สิ่งที่ผู้อ่านจะได้รับจากการอ่านบทความนี้
- ปัจจุบันทุกอย่างได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลาในการทำการตลาดก็เช่นกันเนื้อหาข่าวสารจะต้องตามทันการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันจึงเกิดการทำ Real Time Marketing ซึ่ง จากรายงานของ Monetate และ eConsultancy เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่ให้บริการวิจัยข้อมูลด้านการตลาดและอีคอมเมิร์ซ วิเคราะห์ว่าการทำ Real Time Marketing นั้นสามารถเพิ่ม Conversion Rates ถึง 26%
- การทำ Real Time Marketing จะต้องประกอบไปด้วยปัจจัยดังต่อไปนี้
- ทีมงานในการตัดสินใจและลงมือทำในระยะเวลาอันสั้น
- ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทำคอนเทนต์และช่วงเวลาในการสื่อสารออกไป
- ความเหมาะสมของเนื้อหาที่จะต้องไม่ติดเรื่องลิขสิทธื์ การใช้คำที่กระทบต่อความรู้สึกผู้อื่น
- รูปแบบการทำ Real Time Marketing ทั้ง 4 รูปแบบและตัวอย่างที่จะทำให้ผู้อ่านได้เข้าใจและเห็นภาพมากขึ้น
- Live event photos
- Keyword # Hashtag
- Live Streaming
- Short cut video
ปัจจุบันเป็นยุคของเทคโนโลยี ที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และอะไรก็เกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่นาที ไม่แปลกหรอกค่ะ ที่ใครๆก็ต้องการความเร่งด่วน ต้องการข้อมูลที่อัปเดต ทันสมัย และทันที เพราะทุกๆอย่างที่อยู่รอบตัวเรา หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เช่นเดียวกัน ในมุมมองของลูกค้าก็ต้องการข้อมูลที่อัพเดท ข้อมูลใหม่ๆ ดังนั้น Real Time Marketing จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ในการทำการตลาดที่จะตอบโจทย์ความรวดเร็วของความต้องการที่ลูกค้ามีให้กับแบรนด์ จากรายงานของ Monetate และ eConsultancy เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่ให้บริการวิจัยข้อมูลด้านการตลาดและอีคอมเมิร์ซ วิเคราะห์ว่า การทำ Real Time Marketing นั้นสามารถเพิ่ม Conversion Rates ถึง 26% และหากใครที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้คุณก็จะได้เปรียบในตลาดอย่างแน่นอน ดังคำที่ว่า “ปลาเร็วกินปลาช้า”
การทำ Real Time Marketing คืออะไร ?
การทำ Real Time Marketing คือการทำคอนเทนต์รูปแบบต่างๆ จะกล่าวถึงเหตุการณ์หรือเรื่องที่กำลังเป็นที่น่าสนใจ ณ เวลานั้น โดยใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังเป็นที่พูดถึง แฝงตัวคอนเทนต์เกาะกระแสเพื่อให้เข้าไปอยู่ในวงการสนทนา สื่อสารออกไปได้ถูกที่ถูกเวลา นั้นอาจต้องดูหลายๆปัจจัยประกอบกันดังต่อไปนี้
1.ทีมงาน ต้องเตรียมความพร้อมของทีม ในการทำงานเพื่อความรวดเร็ว เพราะการทำ Real Time Marketing นั้นจำเป็นจะต้องตัดสินใจและลงมือทำภายในเวลาอันสั้น จึงควรมีทีมที่ช่วยกันสร้างสรรค์ ใส่ไอเดีย เพื่อให้งานออกมาได้รวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ ประกอบด้วยทีมงานอย่างน้อย 1-3 คนในส่วนที่ วางแผนตัดสินใจ เขียนคอนเทนต์ ทำกราฟิกประกอบ แต่ต้องมีคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจเพียงพอต่อการตัดสินใจสื่อสารคอนเทนต์ออกไปสู่สาธารณะ
บทความแนะนำ 6 ตำแหน่งงานที่ต้องมี ในการสร้างทีม Digital Marketing
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://stepstraining.co/strategy/digital-marketing-4
2.ช่วงเวลา เราควรศึกษาถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น เพื่อคาดการณ์เวลาที่เหมาะสมในการทำคอนเทนต์และสื่อสารออกไปเพราะแต่ละเทรนด์นั้นมีช่วงเวลาที่จำกัดเราควรศึกษาให้ดีว่าช่วงเวลาไหนที่เราควรจะสื่อสารคอนเทนต์นี้ออกไปโดยเราสามารถแบ่งออกมาได้ 2 ช่วงเวลานั้นก็คือ
- เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน เป็นสิ่งที่เราไม่รู้มาก่อนว่าจะเกิดขึ้น ส่วนใหญ่เหตุการณ์แนวนี้จะเป็นที่พูดถึงกันเพียง 1-2 วัน และหายไป ความรวดเร็วและการตัดสินใจจึงสำคัญมากเพราะหากคุณช้าไปเพียงก้าวเดียวอาจสูญเสียโอกาสที่สำคัญไป
- เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และทุกคนให้ความสนใจ นั้นแสดงว่าเราสามารถเตรียมรับมือกับเหตุการณ์นั้นได้ล่วงหน้าเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างเช่น เทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ ลอยกระทง เป็นต้น
3.ความเหมาะสม เราควรพิจารณาถึงสิ่งที่เราต้องการสื่อออกไปนั้นว่าเหมาะสมกับธุรกิจของเราหรือไม่ จะส่งผลบวกหรือลบแก่ธุรกิจของเรา บางเหตุการณ์อาจเป็นที่พูดถึงกันมากในโลกโซเชียลแต่ไม่ถูกกาลเทศะหากเราจะนำเหตุการณ์มาใช้ในการทำคอนเทนต์ อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจได้อย่างเช่น เนื้อหาเกี่ยวข้องกับความเชื่อ ศาสนา หรือเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ การใช้คำต่างๆว่ากระทบต่อความรู้สึกผู้อื่นหรือไม่
ในการสื่อสารนั้นเราต้องดูถึงความเหมาะสมของเนื้อหา รูปแบบคอนเทนต์และช่องทางในการสื่อสารว่าเหมาะสมกับผู้รับสารรึเปล่า จึงขอยกตัวอย่างรูปแบบการทำ Real Time Marketing มา 4 รูปแบบดังนี้
4 รูปแบบการทำ Real Time Marketing
1. Live event photos
การใช้รูปภาพในการสื่อสารนั้นเป็นสิ่งที่หลายๆท่านใช้กันมาตลอดและแน่นอนค่ะ เพราะยังได้ผลในการสร้างการรับรู้และเข้าถึงผู้อ่านได้ดี เนื่องจากคนเราสามารถมองเห็นและเข้าใจรูปภาพเร็วกว่าตัวหนังสือ 60,000 เท่า !! โดยเราสามารถใส่ลูกเล่นรูปภาพ กราฟิก ข้อความ ต่างๆเพื่อเพิ่มความน่าสนใจและอธิบายสิ่งที่ต้องการสื่อสารได้ง่ายขึ้น การใช้รูปภาพในการสื่อสารนั้นสามารถนำไปใช้กับทุกๆ ช่องทางของโซเชียลมิเดีย
บทความแนะนำ 7 เครื่องมือ สร้าง Photo Content จบถ้วนอย่างง่าย (ไม่จำเป็นต้องทำ Photoshop เป็น)
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://stepstraining.co/content/7-tools-photo-content
การใช้รูปภาพในการสื่อสารแบบ Real Time Marketing เป็นรูปแบบที่หลายๆท่านนำมาใช้กันในการทำการตลาด กรณีศึกษาของ จากงานของ Super Bowl 2018 มีหลายแบรนด์ได้ใช้สถานการณ์การไฟดับในควอเตอร์ที่ 2 มาใช้เรียกกระแสเหมือนที่ โอริโอ้ได้ทำในงาน Super Bowl 2013 ที่เกิดเหตุการณ์ไฟดับถึง 35 นาที ซึ่งทางโอริโอ้นั้นได้ถือโอกาสนี้ ทวิตข้อความว่า “Power out? No problem. You can still dunk in the dark” (ไฟดับหรอไม่มีปัญหา เพราะคุณยังสามารถ(โอริโอ้)จุ่มนมกินในที่มืดได้นะ) ปรากฎว่า มีผู้รีทวิตไปนับหมื่นครั้ง
2. Keyword หรือ # Hashtag
การใช้คำหรือประโยคสั้นๆ ที่กำลังเป็นที่พูดถึงก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่หลายๆท่านใช้กันเพราะเป็นคำที่ทุกคนรู้จัก เมื่อพูดแล้วนึกออกเลยว่าหมายถึงอะไร การใส่ # ตามโซเชียลต่างๆโดยเฉพาะช่องทางของ Twitter ที่มีขึ้น Top 5 ว่า # ไหนกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ซึ่งเราอาจจะสร้างคำของตนเองหรือนำกระแสที่กำลังเกิดขึ้นมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์
กรณีศึกษา จากเหตุการณ์การแข่งฟุตบอลโลก คู่ระหว่าง อิตาลี กับ อุรุกกวัย ที่หลุยส์ ซัวเรส ได้ทำเอาแฟนๆบอลหลายคนยังจำได้ไม่ลืมนั้น เพราะหลุยส์ ซัวเรส ได้กัดนักฟุตบอลอิตาลีเข้า ด้วยเหตุการณ์นี้หลายแบรนด์ได้นำมาทำ Real Time Marketing กันอย่างรวดเร็ว อย่างเช่นแบรนด์ Snickers ก็ได้ใช้ #LuisSuarez ในการโพสต์ลงทวิต ว่า Hey @luis16suarez. Next time you’re hungry just grab a Snickers. (เฮย หลุยส์ ซัวเรส ถ้าคุณหิว คราวหน้าก็แค่กิน Snickers) ทำให้เราได้เห็นกันนะคะว่าการทำ Real Time Marketing นั้นอาจไม่ยากอย่างที่คิดแค่คุณลองใส่ความคิดสร้างสรรค์ ความสนุกสนาน ลงไปในคอนเทนต์ดูก็อาจะสร้างผลตอบรับที่ดีได้
3. Live Streaming
