เมื่อเราใกล้เข้าสู่ปี 2024 Content Marketing กําลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเกิดขึ้นจากการผสมผสานความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และให้ความสําคัญกับการมีส่วนร่วมระหว่างลูกค้ากับแบรนด์มากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้มีความเกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับการตลาด B2B ตัวอย่างธุรกิจ B2B เช่น ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ผู้ผลิตสินค้า OEM ขายส่ง และประเภทธุรกิจอื่นๆ ตั้งแต่ขนาดเล็กอย่าง SME ไปจนถึงขนาดใหญ่ ที่ต่างก็มุ่งเน้นที่จะเป็นผู้นําและโชว์ความสามารถในการแข่งขันในโลกดิจิทัลที่ มีความผันแปรไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพของการตลาดที่ต้องการเชื่อมต่อกับลูกค้า เป็นสิ่งที่สําคัญมากขึ้นและจําเป็นต้องพยายามผลักดันให้กลยุทธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาดให้ได้
ในบล็อกนี้เราจะมาเจาะลึกแนวโน้มของเทรนด์การตลาดสําหรับการทําคอนเทนต์ หรือ Content Marketing Trends 2024 โดยรวบรวม 5 สิ่งที่จะมาพลิกโฉมวงการ Content Marketing Trends 2024 สําหรับธุรกิจ B2B และธุรกิจอื่นๆ
1. กลยุทธ์ Content Marketing ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล “Data-Driven Content Strategy”
เป็นการรวมการวิเคราะห์ข้อมูลเข้ากับกลยุทธ์ Content Marketing เป็นแนวโน้มอันดับต้น ๆ สําหรับนักการตลาดในปี 2024 ข้อมูลเชิงลึกของ Gartner กล่าวว่า “กลยุทธ์การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลสามารถช่วยกําหนดเป้าหมายและกําหนดเป้าหมายลูกค้าใน อุดมคติได้อีกครั้ง”
ซึ่งส่วนของข้อมูลมีความเกี่ยวข้องในการสร้างเนื้อหาที่มีผลต่อลูกค้าในมุมทางธุรกิจที่เฉพาะเจาะจง การใช้ประโยชน์จากข้อมูล ทําให้นักการตลาดหรือ Marketer สามารถปรับแต่งกลยุทธ์ SEO ที่ใช้ในแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อให้เกี่ยวข้องและสอดคล้องในการค้นหา หรือการ search เพื่อให้มั่นใจว่าเนื้อหาของแบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. คอนเทนต์ประเภทวิดีโอและเสียง “Video and Audio Content”
คอนเทนต์ประเภทวิดีโอและเสียงกำลังเป็นที่นิยมมาก ซึ่งอาจจะส่งผลต่อธุรกิจ B2B โดยตรง การคาดการณ์ของรายงานอินเทอร์เน็ตประจําปีของ Cisco รายงานว่า “ภายในปี 2565 82% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมดจะเป็นวิดีโอ” ซึ่งในส่วนนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าเนื้อหาวิดีโอจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2567
แนวโน้มของการเสพสื่อประเภทวิดีโอกําลังเติบโตขึ้น ประกอบกับครอบคลุมรูปแบบที่หลากหลาย ตั้งแต่วิดีโอแบบสั้นบนแพลตฟอร์ม TikTok และ Instagram ไปจนถึงวิดีโอโซเชียลบน Facebook และ YouTube Shorts ซึ่งแต่ละรูปแบบนําเสนอวิธีที่มีความน่าสนใจในแบบฉบับของตัวเอง
LinkedIn Live กําลังกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสําหรับนักการตลาดในธุรกิจ B2B ด้วยความที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายใช้งานในแพลตฟอร์มนี้เป็นจํานวนมาก เป็นแพลตฟอร์มสําหรับการ Live การสาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์ และนําเสนอคอนเทนต์ด้าน Coaching นําเสนอแนวทางทางความคิด ในขณะเดียวกัน การเพิ่มขึ้นของพอดคาสต์ (Podcast) และคอนเทนต์ในรูปแบบเสียงอื่น ๆ ยังคงถูกใช้ในช่องทางบนแพลตฟอร์มที่ใกล้เคียงกัน โดยหัวข้อการนําเสนอคอนเทนต์ประเภทเสียงนี้มักถูกใช้ในการอธิบายหัวข้อคอนเทนต์ที่ค่อนข้างซับซ้อน เหมาะสําหรับการเล่าเป็นเรื่องราวผ่านเสียงมากกว่า ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่สนใจการค้นหาข้อมูลที่เป็นความรู้แบบ insignt เจาะลึก
