วันนี้ทีมคอนเทนต์ของ STEPS จะมาเล่าให้ฟังว่า 2 คำนี้ต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้แบบไหนให้เหมาะสมกับธุรกิจของเรา เรามาเริ่มกันเลย
1. PPC
PPC ย่อมาจาก Pay Per Click
คือ การทำโฆษณาใน Platform ของ Search Engine ที่จะมีการคิดเงินจากการที่มีคนคลิกโฆษณาของเรา โดยไม่จำกัดคนที่เห็น สมมติว่ามีคนเห็น 1,000 คน แต่ไม่มีคนคลิก เราก็จะไม่เสียเงิน จะเสียตามจำนวนคนคลิกเท่านั้น !!
แถมเรายังสามารถกำหนดราคาต่อการคลิกได้เอง ซึ่งราคานั้นจะไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับ keyword ที่เราใช้
อีกทั้งการทำ PPC เราสามารถเริ่มทำได้เลย (ถ้าเรามีต้นทุน) เว็บเราก็มีโอกาสอยู่ในหน้าแรกๆของ Search Engine ได้ แต่แน่นอนเราต้องเสียเงินในการทำ มีต้นทุนทุกวัน ถ้าทุนไม่เยอะก็อาจจะเริ่มทำไม่ได้ครับ
แล้วถ้าไม่มีงบ เราจะทำอะไรได้บ้าง มาดูกันต่อเลยครับ
หากเรายังไม่มีงบ SEO ก็เป็นอีก 1 ช่องทางในการทำการตลาดผ่าน Search Engine ที่ควรทำมากๆ
2. SEO
SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization
คือ การทำให้เว็บของเราติดอันดับต้นๆของ Search Engine การทำ SEO แบ่งเป็น 2 แบบ คือ SEO On Page กับ SEO Off Page
SEO On Page
คือ การใช้ทุกสิ่งภายในเว็บของเรามาทำให้ติดอันดับต้นๆของการค้นหา มีหลายปัจจัยมากๆ ไม่ว่าจะเป็น หัวเรื่องของหน้าเว็บ, การรู้จักนำลิงค์เชื่อมไปยังหน้าอื่นๆภายในเพจเราเพื่อให้เกิดการคลิกดูเพจอย่างต่อเนื่อง, คำอธิบายหน้าเว็บไซต์ และอื่นอีกมากมายที่จะทำให้เว็บเราดูน่าสนใจ น่าดึงดูดคนให้คนเข้ามาชม
SEO Off Page
คือ การโปรโมทเว็บไซต์ของเราภายในเว็บอื่นๆ เพื่อเพิ่มจำนวนให้คนเข้ามาดูเว็บเรามากขึ้น เช่นการไปติดป้ายโฆษณากับเว็บที่ดังๆที่คนเข้าไปชมเยอะๆ หรือ การทำลิงค์ออกไปยังเว็บข้างนอก และลิงค์จากเว็บข้างนอกเข้ามาเว็บเรา
ไม่ว่าจะ On Page หรือ Off Page ก็มีความสำคัญทั้งนั้นต้องทำควบคู่กันไป
ในรูปคือตัวอย่าง PPC และ SEO สังเกตง่ายๆครับ ถ้าเป็น PPC จะมีสัญลักษณ์ Ad อยู่หน้าชื่อเว็บ
หลังจากเรารู้จัก PPC และ SEO เป็นที่เรียบร้อยแล้วเรามาดูสรุปสั้นๆของทั้ง 2 วิธีการนี้กัน
PPC
- เริ่มต้นง่ายและเร็ว
- วัดผลได้ทันที
- มีต้นทุนทุกวัน
- มีโอกาสที่ User ไม่คลิก (เพราะเห็นว่าเป็นโฆษณา)
SEO
- ROI ระยะยาว
- การแสดงผลเป็นแบบ Organic
- มีความเสี่ยง keyword ไม่ติดอันดับ
- ใช้ระยะเวลามาก
- ต้องจัดระเบียบเว็บไซต์
สรุป