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา Live Streaming นั้นเป็นที่นิยมมากในหลายๆกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น อีเวนท์ กีฬา การแข่งขัน E-Sport งานสัมนาต่างๆ เหตุผลที่ทำให้การ Live นั้นเป็นที่นิยมเนื่องจาก พฤติกรรมของลูกค้าที่ต้องการข่าวสาร คอนเทนต์เดียวนี้ ตอนนี้ เวลานี้เลยทันที ส่งผลให้การ Live ต่างๆเป็นที่นิยมและได้ผลตอบรับที่ดี เพราะการทำ Live Streaming นั้นสามารถถ่ายทอดสดเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นได้แบบเรียลไทม์ และ การถ่ายทอดสดนั้นสามารถสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างผู้ถ่ายทอดและผู้ดูได้สูงมาก
จากที่โซเชียลมีเดียหลายๆช่องทางเริ่มพัฒนาฟีเจอร์การทำ Live ออกมาให้เห็นกันมากขึ้นเรื่อยๆเป็นเหมือนอีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าสนใจ สังเกตได้จากหลายๆอย่างรอบตัวเราเริ่มเปลี่ยนเป็นการใช้ฟีเจอร์ Live มากขึ้นอย่างเช่น ละคร หรือรายการต่างๆใช้การ Live มากขึ้นผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ เป็นการทำการตลาดแบบ Real Time Marketing อีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ
4. Short cut video
คอนเทนต์รูปแบบ Short cut video นั้นเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากที่หลายๆแบรนด์นำมาใช้ในการสื่อสารไปยังลูกค้า เพราะคอนเทนต์รูปแบบ Short cut video นั้นสามารถอธิบายเรื่องที่เข้าใจยากให้สามารถเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น และในการสร้างคอนเทนต์รูปแบบบวิดีโอต้องมีการวางแผนอย่างดีว่าเราต้องการจะสื่อสารข้อความแบบไหน และช่วงเวลาใดไปยังผู้รับสาร ซึ่งแตกต่างกับการทำ Live Streaming ที่ถ่ายทอดสดโดยไม่สามารถวางรูปแบบเนื้อหาในการสื่อสารได้
การทำคอนเทนต์รูปแบบ Short cut video ที่มีความยาว 1-2 นาที นั้นได้รับความนิยมอย่างมากในโซเชียลมิเดีย ซึ่งในการทำ Real Time Marketing รูปแบบวิดีโอนั้นจะต้องมีการวางแผนล่วงหน้าถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นเพราะต้องมีการวางโครงเรื่อง ขั้นตอนต่างๆ ก่อนที่จะลงมือถ่ายวิดีโอกัน
กรณีศึกษาจาก งาน Super Bowl 2018 ที่ได้มีการปล่อยโฆษณาร่วมระหว่าง 2 แบรนด์ นั้นก็คือ เมาเทนดิว กับ โดริโทส ได้จับ มอร์แกน ฟรีแมน จากแบรนด์เมาเทนดิว และ ปีเตอร์ ดิงค์เลจ จากแบรนด์โดริโทส มาแรปแข่งกัน ซึ่งโฆษณาของ เมาเทนดิว และโดริโทส ได้สร้างกระแสในการเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโซเชียลมีเดียโดยมีการใช้ # ของทั้งสองแบรนด์ขึ้นมาแข่งกัน เมาเทนดิว และ มอร์แกน ฟรีแมน คือ #IceCold มีการพูดถึงมากถึง 16,451 เมนชั่นบนโลกโซเชียล ในขณะที่ โดริโทส และ ปีเตอร์ ดิงค์เลจ ใช้แฮชแท็ก #SpitFire ถูกเห็นมากถึง 15,373 เมนชั่น บนโซเชียลมีเดียเช่นกัน นับเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาจากงาน Super Bowl ที่มีการทำ Real Time Marketing แข่งขันกันอย่างดุเดือด
วิดีโอจาก : moviemaniacsDE
จากบทความทั้งหมดทุกท่านน่าจะเริ่มเห็นแล้วใช่ไหมคะว่าการทำ Real Time Marketing นั้นมีความสำคัญอย่างไร และทำไม ต่างประเทศถึงมีการแข่งขันในการทำการตลาดอย่างดุเดือด แย่งชิงพื้นที่บนโลกออนไลน์กันอย่างมาก เพราะการทำ Real Time Marketing นั้นสามารถช่วยเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์เราได้มากยิ่งขึ้น โดยการทำให้แบรนด์ของเรานั้นได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกระแสต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น แต่การจะทำ Real Time Marketing นั้นจำเป็นต้องวิเคราะห์ถึงปัจจัยต่างๆของธุรกิจว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะไม่ใช่ทุกธุรกิจจะเหมาะสมกับการทำ Real Time Marketing ดังนั้นเราควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจทำ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกๆท่านนะคะ