สรุปได้ว่าแนวโน้มนี้ตอกยํ้าถึงความจําเป็นในการใช้แนวทางมัลติมีเดียที่หลากหลายในกลยุทธ์การทําคอนเทนต์หรือ Content Marketing Trends 2024
3. การปรับเปลี่ยนในแบบของแต่ละบุคคลและประสิทธิภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI “AI-Powered Personalization and Efficiencies”
ปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial intelligence (AI) กําลังปฏิวัติวงการคอนเทนต์มาร์เกตติ้ง (Content Marketing) โดยสร้างประสบการณ์การใช้งานแบบ hyper-personalized และเพิ่มประสิทธิภาพทั้งขั้นตอนการทํางานและผลลัพธ์ของชิ้นงาน ทาง Forbes เน้นยํ้าถึงพลังการเปลี่ยนแปลงของ AI ที่มีต่อวงการ Content Marketing โดยระบุว่า “AI สามารถช่วยสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครสําหรับผู้ใช้แต่ละคน”
ซึ่งความสามารถดังกล่าวของ AI นี้มีค่ามากสําหรับนักการตลาด B2B เนื่องจากช่วยให้สร้างคอนเทนต์ที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการโดยเฉพาะเจาะจง ปรับตามความชอบ และเข้าถึง Pain point ของลูกค้าในธุรกิจที่แตกต่างกันได้
นอกจากนี้ AI ยังมีส่วนร่วมในการปรับปรุงกระบวนการสร้างคอนเทนต์และการวางแผนโปรโมท ทําให้การกําหนดกลยุทธ์ทางตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้นและแผนทุกอย่างจะถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI
สําหรับนักการตลาด B2B ไม่เพียงแต่ส่งคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าและทําให้ลูกค้ามีส่วนร่วมมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังต้องปรับตัว ปรับขั้นตอนการทํางานให้เหมาะสมกับการทํางานร่วมกับ AI อีกด้วย ทั้งนี้ข้อดีของการทํางานร่วมกับ AI ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรคนทํางาน แถมยังได้ทําให้เนื้อหาคอนเทนต์มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อีกด้วย ยังไงก็ทดลองใช้กันดูนะคะ หรือถ้าอยากเรียนรู้การใช้งานแบบมืออาชีพ ลองดูคอร์ส ChatGPT for Content Marketing นี้ได้เลย ทาง STEPS เรามีเปิดสอนต้นปี 2024 นี้ค่ะ
4. คอนเทนต์กระตุ้นการมีส่วนร่วม “Interactive Content”
Interactive Content คือ คอนเทนต์แบบมีส่วนร่วม ซึ่งรวมถึงแบบทดสอบหรือ Quiz, Poll และกิจกรรม Live บนโซเชียลมีเดียที่กําลังเป็นที่นิยมใน Content Marketing รูปแบบใหม่ โดยคอนเทนต์ประเภทนี้มักจะอยู่ในแพลตฟอร์ม Instagram โดยเฉพาะ Stories และกําลังกลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการดึงดูดความสนใจและส่งเสริมการโต้ตอบระหว่างแบรนด์และผู้ใช้งาน ตัวอย่างเช่น กิจกรรม Live สดบนโซเชียลมีเดียบน LinkedIn Live เป็นแพลตฟอร์มสําหรับการมีส่วนร่วมแบบ real-time เป็นการเพิ่มโอกาสสําหรับการ Q&A ถามตอบในประเด็นที่มีข้อสงสัยระหว่างแบรนด์กับผู้ใช้งานที่ตรงกลุ่มเป้าหมายในบางธุรกิจ
รูปแบบของการ Live จะเป็นขายของ สาธิตการใช้งานผลิตภัณฑ์ รวมถึงการพูดคุยหารือในประเด็นที่น่าสนใจกับหัวข้อคอนเทนต์นั้นๆ ซึ่งรูปแบบของคอนเทนต์ที่กล่าวไปคือ เป็นแบบการเพิ่มการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ที่จะเริ่มมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น
เพราะเป็นการกระตุ้นความรู้สึกแบบ real-time เสมือนเป็นการสร้าง engage แบบ offline ในรูปแบบของ online ด้วยการผสมผสานองค์ประกอบของ Interactive Content นี้เข้ากับกลยุทธ์ Content Marketing นักการตลาดในธุรกิจ B2B สามารถส่งเสริมการมีส่วนร่วมโดยนําไปปรับใช้กับกลยุทธ์การตลาดได้ในทันที
5. การเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาด้วยเสียงและบทบาทสําคัญของ SEO (Search Engine Optimization)
การเพิ่มขึ้นของการค้นหาด้วยเสียงกําลังส่งผลต่อกลยุทธ์การทํา SEO อย่างมีนัยสําคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สําหรับนักการตลาดในธุรกิจ B2B เนื่องจากปัจจุบันอุปกรณ์เปิดใช้งานด้วยเสียงเป็นที่นิยมสูงขึ้นและแพร่หลายมากขึ้น Search Engine Journal ตั้งข้อสังเกตว่า “การเพิ่มประสิทธิภาพสําหรับการค้นหาด้วยเสียงคือการเพิ่มประสิทธิภาพสําหรับการทํา SEO ด้วยวิธีการพูดอย่างเป็นธรรมชาติ” โดยเน้นการเปลี่ยนแปลงจาก SEO ที่เน้นคําหลักแบบกลยุทธ์แต่ก่อน ไปสู่รูปแบบคําถามและคําตอบที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งวิวัฒนาการในพฤติกรรมการค้นหา ประกอบกับการใช้ ChatGPT ที่เพิ่มขึ้นสําหรับการสร้างคอนเทนต์ดิจิทัล ทําให้นักการตลาดต้องปรับตัวโดยที่เน้นการสร้างเนื้อหาที่จัดการกับข้อความค้นหาที่ใช้คําเฉพาะเจาะจง และปรับให้เป็น Long-tail keywords มากขึ้น
นอกจากนี้การเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาด้วยเสียงสอดคล้องกับการทําให้คอนเทนต์มากขึ้น เพื่อรองรับผู้ใช้ที่พึ่งพาการนําทางด้วยเสียง เนื่องจากลักษณะพิเศษของผู้ใช้นั้น หรือพฤติกรรมความชอบในการใช้งานรูปแบบเสียง นอกจากจะเกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพของคอนเทนต์สําหรับการค้นหาโดยใช้ภาษาแล้วนั้น แต่ยังต้องแน่ใจว่าเว็บไซต์และแพลตฟอร์มดิจิทัลสามารถรับการสั่งการด้วยเสียงและเข้าใจผ่านคําสั่ง เสียงได้ด้วย
สรุปการเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาด้วยเสียงจึงมีจุดประสงค์อยู่ 2 ข้อ
- เพิ่มการมองเห็นในผลการค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วยเสียง และทําให้คอนเทนต์สําหรับธุรกิจ B2B สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นสําหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่กว้างขึ้นที่รวมถึงผู้ทุพพลภาพพิการทางการได้ยิน
- การให้ความสําคัญในการมองเห็นและการเข้าถึงกําลังกลายเป็นส่วนสําคัญของแนวทางปฏิบัติ SEO สมัยใหม่นี้ ซึ่งเป็นก้าวสําคัญต่อกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่ครอบคลุมทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ
บทสรุป
ปี 2024 เป็นปีแห่งโอกาสในการใช้ประโยชน์จากสิ่งเร้าที่เป็นประโยชน์ที่ได้เล่าไป เพื่อกําหนดกลยุทธ์ของการทําคอนเทนต์ในส่วนงานด้านการตลาดที่มีประสิทธิภาพและทําให้ผู้คนมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น โดยรูปแบบของคอนเทนต์แบบวิดีโอและเสียงไปจนถึงการใช้ AI และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงกลยุทธ์ สิ่งสําคัญคือ นักการตลาดจําเป็นที่จะต้องให้ความสําคัญของการปรับตัว ความคิดสร้างสรรค์ และมุ่งเน้นที่การส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าเสมอ
พร้อมที่จะยกระดับการตลาดของคุณในปี 2024 แล้วหรือยังคะ มาเตรียมความพร้อมกับทีม STEPS Academy เพื่อดูแนวทางในการทํา data-driven จะผนวกเข้ากับกลยุทธ์การตลาดได้ยังไง และจะสามารถช่วยให้แบรนด์ของคุณและเป้าหมายเพิ่มสูงขึ้นได้ยังไง เริ่มที่หลักสูตร Data Analytics for Marketing Management ปี 2024 และเรียนรู้การยกระดับการสร้างคอนเทนต์ด้านการตลาดให้เท่าทันเทรนด์ Content Marketing 2024 กันได้ที่ หลักสูตร Digital Content Marketing และหลักสูตร ChatGPT for Content Marketing
