ในยุคที่คนทำคอนเทนต์ ต้องมองเห็นความสำคัญของ “Data”

data-driven กับการทำคอนเทนต์ (Content)

“Data” คำ ๆ นี้พวกเราคงจะคุ้นเคยกันมาและรู้ว่ามันเริ่มมีอิทธิพลกับชีวิตของเราขนาดไหนใช่มั้ยคะ โดยเฉพาะกับการทำการตลาดปัจจุบันที่มักจะต้องพึ่งพาการวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บมาเพื่อวางกลยุทธ์ให้เกิดประสิทธิภาพ

และสำหรับการทำ Content Marketing ก็เช่นเดียวกันค่ะ เพราะการทำคอนเทนต์ปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงขึ้น นั่นทำให้เราไม่อาจจะพึ่งแต่ความคิดสร้างสรรค์ได้อีกแล้ว แต่ยังต้องพึ่งการวิเคราะห์ Data เพื่อให้ได้มาซึ่งแนวทางและกลยุทธ์ที่เหมาะสม 

มาถึงตรงนี้คงจะเริ่มสงสัยเราจะใช้ Data กับการทำคอนเทนต์ได้ยังไงบ้างใช่มั้ยคะ ?  วันนี้ทีมงาน STEPS Academy เลยจะชวนทุกคนมาหาคำตอบกันผ่านบทสัมภาษณ์ที่เราได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์คุณ จิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ ปัจจุบันอยู่ฝ่ายดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และผู้ร่วมก่อตั้ง Marketing Tech Thailand กันค่ะ โดยเนื้อหาจะเป็นยังไงบ้างนั้นมาเริ่มกันได้เลย

 

“การทำคอนเทนต์ที่จะอยู่รอดได้ ต้องมีคาแรคเตอร์ หรือ Position ของผู้ติดตามที่ชัดเจน ถ้าเราเข้าใจข้อมูล Insight เราจะเห็นเพชรตามซอกหิน คือยังมีช่องว่างให้เราสอดแทรก มีพื้นที่ให้เรายืนอย่างมั่นคงแน่นอน”

 

STEPS : คิดยังไงกับการทำคอนเทนต์ในปัจจุบัน ?


ผมว่าเราอยู่ในยุคที่คอนเทนต์ถูกสอดแทรกอยู่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบนโฆษณา บน Social Media หรือกับงานที่เราทำกันประจำ ซึ่งตัวผมเองก็ดูแลงานด้าน Search Engine Optimization ของ Sansiri อยู่เช่นเดียวกัน ดังนั้นการทำคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์จึงเป็นอะไรที่ละเอียดและซับซ้อนกว่าแต่ก่อนมาก ซึ่งเราจะทำโดยปราศจากการวางกลยุทธ์ไม่ได้

ถ้าถามว่าการทำคอนเทนต์ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อนขนาดไหน จริง ๆ ในแง่ของ Creativity หรือ ความคิดสร้างสรรค์ก็ยังเป็นเรื่องจำเป็นอยู่ในทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ทุกคนรู้ว่าคอนเทนต์มีความสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาเราพยายามผลิตคอนเทนต์ในหลากหลายทิศทาง หลากหลายมุมมอง เพียงแต่ว่าสุดท้ายมันก็จะมีทั้งที่ได้ผลและไม่ได้ผล ซึ่งก็ทำให้เกิดคำถามตามมา ซึ่งปัญหาเหล่านี้เราสามารถหาคำตอบได้จากการนำ Data มาวิเคราะห์ เช่น

จะหาไอเดียในการเขียนคอนเทนต์อย่างไร ? 

ปริมาณคอนเทนต์ต้องมากแค่ไหนถึงจะพอ ? 

เขียนแล้วปล่อยเลย หรือ ต้องคอยอัปเดตเนื้อหาให้สดใหม่ ?

เราจะต้องทำคอนเทนต์ออกไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุดเลยหรือไม่ ? 

ทำไมคอนเทนต์เดิมที่เคยปังมาก กลับไม่ได้ผล ?

STEPS : ลองยกตัวอย่างการ Data ที่สามารถวิเคราะห์เพื่อใช้กับคอนเทนต์ ?


การทำ Data-Driven ทำให้เราสามารถเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคผ่านการส่วนร่วมกับคอนเทนต์ของเรา ไม่ว่าจะผ่าน Social Media หรือการค้นหาข้อมูลใน Google ซึ่งทำให้เราสามารถวิเคราะห์การทำคอนเทนต์ที่เหมาะกับผู้บริโภคได้

อีกหนึ่งตัวอย่างคือการวัดประสิทธิภาพคอนเทนต์ ที่ยุคนี้เราเข้าถึงเทคโนโลยีได้ไม่ยาก ค่าใช้จ่ายแทบไม่มีเพราะฟรีหรืออย่างน้อยก็ถูกลง ซึ่งทำให้เรามีโอกาสเก็บและเข้าถึง Data ใหม่ ๆ ได้มากมาย ทำให้การวัดประสิทธิภาพคอนเทนต์ด้วยเครื่องมือต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย และสามารถวัดผลได้หลากหลายมิติ 

