเทนต์ด้วยตัวเอง ซึ่งคอนเทนต์ที่ผลิตออกมานั้นจะมีการกล่าวถึงแบรนด์นั้นๆ ที่ผู้บริโภคหรือ ลูกค้ากลุ่มหมายนั้นมีความสนใจ โดยที่แบรนด์ไม่จําเป็นต้องเสียเงินจ้างผู้บริโภคกลุ่มนี้เลย 

69.​​URL (Universal Resource Locator) คือ ที่อยู่เว็บที่ใช้สำหรับค้นหาหน้าเว็บแบบเฉพาะเจาะจง โดยทุก URL จะประกอบไปด้วยโดเมนและองค์ประกอบอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการค้นหาหน้าเว็บที่เฉพาะเจาะจง

70.User Interface (UI) คือ งานดีไซน์ที่เน้นหนักเรื่องการออกแบบ ‘หน้าจอ’ หรือแพลทฟอร์มต่างๆ ที่ธุรกิจทําไว้เพื่อติดต่อกับผู้ใช้ ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ แอพลิเคชั่น เกมส์ รวมไปถึงฮาร์ดแวร์ที่จับต้อง ได้เช่นอุปกรณ์จอทัชสกรีน ฯลฯ 

71.User Experience (UX) คือ งานออกแบบด้านนี้จะเกี่ยวข้องกับทุกกระบวนการที่ สินค้าหรือบริการหนึ่งๆ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ โดยเน้นไปที่การนําสินค้า หรือบริการไปทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง ทั้งนี้เพื่อจะเก็บข้อมูลและ ‘ฟีดแบค’ อย่างละเอียดกลับมาพัฒนาตัวสินค้าหรือบริการต่อไป การ ทดสอบเรื่อง UX นี้ควรทําทั้งก่อนและหลังเปิดตัวสินค้า โดยครอบคลุม ทั้งสินค้า/บริการดิจิทัล และสินค้า/บริการทั่วไปด้วย 

72.Webpage คือ หน้าเว็บย่อยๆ ของเว็บไซต์ซึ่งจะถูกเก็บอยู่ในรูปแบบไฟล์ HTML โดย 1 ไฟล์ HTML คือ 1 เว็บเพจนั่นเอง

73.Website คือ หน้าเว็บเพจหลายหน้าที่รวมกันโดยเชื่อมโนงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์

74.White Hat คือ การทําเว็บไซต์อย่างมีคุณภาพ และการทํา SEO โดยยึดแนวปฏิบัติต่างๆ ที่ Search Engine หลายๆ ค่ายแนะนําไว้ 

 

อ้างอิง

https://moz.com

https://www.searchenginejournal.com

https://developers.google.com

https://www.campaignmonitor.com

เรียนสอบถาม คอนเทนต์นี้ คุณชอบไหมคะ

ความคิดเห็นของคุณมีความสำคัญกับเรา ขอบคุณนะคะ

Learn More

Recommended Topics

Cat Marketing เพิ่มพลังแบรนด์ด้วยน้องเหมียว
6 เทคนิคการทำ SEO Voice Search ให้ตอบโจทย์กับ Customer Experience