ทีนี้เมื่อเราสามารถเห็นข้อมูลเชิงลึกหรือ Insight หลายมุมขึ้น ลึกขึ้นเราก็สามารถย้อนกลับไปดูได้ว่าความสำเร็จของคอนเทนต์ หรือ ความผิดพลาดมันมีส่วนผสมอย่างไร เมื่อเราเข้าใจส่วนผสมเหล่านั้นผ่านการทำ Visualization หรือ Dashboard ต่าง ๆ เราก็จะสื่อสารส่วนผสมเหล่านั้นไปให้คนอื่น ๆ รุ่นสู่รุ่นได้ รวมทั้งยังสามารถหาจุดสมดุลของความพยายาม และ ผลลัพธ์ที่ได้ เพื่อการตัดสินใจจะทำ หรือไม่ทำด้วยการจัดอันดับความสำคัญของงาน ซึ่งนี่คือตัวอย่างและหลักการของ Data-Driven หรือการใช้ข้อมูลมาขับเคลื่อนการตัดสินใจกับคอนเทนต์ร่วมกัน

เครื่องมือ "Google Trend" สำหรับดูเทรนด์การค้นหา
เครื่องมือ “Google Trend” สำหรับดูเทรนด์การค้นหา


STEPS : เทคโนโลยีที่ว่าคือ MarTech ใช่ไหม ? มันคืออะไร และช่วยในการทำคอนเทนต์ได้ยังไงบ้าง ?


Marketing technology คือเทคโนโลยีที่รวมถึงเครื่องมือ (Tool) และ ระบบ (Platform) ที่พัฒนาเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในด้านกิจกรรมทางการตลาด (Marketing) ซึ่งในกรณีของการทำคอนเทนต์เครื่องมือ MarTech เปิดให้เราเข้าใจ  3 มิติ ไม่ว่าจะเป็น 

  1. เข้าใจประสิทธิภาพคอนเทนท์ของเราในอดีต
  2. เข้าใจคู่แข่งหรือ ผู้มาก่อนกาล ทำให้เราได้ข้อมูลเชิงลึกจากคนเหล่านี้มาปรับใช้ หรือ หาโอกาสทางธุรกิจ
  3. เข้าใจ Demand ของโลก เพิ่มมุมมองความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก
เครื่องมือ "Ubersuggest" สำหรับการทำ SEO
เครื่องมือ “Ubersuggest” สำหรับการทำ SEO


STEPS : แล้วการใช้ MarTech ยากไหม มีค่าใช้จ่ายสูงหรือเปล่า ?


ไม่ยากเลย ราคาถูกมากแทบจะฟรี

STEPS : อย่างงี้ถ้าอยากเรียนรู้เกี่ยวกับ MarTech เพิ่มเติมไปตามได้ที่ไหน ? 


สามารถติดตามข่าวสารและความรู้ด้าน MarTech ที่ Marketing Tech Thailand ได้เลยครับ โดยกลุ่มนี้ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อสื่อสารและให้ความรู้กับนักการตลาด ในการนำ MarTech เข้ามาช่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานด้าน Analytic, ด้านการทำ Data Visualization, การ Marketing Automation และด้านการทำ Social media ต่าง ๆ

STEPS : พูดถึงหลักสูตรใหม่ที่ทำร่วมกันกับ STEPS Academy กันบ้าง


หลักสูตรนี้ชื่อว่า Data-Driven Content Strategy ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ผมตั้งใจทำให้ทุกคน ได้รู้จักวิธีใช้ MarTech ในการหาไอเดียและเมื่อได้ไอเดียมาแล้ว เราก็จะมี Workshop หรือ Decision Method ต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ เช่น

  • เลือกว่าคอนเทนต์อะไร ที่เราต้องรักษาคุณภาพเอาไว้ยิ่งชีพ 
  • คอนเทนต์ไหนที่เราควรใช้สร้างการรับรู้ (Awareness) เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ เท่านั้น
  • คอนเทนต์ไหนเป็น Converter ที่มีความสำคัญจำเป็นต้องรักษา Conversion Rate เอาไว้ให้ได้
  • คอนเทนท์ไหนที่เราไปใช้ความพยายามมากไป หรือ ใช้ทรัพยากรคนทำงานผิดจุด

นอกจากนั้นยังมีกระบวนการ Workshop เรื่อง Data Visualization แบบ Analog แนะนำวิธีการการทำ Report ที่ใช้ได้จริง ประยุกต์ใช้ได้ตั้งแต่การใช้กับ Working Team ไปจนถึงการทำ Report ที่ใช้กับผู้บริหารระดับสูงด้วยครับ

เครื่องมือ "Google Search Console" เพื่อตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์และ SEO
เครื่องมือ “Google Search Console” เพื่อตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์และ SEO


STEPS : สุดท้ายมีอะไรอยากฝากกับผู้อ่านเกี่ยวกับการทำคอนเทนต์ไหม ? 


ผมว่ายุคนี้การทำคอนเทนต์ที่จะอยู่รอดได้ ต้องมีคาแรคเตอร์ หรือ Position ของผู้ติดตามที่ชัดเจน ถ้าเราเข้าใจข้อมูล Insight เราจะเห็นเพชรตามซอกหิน คือยังมีช่องว่างให้เราสอดแทรก มีพื้นที่ให้เรายืนอย่างมั่นคงแน่นอน

เรียนสอบถาม คอนเทนต์นี้ คุณชอบไหมคะ

ความคิดเห็นของคุณมีความสำคัญกับเรา ขอบคุณนะคะ

Learn More

รวมขนาดรูป Facebook สำหรับปี 2021 พร้อมเคล็ดลับการใช้
10 Social Media Trend ในปี 2021 โดย Hubspot และ Talkwalker